สน.พระอาทิตย์
ด้วยที่ “นครบาล” มีเก้าอี้ว่างเพียงแค่ 3 ตำแหน่งเท่านั้น การช่วงชิงเก้าอี้ผู้การฯทั้งสามแห่งนี้จึงดุเด็ดเผ็ดมัน เชือดเฉือนกันชนิดห้ามกะพริบตา นอกจากการเปิดศึกชิงเก้าอี้แล้ว ยังเป็นการช่วงชิงอำนาจการบริหาร ถึงขั้นเกิดศึก “2 ป.” แห่งวังปารุสก์ สะท้านสะเทือนวงการสีกากี
การแต่งตั้งโยกย้ายนายพลล็อต 2 ระดับ “รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.)-ผู้บังคับการ(ผบก.)” วาระประจำปี 2557 ยศ พล.ต.ต.ทั่วประเทศ ถูกกาปฏิทินกำหนดวันประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรจแห่งชาติ (ก.ตร.) เรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 29 ก.ย. 2557
โดยก่อนหน้านั้น “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รักษาการ ผบ.ตร. ออกหนังสือเวียนคำสั่งการแต่งตั้งโยกย้าย ให้ทุกหน่วยทำบัญชีรายชื่อผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในส่วนกองบัญชาการ (บช.) ส่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อจัดทำบัญชีในวันที่ 26 ก.ย.นี้
ปีนี้เก้าอี้ “รอง ผบช.-ผบก.” ทั่วประเทศว่าง 101 ตำแหน่ง จากเกษียณอายุราชการ 54 ตำแหน่ง แยกเป็น รอง ผบช. 11 ตำแหน่ง ผบก.43 ตำแหน่ง และว่างจากขยับตำแหน่งสูงขึ้น 47 ตำแหน่ง เป็น รอง ผบช.18 ตำแหน่ง ผบก.29 ตำแหน่ง
ที่น่าจับตาคือ “กองบัญชาการตำรวจนครบาล” หรือ ผบช.น. กองบัญชาการระดับเกรดเอ ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศ แม้ปีนี้เก้าอี้ว่างระดับ “รอง ผบช.-ผบก.” ในส่วนของนครบาลจะมีเพียง 3 ตำแหน่ง และทั้ง 3 ตำแหน่ง เป็นเก้าอี้ระดับ ผบก.ทั้งหมดที่เกษียณอายุราชการ
ประกอบด้วย ผบก.ประจำ บช.น.ของ พล.ต.ต.ทักษิณ พ่วงเงิน “ผบก.น.5” ของพล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธ์สุระ และ “ผบก.สส.บช.น.” ของ พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ขณะที่เก้าอี้ “รอง ผบช.น.” ไม่มีผู้ใดเกษียณอายุราชการ รวมทั้งยังไม่มีรอง ผบช.น.คนไหนที่ขยับขึ้นไปติดยศ พล.ต.ท.ได้เป็นผู้บัญชาการ (ผบช.) แม้แต่คนเดียว
ด้วยที่ “นครบาล” มีเก้าอี้ว่างเพียงแค่ 3 ตำแหน่งเท่านั้น การช่วงชิงเก้าอี้ผู้การฯทั้งสามแห่งนี้จึงดุเด็ดเผ็ดมัน เชือดเฉือนกันชนิดห้ามกะพริบตา นอกจากการเปิดศึกชิงเก้าอี้แล้ว ยังเป็นการช่วงชิงอำนาจการบริหาร ถึงขั้นเกิดศึก “2 ป.” แห่งวังปารุสก์ สะท้านสะเทือนวงการสีกากี
อันเห็นได้จากการแต่งตั้งระดับนายพลล็อตแรก ระดับรองผบ.ตร.-ผบช.ทั่วประเทศเป็นตัวอย่างการล้างบางรอบแรก โดยเฉพาะเก้าอี้ ผบช.เห็นภาพชัดเจนว่ากลุ่มขั้วอำนาจเก่าที่เคยยึดเก้าอี้ระดับ ผบช.ภาค และผบช.สำคัญๆ ต่างถูกโละทิ้งทั้งหมด ไล่เรียงตั้งแต่ ผบช.ภ.1-9 ผบช.ศชต. ผบช.น. ผบช.ส. ผบช.ปส. หรือ ผบช.สตม. โดนเด้งกันกันทั่วหน้า รายไหนที่อาวุโสถูกดันขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. หากยังไม่อาวุโสก็ถูกเข้ากรุ นั่งตำแหน่งประจำ หรือจเรตำรวจ
ทำให้ต่างมองว่าในการแต่งตั้งระดับ “รอง ผบช.-ผบก.” ก็คงเดินตามรอยไม่แตกต่างกัน ยิ่งกองบัญชาการนครบาล ซึ่งถือเป็นกองบัญชาการใหญ่ กลุ่มขั้วอำนาจเก่ามีการวางตัวนายตำรวจที่ใกล้ชิดเข้ามากุมอำนาจเกือบทั้งหมด เพราะเมื่อตรวจแถวรายชื่อ ผบก.สังกัดนครบาลปัจจุบัน มี พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล เป็น ผบก.น.1 พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร เป็น ผบก.น.2 พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน เป็น ผบก.น.3 พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต เป็น ผบก.น.4 พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ เป็น ผบก.น.5 พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย เป็น ผบก.น.7 พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง เป็น ผบก.น.8 พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล เป็น ผบก.น.9 พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก เป็น ผบก.จร. และพล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ เป็น ผบก.สปพ.(191)
เช็กสีเสื้อผู้การฯ แต่ละคนเกือบทั้งหมดล้วนมีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ระบอบทักษิณ รวมทั้งอดีตรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย จนในช่วงที่ คสช.ยึดอำนาจ และมอบหมายให้พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ มาคุมทัพสีกากี แทน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ต้องออกคำสั่งให้ พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ ผบก.น.1 และ พล.ต.ต.วัลลภ ผบก.น.6 มาช่วยราชการ เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.ชยุต ผบก.น.9 ก็คุ้นเคยกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จนถึงขั้นให้ลูกชาย ร.ต.อ.เฉลิมมาเป็นนายเวรตัวเอง รวมถึงผู้การฯตำแหน่งหลักในนครบาลอีกหลายคนที่อยู่ใต้ปีกอำนาจของนักการเมืองสายทักษิณที่ยังไม่โดนเช็กบิลคงจะถูกงัดไปในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้
จึงมีความเป็นไปได้ ที่“ผู้การฯ” ในนครบาลจะโดนล้างท่อทั้งหมด
ยุทธการล้างบางล้างท่อ สู้กันดุเด็ดเผ็ดมันแน่ ต้องสะกิดให้ติดตามกันชนิดติดขอบ ริงไซด์ เพราะว่ากันว่าภายใน “นครบาล” ชั่วโมงนี้ กำลังเกิดการขบเขี้ยวกันระหว่าง 2 ป. คือ “ป.แป๊ะ” พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งลงมารักษาการ ผบช.น. ตามคำสั่ง พล.ต.อ.วัชรพล กับ “ป.ปู” พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ว่าที่ ผบช.น.ในการจัดทำบัญชีแต่งตั้งนายพลระดับรอง ผบช.-ผบก.ครั้งนี้
เพราะต่างก็ต้องการนายตำรวจที่ใกล้ชิดตัวเองมาดำรงตำแหน่งสำคัญในนครบาล พล.ต.ท.จักรทิพย์ เป็น นรต.รุ่น 36 เคยเป็น ผบช.น. ทำให้มีเพื่อนและลูกน้องใกล้ชิดอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก ขณะที่ พล.ต.ต.ศรีวราห์ นรต.รุ่น 35 ก็ต้องการโยกเพื่อนเข้ามาช่วยงานในนครบาลเหมือนกัน ทำให้หลายตำแหน่งมาชนกัน
ตามอำนาจหน้าที่ต้องยอมรับว่า “ป.แป๊ะ” ดูจะได้เปรียบ “ป.ปู” เพราะตามระเบียบ กฎเกณฑ์ กำหนดให้ ผู้บัญชาการ มีอำนาจในการจัดทำบัญชีแต่งตั้ง เสนอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาและนำรายชื่อเสนอเข้าที่ประชุม ก..ตร. แต่ “ป.ปู” ในฐานะที่จะต้องมาบริหารงานต่อไปก็ต้องการวางตำรวจที่ตัวเองเชื่อใจมาช่วยงาน แต่ยังไม่มีสิทธิ์เข้ามาจัดบัญชี
ดูท่าศึก 2 ป.จะไม่จบลงง่ายๆ เพราะวัดกันปอนด์ต่อปอนด์ก็ต้องบอกว่าทั้งคู่ไม่ยิ่งหย่อนกัน ป.แป๊ะ จักรทิพย์ สนิทสนมและทำงานกับ พล.ต.อ.สมยศ จนรู้มือรู้ใจ ส่วน ป.ปู ศรีวราห์ ก็ถูกส่งลงมาจาก “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. น้องชาย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กำกับดูแลงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ดังนั้น กว่าจะถึงวันที่ 29 ก.ย.ซึ่งเป็นกำหนดดีเดย์ ประชุม ก.ตร.เพื่อแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง ผบช.-ผบก.บัญชีแต่งตั้งในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล คงฝุ่นตลบ ชนิดนักวิ่ง 2 ค่าย จากฝ่าย “ป.แป๊ะ” และ “ป.ปู” คงต้องเช็กคะแนนศึก 2 ป.กันทุกยก.