ต่อวีซ่า “คำรณวิทย์”คุมนครบาล ภารกิจปราบ “ม็อบต้านรัฐบาล”

สน.พระอาทิตย์/สามยอด

จัดทัพปรับทิศสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปี ในระดับแม่ทัพสีกากี ตำแหน่ง “รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)-ผู้บัญชาการ(ผบช.)” ผ่านพ้นไปเรียบร้อย ไม่มีรายการเซอร์ไพร์ส

เพราะระดับ “รองผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร.” มีกฎคณะกรรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) บังคับจัดเรียงตามลำดับอาวุโส รวมทั้งระดับผบช.ทุกตำแหน่งก็ถูกจัดวางให้เกื้อหนุนรัฐบาลตามนโยบายนักโทษทักษิณ ชินวัตร

เหตุผลที่ทักษิณให้ความสำคัญกับการจัดวางเก้าอี้ผบช.ให้เกื้อหนุนรัฐบาล ก็เพราะตำแหน่งผู้บัญชาการเป็นตำแหน่งแม่ทัพสีกากีในระดับปฏิบัติใกล้ชิดพื้นที่ ใกล้ชิดชาวบ้าน สามารถให้คุณให้โทษทางการเมืองได้โดยตรง จึงจำเป็นต้องได้ตำรวจที่ไว้ใจเข้ามากุมบังเหียนในแต่ละพื้นที่

ตรวจแถวรายชื่อผบช.ตำแหน่งหลักๆ ที่มีการจัดวางไว้เป็นไม้เป็นมือปีนี้ ที่มีการแต่งตั้งใหม่และการรั้งคนเก่านั่งเก้าอี้ตัวเดิม ทุกตำแหน่งล้วนมีที่มาที่ไปใกล้ชิดฝ่ายการเมืองขั้วรัฐบาลแทบทั้งสิ้น

พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 ดูแลพื้นที่ภาคกลางและปริมณฑล ได้รับความไว้วางใจจากยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างมาก เพราะเคยเห็นฝีไม้ลายมือมาหลายครั้ง รวมทั้งครั้งหนึ่งเคยอบรมหลักสูตรเดียวกับนายกฯยิ่งลักษณ์มาด้วย ทำให้ได้นั่งเก้าอี้ผบช.ภ.1ต่อไปอีกสมัย

พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.2 ดูแลพื้นที่ภาคตะวันออก มีความใกล้ชิดกับพ.ต.ท.ทักษิณ และเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาวยิ่งลักษณ์ รวมทั้งได้แรงหนุนจากสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงถูกโยกจากถิ่นอีสาน บช.ภ.4 มานั่งเก้าอี้ ผบช.ภ.2 แทนหลายเขยคุณหญิงอ้อ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 ที่ขยับขึ้นไปเติบโตบนเส้นทางสายสีกากีเป็น ผู้ช่วยผบ.ตร. เพื่อปูทางวางไว้ขึ้นตำแหน่งใหญ่ในอนาคต

พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบช.ภ.3 ดูแลพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง เคยเป็นอดีตนายเวรพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดิมพล.ต.อ.ประชาพยายามผลักดันให้ลูกน้องไปผงาดพื้นที่ถิ่นอีสานตอนบน แต่ไปเจอแดงอุดรตัวพ่อสกัดกั้นจากปัญหาคาใจเก่าๆ เลยต้องโยกจากเก้าอี้ ผบช.ประจำสนง.ผบ.ตร. มาเป็น ผบช.ภ.3

พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภ.4 ดูแลพื้นที่ภาคอีสานตอนบน หัวหน้าทีมสอบสวนคดีการสลายม็อบคนเสื้อแดง ที่ทำคดีเข้าตาผู้สนับสนุนเสื้อแดงอย่างมาก จนต้องตบโบนัสให้ขึ้นจาก รองผบช.น. มาเป็น ผบช.ภ.4

พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ และตระกูลชินวัตรอย่างมาก เพราะบุคลิกเป็นคนนิ่ง พูดน้อย รับนโยบายทุกอย่าง ผลงานตลอดการทำหน้าที่ ผบช.ภ.5 ที่ผ่านมาเข้าตาเต็มๆ ทั้งการดูแลพื้นที่บ้านเกิดทักษิณ การดูแลนายกฯในการเยือนภาคเหนือ ดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ทำให้ได้รับการต่อวีซ่าบนเก้าอี้เดิมอีกปี

พล.ต.ท.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบช.ภ.6 ดูแลพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 29 รุ่นเดียวกับพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เพิ่งขยับขึ้นมาจาก รอบผงช.น.เป็น จเรตำรวจ ไม่กี่วันที่ผ่านมาแทนตำแหน่งว่างในการแต่งตั้งนอกวาระ แต่เที่ยวนี้ได้แรงดันจากเจ๊ใหญ่ภาคเหนือ ขยับจาก จเรตำรวจ (สบ8) เป็น ผบช.ภ.6

พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 ดูแลพื้นที่ภาคกลางและตะวันตก ลูกน้องใกล้ชิดพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. ติดกาวเสริมเหล็กเก้าอี้แข็งปึ้กจากฝั่งบ้านจันทร์ส่องหล้า เลยไม่มีใครกล้าไปแตะ ทำให้ยังสามารถนั่งเก้าอี้ ผบช.ภ.7 ต่อไปเช่นกัน

พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 ดูแลพื้นที่ภาคใต้ตอนบน เคยเป็นนายตำรวจที่ได้รับความชื่นชมจากพ.ต.ท.ทักษิณและพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เพราะมีดีกรีดอกเตอร์ แต่ไปเจอมรสุมปัญหาเก่าสมัยนั่งเก้าอี้ ผบช.ภ.2 จนต้องโซซัดโซเซกระดอนมาเป็น ผบช.สพฐ.ตร. ครั้งนี้ทุกอย่างน่าจะเคลียร์มากขึ้น ทำให้วีซ่าความใกล้ชิดผ่าน เพื่อให้มาพิสูจน์ฝีมือคุมถิ่นฐานเสียงประชาธิปัตย์ ขยับจาก ผบช.สพฐ.ตร.มาเป็น ผบช.ภ.8

พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ.9 ดูแลพื้นที่ภาคใต้ เพื่อนร่วมรุ่นนรต.32 ของพล.ต.ท.วินัย หลายเขยคุณหญิงอ้อ ถูกส่งลงมาดูแลปัญหาน้ำมันเถื่อน สินค้าเถื่อน ในพื้นที่ภาคใต้ได้ 1 ปี มีผลงานเข้าตาสามารถสกัดกั้นน้ำมันเถื่อน จนท่อน้ำเลี้ยงคู่แข็งตัน ได้รับโบนัสนั่งเก้าอี้ ผบช.ภ.9 อีกสมัย

พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.จชต. ดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยเป็นผู้การฯในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาก่อน รู้งาน รู้พื้นที่ จึงได้รับมอบหมายหน้าที่สำคัญให้ไปดูแลจังหวัดชายแดนภาคใต้ แก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบ หลังจากได้มานั่งริมทะเลสบายๆมา 1 ปี ขยับจาก ผบช.ภ.8 เป็น ผบช.จชต.

ไฮไลต์สำคัญ เก้าอี้ “ผบช.น.” ดูแลพื้นที่เมืองหลวง “แจ๊ด”พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ยังคงได้รับความไว้วางใจนั่งเก้าอี้ “ผบช.น.”ตามเดิม ทั้งที่ก่อนหน้านี้หลายคนคาดว่า อาจหมดเวลาเจ้าของวลี “มีวันนี้เพราะพี่ให้” เพราะมีกระแสข่าวมาตลอดว่าพ.ต.ท.ทักษิณเริ่มไม่ปลื้ม จนมีชื่อพล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 อาจจะโยกมาแทนที่

ยิ่งในการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ถูกลดเกรดจาก รองนายกฯคุมตำรวจ พี่เลิฟบิ๊กแจ๊ด มาเป็นจับกัง 1 รมว.แรงงาน ผลสะท้อนก็น่าจะมาถึง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ แต่ผิดคาด เซียนปากกาหัก เกจิตกเก้าอี้ “แจ๊ด”ยังสามารถผงาดมีวันนี้เพราะพี่ให้ในตำแหน่งผบช.น.อีกปี

เหตุผลสำคัญที่ทำให้พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้รับการต่อวีซ่าครั้งนี้ ส่วนสำคัญน่าจะอยู่ที่ปัญหาม็อบขับไล่รัฐบาล กลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม(อพส.) ภายใต้การนำของ พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ อดีตรองผบ.สส. เตรียมจับทัพขับเคลื่อนในรูปโฉมใหม่ "กองทัพประชาชน โค่นระบอบทักษิณ" ประกาศภารกิจเคลื่อนไหวมีเป้าหมายร่วมกันโค่นระบอบทักษิณให้สิ้นซาก

วันที่ 4 ส.ค.!!!

หลังฝ่ายรัฐบาลนำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อผลักดันออกมาบังคับใช้ ช่วงเปิดประชุมสภารอบนี้

ด่านหน้าในการรับมือม็อบต้านรัฐบาลครั้งนี้ จึงต้องเป็นภาระตำรวจในการดูแล และผู้นำตำรวจที่จะมาทำหน้าที่ควบคุมสั่งการก็ต้องได้คนที่โหดเหี้ยม เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา กล้าทำตามคำสั่งทุกรูปแบบ

ชื่อ “คำรณวิทย์”คือคำตอบที่ดีที่สุดในยุคนี้ ทำให้คนแดนไกลส่งสัญญาณอนุมัติต่อวีซ่า

แค่เพียงม็อบแย้มพรายจะรวมตัวชุมนุม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก็เตรียมรับมือด้วยการระดมกำลังตำรวจนครบาลกว่า 20 กองร้อย รวม 3 พันนาย พร้อมอุปกรณ์ครบมือ ซักซ้อมความพร้อมในการดูแลการชุมนุม เสมือนเป็นการข่มขวัญกลุ่มต้านรัฐบาลไปในที

“การชุมนุมสามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ก่อความวุ่นวายและกีดขวางการจราจร หากกรณีมีเหตุฉุกเฉินเจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมสถานการณ์ในทันที โดยมีขั้นตอนตามกฎหมายและแผนการปฏิบัติอย่างชัดเจน ถูกต้องตามหลักสากล และขอยืนยันตำรวจจะไม่ใช้กำลังกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยต้องอยู่ในขอบเขตจำกัดและห้ามไม่ให้มีการปิดล้อมกีดขวาง ส.ส.เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ ทุกคนต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย”

ฮึ่ม!แยกเขี้ยวขู่กันตั้งแต่เริ่มต้นกันขนาดนี้ คงไม่แปลกใจ ทำไมคำรณวิทย์ถึงได้อยู่ต่อบนเก้าอี้ทำเลทอง “ผบช.น.”อีกสมัยในทัพสีกากียุค พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว กุมบังเหียนสำนักปทุมวัน.