โฆษกพรรคประชาธิปัตย์สงสัยรัฐบาลเจรจาโจรใต้กลุ่มบีอาร์เอ็น เป็นคนคนเดียวกับเคยเล่นปาหี่สมัย “บิ๊กเหวียง” โชว์ตัวพูดคุยหรือไม่ เชื่อหวังผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.โค้งสุดท้าย
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการที่รัฐบาลไปเจรจาและลงนามกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบว่า ตนไม่สบายใจตั้งแต่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ลงนามกับนายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งหลังจากนั้นทั้งนายกรัฐมนตรีไทยและมาเลเซีย ก็ยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความเกี่ยวข้องกับการเจรจากับกลุ่มก่อการร้ายบีอาร์เอ็น ซึ่งจากการยอมรับนี้ขัดแย้งกับคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อเดือน มี.ค. 55 ที่อ้างว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ไม่ทราบว่าคนที่ พ.ต.ท.ทักษิณไปเจรจาด้วยนั้นเป็นคนเดียวกับคนที่รัฐบาลร่วมลงนามหรือไม่
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า รายงานข่าวเมื่อปี 2555 ก็ระบุว่าไปเจรจากับนายฮัสซัน จากการตรวจสอบปรากฏว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ลงนามในเจตนารมณ์ดังกล่าว ดังนั้น การกระทำนี้จะมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองแอบแฝงหรือไม่ เพราะการเร่งรัดในการลงนาม ทั้งที่สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังเกิดขึ้นรายวัน ดูเหมือนต้องการให้ออกข่าวในลักษณะนี้ก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไม่รู้หวังผลในการเลือกผู้ว่ากทม.หรือไม่
นอกจากนี้ หลังจากการลงนามเมื่อ 2 วันก่อนก็เกิดเหตุระเบิดที่จังหวัดนราธิวาส ตนจึงไม่อยากให้รัฐบาลนำชีวิตของพี่น้องประชาชนมาเป็นเครื่องมือในการสร้างฐานคะแนนเสียงของกทม.เพื่อหวังผลในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ
นายชวนนท์กล่าวว่า ตนมีข้อสงสัยว่า ถ้านายฮัสซัน เป็นคนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เจรจาเมื่อเดือน มี.ค. 55 และได้มีการลงนามเป็นชื่อเดียวกันและเคยปรากฏตัวในสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เมื่อ 5 ปีแล้ว ที่ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อ้างว่าไปเจรจาและสามารถเจรจาให้หยุดยิงได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่ แต่ที่แปลกคือว่าชื่อเดียวกัน และลักษณะท่าทางและลักษณะรูปร่างก็มีความคล้ายคลึงกัน
นายชวนนท์กล่าวว่า ตนไปตรวจสอบประวัติของนายฮัสซัน ที่อ้างว่าเป็นกลุ่มบีอาร์เอ็น สำนักงานข่าวบีบีซี ประเทศอังกฤษ ก็รายงานว่าเป็นอดีตผู้ก่อการร้ายกลุ่มพูโล ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เคยพามาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ฉะนั้น ถ้าเป็นคนละคนก็หมายความว่าเป็นที่น่าแปลกว่าชื่อเดียวกัน สังกัดกลุ่มเดียวกัน รูปพรรณสัณฐานคล้ายคลึงกัน ซึ่งตนภาวนาให้เป็นคนละคน แต่ถ้าเป็นคนเดียวกันนั้น ตนถือว่าเป็นความใจดำของรัฐบาลอย่างมากที่ซ้อนปาหี่ทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง เพียงเพื่อหวังผลในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดยใช้ชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องภาคใต้ตกอยู่ในภาวะความเสี่ยงอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลรีบออกมาชี้แจงว่าถ้าเป็นคนละคนกัน แต่ถ้าเป็นบุคคลคนเดียวกัน ตนเชื่อว่าเหตุการณ์ความรุนแรงคงไม่สามารถสงบลงด้วยการลงนามในครั้งนี้แน่นอน