รายงานโดย..ศูนย์ข่าวภูเก็ต
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาย -หญิงชาวอังกฤษ โดยในส่วนของนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษนั้นพบว่าถูกข่มขืนด้วย โดยเหตุเกิดที่หาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเหตุเกิดขั้นเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกระดับระดมกำลังเจ้าหน้าที่มือดีลงพื้นที่เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหาย สร้างความเสื่อมเสียให้แก่ประเทศไทยเป็นอย่างมาก
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ระยะเวลาในการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายเป็นเวลานานถึง 18 วัน จนกระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวชาวพม่า จำนวน 3 คน มาสอบปากคำ และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่ตรวจพบในตัวผู้ตาย ซึ่งจากการสอบสวนเครียดปรากฏว่า ชาวพม่า คือ นายเวพิว หรือนายวิน อายุ 21 ปี และนายซอ ลิน หือโซเรน อายุ 21 ปี ยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือทำร้าย 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษ และข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวอังกฤษรายดังกล่าว ขณะที่ตำรวจเองก็ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ออกมายืนยันผลตรวจดีเอ็นเอของชาวพม่าทั้ง 2 คน ว่า ตรงกับดีเอ็นเอที่พบในตัวหญิงสาวที่เสียชีวิต
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพื่อปิดคดี “คนร้ายฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ” ในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตำรวจจะสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว พร้อมกับเปิดเผยข้อมูลบางด้านที่สรุปว่ามีหลักฐานมัดตัวผู้ต้องหาแรงงานต่างด้าวอย่างแน่นหนา โดยเฉพาะผลการตรวจดีเอ็นเอ และคำรับสารภาพของ 2 ผู้ต้องหา แต่ยังมีข้อสงสัยที่มีการวิจารณ์กันให้แซดในโลกโซเชียล มีเดีย พร้อมกับคำถามคาใจของใครหลายๆ คนว่า “ผู้ต้องหามีแค่นี้จริงหรือ?” “อสุจิในถุงยางเป็นของใคร?” และอื่นๆ อีกหลายข้อสงสัยที่กำลังเกิดขึ้น
โดยเฉพาะเพจ CSI LA ที่มีการติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด มีคนเข้าไปชมและแสดงความคิดเห็นและแชร์ข้อมูลต่างๆ ผ่านทางแฟนเพจดังกล่าวอย่างกว้างขวาง ทั้งวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการรวบรวมข้อสงสัยต่างๆ ที่หลายๆ คนค้างคาใจ รวมทั้งเป็นช่องทางให้ผู้ที่ผู้สนใจ และเชี่ยวชาญด้านต่างๆ นำข้อมูลคดี และการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของคดีมาแชร์ และเผยแพร่ ทำให้เพจดังกล่าวเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก
ล่าสุด เพจ CSI LA ได้ตั้งข้อสังเกตในเรื่องอาวุธที่ใช้ในการฆ่านายเดวิด มิลเลอร์ ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ตายอาจถูกทำร้ายด้วยของมีคมอื่นที่ไม่ใช่จอบ โดยเพจดังกล่าวได้อธิบายว่า “จากการสังเกตภาพจากเดวิด ผมสันนิษฐานว่าคนร้ายที่ทำร้ายเดวิด น่าจะใช้มีดชก (Mini Pal Push Knife) ไม่ใช่จอบ คนร้ายน่าจะถนัดมือซ้าย เพราะบาดเเผลอยู่ทางด้านขวาของเดวิดทั้งหมด คนร้ายน่าจะมีความชำนาญในการใช้อาวุธตัวนี้ด้วย เดวิด อาจจะหมดสติจากการเสียเลือด และพิษบาดเเผล เเต่คนร้ายนำร่างของเขาไปกดน้ำให้เขาหมดอากาศหายใจ” รวมทั้งบาดแผลที่แขน และขาของนักท่องเที่ยวชาวสกอตแลนด์ที่มีลักษณะเดียวกับบาดแผลที่พบบนตัวของเดวิด
รวมทั้งกรณีโทรศัพท์มือถือที่ เพจ CSI LA ที่มีกลุ่มคนที่เข้าไปแสดงความคิดเห็น ผ่านเพจดังกล่าว ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน โดยระบุว่า โทรศัพท์ของฮันนาห์ไม่ได้ถูกขโมย แต่เพื่อนของฮันนาห์เป็นคนนำมามอบให้แก่ตำรวจเอง ทำไมตำรวจถึงไปตรวจพบโทรศัพท์ถูกทำลายทิ้งไว้ในป่าหลังห้องพักของผู้ต้องหา ซึ่งข้อสงสัยดังกล่าวทางตำรวจก็ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า เป็นโทรศัพท์คนละเครื่อง เครื่องที่พบนั้นเป็นของนายเดวิด
นอกจากนั้น คนในโลกโซเชียล ยังมีความสงสัยกรณีดีเอ็นเอที่พบ ตำรวจระบุว่า ดีเอ็นเอของ 2 ผู้ต้องหา ตรงกับดีเอ็นที่พบในร่างผู้เสียชีวิต แต่ไม่มีการพูดถึงดีเอ็นเอที่พบในถุงยางบริเวณที่เกิดเหตุ ทั้งที่น่าจะมีคนร้ายอีกรายที่ใช้ถุงยางอนามัยในการข่มขืนฮันนาห์ เพราะด้านนอกถุงยางมีดีเอ็นเอของฮันนาห์ ติดอยู่ แล้วดีเอ็นเอในถุงยางเป็นของใคร นี้ก็เป็นอีกข้อสงสัยที่มีการแชร์ข้อมูลผ่านทางเพจ CSI LA
ส่วนเรื่องภาพจากกล้องวงจรปิดก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บรรดานักสืบโซเชียล โดยเฉพาะ “CSI LA” ที่ออกมาเปิดเผยภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดของร้านที่จับภาพผู้ต้องสงสัยไว้ได้ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับร้านอาหารร้านอื่นที่อยู่ในละแวกเกิดเหตุจะพบว่า เวลาคลาดเคลื่อนช้าไป 1 ชม. โดยมีการสันนิษฐานว่า จะมีการปรับเปลี่ยนเวลาหรือไม่
ขณะที่มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียออนไลน์อีกหลายคนที่ร่วมตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผ่านทางเพจ “CSI LA” เช่น The Hoe and a finger prints? ที่แสดงความคิดเห็น ว่า ทำไมไม่มีใครพูดถึงเรื่องรอยนิ้วมือในที่นี้เลยครับ? เเล้วทำไมจอบที่เป็นวัตถุพยานสำคัญจึงถูกย้าย และเหมือนมีการทำความสะอาดก่อนไปวางไว้ที่เเปลงผัก ผมยังไม่คิดว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุข่มขืนเป็นคนเดียวกันกับผู้ลงมือฆ่าด้วยการใช้จอบ คดีนี้ตำรวจนำชี้ที่เกิดเหตุให้ผู้ต้องหาดูตลกจัง ปกติต้องให้ผู้ต้องหานำชี้เอง ประกอบที่รับสารภาพไว้แล้วทำแผนประกอบ ตำรวจจะชี้นำไม่ได้เลย
เช่นเดียวกับข้อสังเกตเรื่องกางเกงผู้ต้องหา ที่เพจ “CSI LA” ตั้งข้อสังเกตไว้ ว่า “ผู้ต้องหาชาวพม่าสวมกางเกงสีเข้ม ในขณะที่ผู้ต้องหาอีกคนสวมกางเกงขาสั้นสีอ่อน กางเกงของผู้ต้องหาไม่ใช่เป็นของเดวิด เพราะกางเกงของเดวิด ยังมีเข็มขัดอยู่ รวมทั้งใครเป็นคนถอดเสื้อผ้าของเดวิด
ส่วนเรื่องที่คนในโลกโซเซียล ยังข้องใจคือ ผู้ต้องหาที่เป็นแรงงานต่างด้าวทั้ง 2 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหา ทำไมหลังก่อเหตุถึงไม่หนีไปอยู่ที่อื่น รวมทั้งการตรวจดีเอ็นเอ ที่ผ่านมามีการตรวจดีเอ็นเอแรงงานต่างด้าวที่บาร์ต่างๆ ในพื้นที่เกิดเหตุ ทำไม 2 คนนี้ยังไม่ได้ตรวจ และเพิ่งมาตรวจหลังจากที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย และผลตรวจออกมาตรงกับดีเอ็นเอที่พบในตัวผู้ตาย ทั้ง 2 คน
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายข้อสงสัยที่ชาวโซเซียล ได้แสดงความคิดเห็นผ่านทางเพจ CSI LA และเพจอื่นๆ ซึ่งข้อสงสัยเหล่านี้เป็นเพียงข้อสังเกตของกลุ่มคนบางกลุ่มที่เสนอความคิดเห็นผ่านทางสังคมออนไลน์เท่านั้น ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ยังยืนยันผลการจับกุมเป็นไปตามมาตรฐาน ไม่จับผิดตัวแน่นอน