ที่ประชุมบอร์ดกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลตำรวจประจำปี 56 จำนวน 42 ตำแหน่งฉลุย “วินัย ทองสอง - หลานเขยหญิงอ้อ”ขึ้น ผช.ผบ.ตร “เฉลิมเกียรติ - เขยประชา” นั่งจเรตำรวจแห่งชาติ “ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์”ขยับเป็น รองผบ.ตร. ส่วน “คำรณวิทย์” เก้าอี้ ผบช.น.ยังเหนียวหนึบ
วันนี้(19 ก.ค.)เมื่อเวลา 16.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) นายนนทิกร กาญจนจิตรา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(เลขาก.พ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในตำแหน่งระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)ถึงผู้บัญชาการ(ผบช.)วาระประจำปี 2556 โดยมี พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.และพล.ต.อ.อมรินทร์ อัครวงษ์ จเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.) ร่วมกันพิจารณากลั่นกรองบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายตามที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เสนอให้พิจารณา ซึ่งการประชุมคัดเเลือกครั้งนี้เดิมทีกำหนดสถานที่ ที่ห้องประชุม 310 อาคารรัฐสภา2 รัฐสภา แต่มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่มาประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างกะทันหัน
สำหรับรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผบ.ตร.และเทียบเท่าที่ว่าง 5ตำแหน่ง มีการเสนอให้ขยับที่ปรึกษา(สบ10)สู่ตำแหน่งหลัก 3ตำแหน่ง คือ พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ10) นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 30 (นรต.30) พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษา (สบ 10) นรต.30 เป็นรองผบ.ตร. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ที่ปรึกษา (สบ 10) นรต.35 บุตรเขย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ขยับเข้าสู่ตำแหน่งหลักเป็น จเรตำรวจแห่งชาติขณะที่ตำแหน่งว่าง 5ตำแหน่ง ให้พล.ต.ท.ไตรรัตน์ อมาตยกุล รองหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ(สบ9)(รองหน.นรป.) เป็น หน.นรป.(สบ 10) พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี พล.ต.ท.อุดม รักศิลธรรม พล.ต.ท.ชนินทร์ ปรีชาหาญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ 10)
ขณะที่ในตำแหน่งระดับผู้ช่วยผบ.ตร.และเทียบเท่าที่ว่าง 11 ตำแหน่ง บอร์ดกลั่นกรองมีมติให้ พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผบช.สกบ.พล.ต.ท.อารี อ่อนชิต ผบช.รร.นรต.พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม ผบช.สยศ.ตร.พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ จตร. (สบ 8) พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร ผบช.สง.ก.ตร.พล.ต.ท.อุดม ชัยมงคลรัตน์ จตร.(สบ 8) พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 พล.ต.ท.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ จตร. (สบ 8) และ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 เลื่อนขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล จตร.(สบ 8) นรต.รุ่น 34 ขึ้นเป็นรอง จตช.(สบ 9) และ พล.ต.ต.เจษฎา อินทรสถิตย์ ผบช.สง.นรป.(สบ 8) ขึ้นเป็นรอง หน.นรป.(สบ 9) ทั้งนี้การแต่งตั้งระดับนี้เป็นไปตามอาวุโส แต่เนื่องจากพล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงศ์ นายแพทย์ใหญ่รพ.ตร.และพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบช.ก.ขออยู่ตำแหน่งเดิม แม้จะมีอาวุโสสูงก็ตาม จึงมีการขยับพล.ต.ท.วินัย และพล.ต.ท.พันธ์ศักดิ์ เลื่อนขึ้นแทนตามความเหมาะสม ซึ่งประเด็นนี้เองประธานบอร์ดกลั่นกรองตั้งข้อสังเกตุถึงการไม่เลื่อนตำแหน่งขึ้นของพล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ ทั้งที่มีอาวุโสอันดับที่1และอยู่ในตำแหน่งนายแพทย์ใหญ่มา 4ปีแล้ว ซึ่งใช้เวลาอภิปรายกันนานจึงจะให้ผ่านในที่สุด
ในส่วนระดับผบช.มีเก้าอี้ว่างจากการเกษียณอายุราชการและเลื่อนตำแหน่งขึ้น 19ตำแหน่ง และโยกย้ายสับเปลี่ยนดังนี้ พล.ต.ท.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รองผบช.ภ.7 เป็นจตร.(สบ8) พล.ต.ท.ชินทัต มีศุข รองผบช.ภ.9 เป็น จตร.(สบ8) โยกพล.ต.ท.วัฒนา สักวัตร ผบช.กมค.เป็น หัวหน้าจตร.(สบ8) พล.ต.ท.จุตติ ธรรมโนวานิช ผบช.ประจำสำนักงานผบ.ตร.ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสืบสวน เป็นผบช.กมค. พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผบช.น.ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ ทำหน้าที่เชี่ยวชาญด้านสืบสวน พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รองผบช.สพฐ.ตร.ขึ้นเป็น ผบช.สำนักยุทธศาสตร์ตำรวจ พล.ต.ท.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ นรป(สบ8) ขยับเข้าไลน์หลักเป็น ผบช.สง.นรป.โดยมี พล.ต.ต.ดุสิต สังขะเมฆะ นรป.(สบ7)ขึ้นเป็นนรป.(สบ8) พล.ต.ต.พนมศักดิ์ ทั่งทอง รองผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.(ทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านการข่าว)ขึ้นเป็น จตร.(สบ8) พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รองผบช.ภ.1อาวุโสอันดับ6ได้รับความไว้วางใจให้เป็น ผบช.สกบ.เข้ามาดูแลการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะกรณีการสร้างสถานีตำรวจที่ยังค้างคา
พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4โยกเป็นผบช.ภ.2 โดยพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. นรต.28 มือทำคดีเสื้อแดง ขึ้นเป็น ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.วิชาญ ทองประชาญ รองผบช.สง.กตร.ขึ้นเป็น ผบช.สง.กตร. พล.ต.ท.วรศักดิ์ นพสิทธิพร จตร.(สบ8) เป็นผบช.ภ.6 โดยพล.ต.ต.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ รองผบช.ศชต. ขึ้นเป็นจตร.(สบ8)แทน พล.ต.ต.ศักดา ชื่นภักดี รองผบช.สตม.ขึ้นเป็นจตร.(สบ8) พล.ต.ต.ทวีชัย วิริยะโกศล รองผบช.สกบ.เป็น จตร.(สบ8)
ทั้งนี้ในส่วนตำแหน่ง ผบช.น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปไม่มีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายแต่อย่างใด แม้ก่อนหน้านี้ผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาความผิดด้วยจริยธรรม ภายหลังผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาตามคำร้องเรียนกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดีอาญาติดยศ ผบช.น.ให้ที่เกาะฮ่องกงเป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อจริยธรรมอันดีของการเป็นตำรวจก็ตาม
พล.ต.ต.อรรถชัย เกิดมงคล รองผบช.ตชด.ขึ้นเป็นผบช.ตชด. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองผบช.ปส.ขึ้นเป็น ผบช.ปส. พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.ทำหน้าที้่บริหารงานด้านป้องกัน เป็น ผบช.ภ.3 โดยมี พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม รองผบช.ศชต. คนสนิท พล.ต.อ.อดุลย์ ขึ้นเป็น ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.ฯ แทน พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ภ.8 เป็นผบช.ศชต. พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.สพฐ.ตร. เป็นผบช.ภ.8. พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว จตร.(สบ8) เป็นผบช.สพฐ.ตร.แทน พล.ต.ต.กฤษฎิ์ศักดิ์ วิชชารยะ รองผบช.ส.ขึ้นเป็น(จตร.สบ8)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบอร์ดกลั่นกรองใช้เวลาในการพิจารณาแต่งตั้ง 2 ชั่วโมง โดยมีการอภิปรายในกรณีการเลื่อนขึ้นผู้ช่วยผบ.ตร. ที่บางรายขออยู่ในตำแหน่งเดิม ทั้งนี้รายชื่อที่ผ่านการพิจารณาในบอร์ดกลั่นกรองครั้งนี้และรายชื่อ ผบช.รร.นรต.ที่ผ่านการสรรหาโดยคณะกรรมการสภาการศึกษารร.นรต.จะต้องเสนอให้ ก.ตร.พิจารณาในวันที่ 24กรกฎาคม นี้เวลา 09.00น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ