xs
xsm
sm
md
lg

ยังปิดไม่สนิทคดีฆ่าที่เกาะเต่า ตร.ดาหน้าเคลียร์ข้อสงสัยชาวโซเชียล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจดาหน้าออกมาชี้แจงข้อสงสัยของชาวโซเชียล กรณีจับผู้ต้องหาคดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษที่เกาะเต่า แจงถี่ยิบทั้งเรื่องโทรศัพท์มือถือ บาดแผลบนศพผู้เสียชีวิต แม้แต่ทรงผมของผู้ต้องสงสัยในภาพกล้องวงจรปิดไม่เหมือนกับตัวจริง ยืนยันไม่จับแพะร้อยเปอร์เช็นต์

ยังปิดไม่สนิทคดีฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 ศพ ที่หาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามจับกุมคนร้ายเป็นชายชาวพม่า จำนวน 2 คน มาดำเนินคดีได้แล้ว แต่เรื่องก็ยังไม่จบโดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มนักสืบโซเชียล ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงข้อสงสัย และช่องโหว่ต่างๆ ที่ทำให้หลายคนเกิดข้อกังขาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีการโพสต์ข้อความคิดเห็น ผ่านทางเว็บเพจต่างๆ กันอย่างคึกคัก จนทำให้ขณะนี้ทางตำรวจเองก็อยู่ไม่ติด มีการออกมาชี้แจงขอสงสัยกันเป็นระยะ

• แจงถี่ยิบที่ชาวโซเชียลสงสัย

โดยเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก Thailand Police Story ก็ได้มีการโพสต์ข้อความชี้แจงกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยในการทำคดีฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า ทั้งเรื่องโทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่ถูกทุบนั้น เป็นของนายเดวิด ไม่ใช่ของ น.ส.ฮันนาห์ เรื่องเรื่องภาพในกล้องวงจรปิดที่บอกว่าเหมือนไม่ใช่คนเดียวกันนั้น โดยชี้ขอชี้แจงว่าเป็นคนเดียวกันเพียงแค่หวีผมไม่เหมือนกัน และที่เกาะเต่า มีแรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้ลงทะเบียนกว่า 3,000 คน สุดท้ายผลการตรวจ DNA ของคนร้ายคือ หลักฐานที่ศาลจะเป็นคนตัดสิน

โดยได้ตอบข้อสงสัยคดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวที่เกาะเต่า ที่เป็นข้อสงสัย 4 ข้อ ประกอบด้วย

1.ตำรวจแถลงว่า โทรศัพท์มือถือของผู้ตายถูกทุบทิ้งแล้วโยนไว้หลังบ้านพักชาวพม่า แต่ทำไมถึงมีรูปหลุดมาว่าโทรศัพท์ของ น.ส.ฮันนาห์ ยังอยู่บนโต๊ะรับแจ้งความ เฟซบุ๊ก Thailand Police Story ชี้แจงว่า มือถือที่ชาวพม่าขโมยไปแล้วทุบทิ้งเป็นของผู้ตายคือ นายเดวิดครับ ไม่ใช่ของ น.ส.ฮันนาห์

2.ภาพนายเมา เสื้อขาวที่ออกสื่อมีทรงผมหยิกๆ ฟูๆ แต่ทำไมในกล้องวงจรปิด พบคนที่มีผมเรียบตรง เหมือนไม่ใช่นายเมา เฟซบุ๊ก Thailand Police Story ยืนยันว่า เป็นคนเดียวกัน ภาพการจับกุมนายเมา (วันที่ใส่เสื้อเหลือง) ก็มีผมเรียบตรงเหมือนกัน (ขึ้นอยู่กับการหวีผมในแต่ละวันครับ)

3.ภาพศพของนายเดวิด มีรอยแตกปริเหมือนโดนมีด มากกว่าที่จะโดนจอบในการฆ่า เฟซบุ๊ก Thailand Police Story ชี้แจงว่า ผมมีภาพศพ น.ส.ฮันนาห์ ระยะใกล้ หน้าผากถูกจอบกระทุ้งสับระหว่างนอน แผลจึงแตกเป็นรูกว้าง แต่นายเดวิด ถูกเหลี่ยมจอบเหวี่ยงใส่หัว และใบหน้าระหว่างเดิน เหลี่ยมจอบทำให้เป็นรอยแตกปริ

4.คนต่างด้าวในเกาะเต่ามีที่ลงทะเบียนถูกต้อง 4,000 คน ยังไม่ลงทะเบียนอีก 3,000 คน ไม่สามารถตรวจให้ครบทุกคนได้ในช่วงแรก (รวมถึงคนร้าย) เมื่อได้พยานหลักฐานมากขึ้น จึงรู้ตัวอย่างเจาะจง และ DNA คนร้ายคือ หลักฐานที่ศาลจะเป็นคนตัดสินเอง”

• ผบ.ตร.เคลียร์ทุกข้อสงสัยของชาวโซเชียล

ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ก็ได้ตอบข้อสงสัยในประเด็นต่างๆ ที่เป็นที่สงสัยอยู่ในขณะนี้ เช่น กรณีของบาดแผลที่ตัวของนายเดวิด ที่นักสืบโซเชียลสงสัยกันว่า ไม่น่าจะเกิดจากการถูกทำร้ายด้วยจอบเพียงอย่างเดียวว่า เรื่องของบาดแผลและร่องรอยต่างๆ ที่อยู่บนร่างกายของนายเดวิด นั้น ตนไม่สามารถพูดแทนแพทย์ หรือแสดงความคิดเห็นแทนได้ เพราะแพทย์เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ส่วนกรณีการแสดงความคิดเห็นของคนผ่านทางโซเชียลนั้น อยากให้คนเหล่านั้นให้ความเคารพ และยอมรับความคิดเห็นของแพทย์ ตนเองก็ไม่สามารถไปบอกได้ว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากรอยจอบ รอยไม้ หรือรอยอะไร คนที่จะชี้ได้ต้องเป็นแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเท่านั้น อย่าคิดเอง พูดเอง ให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนพูดดีกว่า

ส่วนประเด็นเรื่องโทรศัพท์มือถือที่หลายคนสงสัยนั้น ทรัพย์สินที่เป็นของผู้เสียชีวิตฝ่ายหญิง ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งคืนให้แก่ญาติเรียบร้อยไปแล้ว ตั้งแต่มาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนโทรศัพท์มือถือที่พบที่บ้านผู้ต้องหานั้นเป็นของนายเดวิด ซึ่งเป็นคนละเครื่องกัน กรณีนี้ก็เช่นกัน บางครั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ชี้แจงข้อมูลทั้งหมด เนื่องจากเป็นเรื่องของสำนวนการสอบสวน การที่จะนำข้อมูลในสำนวนสอบสวนมาเผยแพร่ หรือให้ข้อมูลเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควร เพราะอาจจะทำให้เสียรูปคดี หรือคดีเสียหายได้

ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องภาพของกล้องวงจรปิดกรณีทรงผมของนายเมากรณีที่แตกต่างจากทรงผมในกล้องวงจรปิด เรื่องนี้ก็เช่นกัน การวินิจฉัยภาพจากกล้องวงจรปิดก็ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ในการดูกล้องวงจรปิดเป็นคนดู คนทั่วไปอย่างเราๆท่านๆ ก็ไม่สามารถจำแนกได้อย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นการแสดงความคิดเห็นต่างๆ จึงอยากให้ผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นคนแสดงความคิดเห็นมากกว่า การแสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ดเป็นการสร้างปัญหาให้กับการทำคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก เพราะข้อมูลในโซเชียลเป็นแค่ข่าวลือไม่มีฐานข้อมูล แต่ทางตำรวจก็ต้องเสียเวลามาสรุปประเด็นที่สังคมอยากรู้ ทำให้การเข้าสู่จุดหมายหรือการเข้าสู่การจับกุมล่าช้าไปได้ อย่างกรณีที่มีคนสงสัยเรื่องคราบอสุจิที่พบให้ที่เกิดเหตุว่ามีของนายเดวิดหรือไม่ เรื่องนี้ต่างชาติส่วนใหญ่จะใช้ถุงยางกัน การจะตอบคำถามแบบนี้ได้จะต้องเป็นแพทย์และเจ้าหน้าที่นิติเวชเท่านั้น เพราะคนเหล่านั้นเป็นผู้เก็บหลักฐานและผ่าพิสูจน์ศพ ตนจะบอกว่ามีหรือไม่มีไม่ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นพยานหลักฐาน ที่อยู่ในสำนวนการสอบสวนไม่สามารถเอามาเผยแพร่หรือชี้แจงได้ เพราะเป็นเรื่องของคดีความ เป็นเรื่องของกฎหมาย คงไม่สามารถเอามาพูดได้

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีการจับแพะร้อยเปอร์เช็นต์ ซึ่งได้มีการชี้แจงไปทางทูตอังกฤษ นายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีแล้ว การทำงานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียสละในการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ต้องการกำลังใจในการทำงานเหมือนกัน เอาแบบนี้ไม่ ถ้ามีคดีอื่นเกิดขึ้นทางตำรวจจะเชิญนักสืบโซเชียลมาร่วมคลี่คลายคดีด้วย แต่ที่แน่ๆ ขอยืนยันว่าการทำคดีนี้ทำแบบตรงไม่ตรงมา ไม่มีการกลั่นแกล้ง ไม่มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จอย่างแน่นอน

• ผกก.เกาะพะงันพร้อมตอบทุกข้อสงสัย

ขณะที่ พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.เกาะพะงัน กล่าวถึงกรณีที่มีการนำเสนอภาพโทรศัพท์มือถือ น.ส.ฮันน่าห์ ผู้เสียชีวิต โดยระบุว่าเพื่อนผู้เสียชีวิต นำส่งให้กับตนนับตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว แต่ภายหลังถูกระบุว่าติดตามมาได้จากผู้ต้องหา ซึ่งเรื่องนี้ขอชี้แจงว่า โทรศัพท์ดังกล่าวได้รับมาแล้วระหว่างเข้าตรวจค้นห้องพัก และได้มอบให้ญาติผ่านทางสถานทูตอังกฤษไปแล้ว ส่วนโทรศัพท์ไอโฟน ที่ตรวจยึดได้จากผู้ต้องหา เป็นคนละเครื่องกัน โดยเป็นของนายเดวิด ผู้เสียชีวิตอีกราย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นของนายเดวิดจริง และมีการส่งตรวจสอบประวัติการใช้ พร้อมรหัสเครื่องแล้ว

ผกก.เกาะพะงัน ระบุว่า ในช่วง 15-16 วันที่ผ่านมาหลังเกิดคดีดังกล่าว มีการตั้งประเด็นข้อสงสัยการทำงานของตำรวจผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย เป็นจำนวนมาก ในฐานะ ผกก.สภ.เกาะพงัน และเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้โดยตรง ขอเรียนให้ทราบว่าหากท่านใดยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับคดี หรือการทำงานของตำรวจ สามารถรวบรวมประเด็นข้อสงสัย ติดต่อผมผ่านทางเฟซบุ๊ก “prachum ruangthong” หรือทางอีเมล์ praphumm@hotmail.com ได้ตลอด ผมพร้อมที่จะตอบในทุกประเด็น และจะเปิดเผยหลักฐานหรือข้อสังสัยที่ไม่มีผลต่อการพิจารณาคดีในชั้นศาลต่อสาธารณชน เพราะผมมั่นใจว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่และโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น