สน.พระอาทิตย์ / สามยอด
ท่าทางต้องลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ที่มีวาระสำคัญการแต่งตั้งนายพลนอกวาระประจำปี ระดับ “ผู้บังคับการ(ผบก.)-รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.)” ทดแทนผู้ที่ลาออกและเสียชีวิต
ที่กำหนดใหม่ไว้ในวันอังคารที่ 9 เม.ย. 2556 เวลา 13.00 น.หลังจากโดนโรคเลื่อนเล่นงานอย่างกะทันหันจากเดิมกำหนดไว้ในวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะในแวดวงสีกากีอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย
เหตุและผลในการเลื่อนประชุม ก.ตร.ครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งให้ กรรมการ ก.ตร.ทราบ ว่า มาจาก “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร.ติดภารกิจไม่สามารถเดินทางมาร่วมประชุมตามวันเวลาดังกล่าวได้ จึงต้องเลื่อนออกไป ซึ่งเดิมกำหนดคร่าวๆ จะเป็นช่วงหลังสงกรานต์ วันที่ 17 เม.ย. แต่สุดท้ายก็ขยับขึ้นมาเป็นวันที่ 9 เม.ย.นี้
ทั้งๆ ที่บอร์ดกลั่นกรอง ก.ตร.ที่มี นนทิกร กาญจนจิตรา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เป็นประธาน ได้คัดเลือกผู้เข้าดำรงตำแหน่งที่ว่างเรียบร้อย พล.ต.ต.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ นรป.(สบ7) ขึ้นเป็น นรป.(สบ8) โยก พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผบช.สกบ.เป็น ผบช.สตส.สลับ พล.ต.ท.สุชีพ หนูนาง ผบช.สตส.เป็น ผบช.สกบ. พล.ต.ต.ติณภัทร ภุมรินทร์ ผบก.กองตรวจสอบภายใน 2 ขึ้น รองจเรตำรวจ (สบ7) พ.ต.อ.อนุศักดิ์ โกมลศาสตร์ รอง ผบก.กองสวัสดิการ เป็น ผบก.ตส.2 พ.ต.อ.พรวิสุทธิ์ งามปัญญา รรท.ผบก.กองบินตำรวจ เป็น ผบก.กองบินตำรวจ
พล.ต.ต.เทพ อมรโสภิต ผบก.สอ.ตชด.ขึ้นเป็น รอง ผบช.ตชด. พ.ต.อ.อำนวย พวกสนิท รอง ผบก.ตชด.ภ.4 ขึ้นเป็น ผบก.สอ.ตชด. พ.ต.อ.ทรงยศ เดชจบ รอง ผบก.ตชด.ภ.3 เป็น ผบก.ประจำ ตชด. พ.ต.อ.ประกิจฐ์ ศรียิ่งยง รอง ผบก.ภ.จว.ระนอง เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการเดินเรือ พ.ต.อ.พัฒนวุฒิ อังคะนาวิน รอง ผบก.สส.ศชต.ขึ้นเป็น ผบก.ศฝร.ศชต.
ว่ากันว่า แม้เบื้องหน้าต่างยืนยันเหตุผลการเลื่อนประชุม ก.ตร. มาจาก “เหลิม” ติดภารกิจ แต่เบื้องลึกๆ แล้ว ในแวดวงสีกากีต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเกิดจากผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจไม่ลงตัว มีการวิ่งต้น ประลองพลังกันชนิดฝุ่นตลบ จน “บิ๊กอู๋” พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในฐานะผู้ที่ต้องเสนอบัญชีแต่งตั้งเข้าวงประชุม ก.ตร.พิจารณา ต้องนั่งกุมขมับ
หลังจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แจ้งไปยังคนดูไบว่าในการแต่งตั้งนอกวาระครั้งนี้ จะขอแต่งตั้งระดับ “ผบช.” 1 ตำแหน่ง ตามสัญญาใจจากเพื่อนๆ นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 29 ที่มีการตกลงกันไว้ว่า พล.ต.ท.พจน์ ไทยกล้า จเรตำรวจ (สบ8) เทียบเท่า ผู้บัญชาการ เตรียมยื่นใบลาออกจากราชการ แม้จะเหลืออายุราชการไม่กี่เดือนก็จะเกษียณ 30 ก.ย. 2556 เพื่อเปิดโอกาสให้ พล.ต.อ.อดุลย์ ใช้โควตารุ่น 29 ดันเพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.ต.โกศล พัวเวส รอง ผบช.ภ.2 ติดยศ พล.ต.ท.อีกหนึ่งคน
แต่ดูเหมือนว่าเรื่องที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แจ้งให้คนดูไบทราบไว้ตั้งแต่หลายเดือนก่อน ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับแบบไม่มีปัญหาใด แต่พอถึงวันจะแต่งตั้งจริงๆ กลับมีการส่งสัญญาณว่า ไหนๆ ก็จะแต่งตั้งระดับ ผบช.แล้ว ก็ให้โยกสลับ ผบช.ในตำแหน่งอื่นๆ ในคราวเดียวกันไปเลย ซึ่ง พล.ต.อ.อดุลย์ พยายามต่อรองไม่ต้องการขยับล็อตใหญ่ เพราะเป็นการแต่งตั้งกลางปี หากขยับเยอะจะทำให้เกิดการกระเพื่อม การทำงานไม่ต่อเนื่อง
ทว่า สิ่งที่ พล.ต.อ.อดุลย์ ต้องการจะตรงกันข้ามกับฝ่ายการเมือง เพราะมีการวางตัวโยกย้ายกันขนานใหญ่เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ที่ผลงานดูแลเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ไม่เข้าตา จะถูกโยกไปเป็น ผบช.ภ.1 สลับ พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 ซึ่ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไว้วางใจไปเป็น ผบช.สตม.ดัน พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม.ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชื่นชอบ ขึ้นเหนือไปเป็น ผบช.ภ.5 ดูแลปัญหาการปราบปรามยาเสพติด
สลับให้ พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 สาย พ.ต.ท.ทักษิณ ลงมาอยู่ใต้เป็น ผบช.ภ.9 เพื่อมาดูแลเรื่องน้ำมันเถื่อนและของผิดกฎหมาย แล้วให้ พล.ต.ท.พิสิทธิ์ พิสุทธิศักดิ์ ผบช.ภ.9 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 หลานเขยคุณหญิงพจมาน หวนกลับมาเป็น ผบช.น.
กระดานการแต่งตั้งแบบเล็กๆ ของ พล.ต.อ.อดุลย์ ที่วางไว้ในวันที๋ 4 เม.ย.เลยต้องล้มกระดานไป
อีกชนวนหนึ่งที่ว่ากันว่าทำให้การประชุม ก.ตร.ต้องโดนโรคเลื่อนแบบฉุกเฉิน คือตำแหน่ง “ผู้บังคับการตำรวจน้ำ” ที่มี พล.ต.ต.บุญสืบ ไพร์เถื่อน เพื่อนร่วมรุ่น นรต.31ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.นั่งกุมบังเหียนอยู่ เพราะฝ่ายการเมืองไม่พอใจผลการปราบปรามปัญหาน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ จนถึงขนาดต้องมีการสั่งให้ พล.ต.อ.อดุลย์ เปลี่ยนชุด ศปรน.(ศูนย์ปราบปรามน้ำมันเถื่อน) ใหม่ ให้ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.คนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไว้ใจมาคุม
แต่การเปลี่ยนตัว พล.ต.ต.บุญสืบ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เพื่อนร่วมรุ่นเป็นแม่ทัพสอบสวนกลางอยู่ ซึ่งตาม พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่ หากจะโยกย้ายระดับ ผบก.ไปอยู่ตำแหน่งใดก็ต้องผ่านการเห็นชอบจากบอร์ด บช.ก่อน ซึ่งประธานบอร์ด บช.ก็คือ ผบช.นั่นเอง
เมื่อหนทางการเปลี่ยนตัวผู้การฯตำรวจน้ำสะดุด แผนการเตะตัดขาเลยออกมาเรื่อยๆ และเป็นขบวนการ มีการใช้สื่อโจมตีปัญหาต่างๆ ในการทำงานด้านการปราบปรามน้ำมันเถื่อนเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการเปลี่ยนตัว และอีกทางหนึ่งก็มีความพยายามยื่นเงื่อนไขต่อรองที่จะผลักดัน พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร.และจะตั้ง พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รอง ผบช.ก.เพื่อนร่วมรุ่น นรต.31 ที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ไว้ใจให้ขึ้นมาทำหน้าที่ “รักษาการ ผบช.ก.” แทน
อย่างไรก็ตาม หากหนทางนี้สามารถเจรจาตกลงกันได้ การประชุม ก.ตร.ที่กำหนดไว้ในวันที่ 9 เม.ย.นี้ ก็อาจต้องเลื่อนออกไปอีกครั้ง เพราะตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่จะดัน พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ นั้น เป็นตำแหน่งเปิดใหม่ ที่เพิ่งผ่านวงประชุม ก.ตร.ไป แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ซึ่งต้องให้เวลา ก.ต.ช.ประชุมรับรองตำแหน่งก่อน
ฉะนั้นก็เหมือนอย่างที่บอกไว้ตั้งแต่เริ่มต้น การแต่งตั้งนายพลนอกวาระครั้งนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ การประชุม ก.ตร.ที่เคาะไว้ในช่วงบ่ายๆ วันที่ 9 เม.ย.นี้ อาจจะเกิดขึ้นหรือโดนโรคเลื่อนซัดกระหน่ำได้อีก
หากผลประโยชน์แต่ละฝ่ายยังไม่ลงตัว.