xs
xsm
sm
md
lg

ทนายซัด “แจ๊ด” ทำคดีอุ้มฆ่า “เอกยุทธ” หลวมเชื่อหลุดชั้นศาลแน่ ท้าไขก๊อกกระแสสังคม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“ทนายสุวัตร” ยังติดใจ 13 ประเด็นอุ้มฆ่า “เอกยุทธ” ติงอย่าเชื่อปากคำผู้ต้องหา จนรีบปิดสำนวนคดี กังขามูลเหตุจูงใจฆ่าชิงทรัพย์ เชื่อสุดท้ายศาลยกฟ้อง ท้าให้ตอบข้อสงสัยสังคมเอาเอง ไม่เชื่อน้ำยาดีเอสไอ ทีมสืบสวนยุค “แจ๊ด” อ้อมแอ้มหากมีหลักฐานเพิ่มค่อยรื้อคดีทีหลัง ญาติยันเผาศพเสาร์นี้

วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร. พล.ต.ต.อภิรัตน์ ปรักมะกุล ผบก.กองพิสูจน์หลักฐานกลาง พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า รองผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ณัฎฐ์ บุรณศิริ นวท.(สบ4) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น.ร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังถูกฆาตกรรมเสียชีวิต พร้อมสรุปข้อสงสัยทั้ง 13 ประเด็นกับให้นายสุวัตร อภัยภักดิ์ หัวหน้าทีมทนายความนายเอกยุทธ และทีมทนายความที่เดินเข้ามาพบ เพื่อตอบข้อสงสัยกรณีที่นายสันติภาพ หรือ บอล เพ็งด้วง อายุ 23 ปี และนายสุทธิศักดิ์ หรือ เบิ้ม พิมพิสาร อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ลงมือฆาตกรรมดังกล่าว พร้อมร่วมตอบข้อซักถามพนักงานสอบสวนความคืบหน้าในขั้นตอนต่างๆ และนำพยานหลักฐานมาประกอบในสำนวนคดีเพิ่มเติม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.) ได้ตั้งข้อสังเกตบางอย่างเกี่ยวกับคดีการสังหารนายเอกยุทธ และประเด็นคำถาม 13 ข้อที่ทีมทนายความยังคงสงสัย นั้น ทางคณะพนักงานสอบสวน แพทย์ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ทุกคนพยายามที่จะสืบสวนเพื่อนำข้อเท็จจริงออกมาชี้แจงให้ได้ โดยหลังจากได้คำตอบแล้ว จึงเชิญทีมทนายความของนายเอกยุทธเข้ามารับฟังข้อชี้แจง พร้อมทั้งทำความเข้าใจ ขอให้สบายใจว่าไม่ได้รีบปิดคดี ตำรวจพยายามที่จะทำคดีต่อไป

ด้าน นายสุวัตร กล่าวว่า การที่ตนเข้ามาปรึกษาปัญหาข้อสงสัยต่างๆ กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และคณะพนักงานสืบสวนและสอบสวนในคดีนี้ เราไม่มีความคิดเห็นอะไรที่ขัดแย้งกัน ประเด็นข้อสงสัย 13 ข้อ ที่เสนอให้สืบสวนเพิ่มเติมนั้น ก็เพื่อช่วยเหลือพนักงานสอบสวน ให้ช่วยกันทำงานให้ดีขึ้น ตนและครอบครัวของนายเอกยุทธ รู้สึกซาบซึ้งและต้องขอบคุณที่ทุกฝ่ายช่วยกันทำงานด้วยความรวดเร็ว ประเด็นที่สอบถามไปนั้น พนักงานสอบสวนได้ตอบครบ 13 ข้อแล้ว แต่บางข้อได้จากคำรับสารภาพของผู้ต้องหา ซึ่งตนและพนักงานสอบสวนก็ยังไม่เชื่อ เช่น มูลเหตุจูงใจ ผู้ต้องหาให้การว่าประสงค์ต่อทรัพย์ แต่กลับนำทรัพย์สินมีค่าของนายเอกยุทธไปโยนทิ้ง ทั้งนาฬิกาโรเล็กซ์ เรือนละเป็นล้าน สร้อยคอทองคำ พระสมเด็จเลี่ยมทองเกตุไชโย องค์ละ 10-20 ล้านบาท ทำให้ปักใจเชื่อไม่ได้ ซึ่งชุดสืบสวนก็พยายามที่จะค้นหาแล้ว จึงเป็นประเด็นที่จะต้องทำให้กระจ่างต่อไป

นายสุวัตร กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นเรื่องฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดที่บ้านของนายเอกยุทธ ผู้ต้องหาก็ให้การว่าเอาไปทุบจนแหลกละเอียดและนำซากไปโปรยทิ้ง ประเด็นนี้ก็ทำใจให้เชื่อไม่ได้ ส่วนเสื้อผ้าก็ให้การว่าฉีกเป็นชิ้นๆ และนำไปโปรยทิ้ง และกระเป๋าหลุยส์วิตตองของนายเอกยุทธ ซึ่งผู้ต้องหาก็บอกว่านำไปหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วเอาไปทำลาย สิ่งเหล่านี้ทีมทนายความและพนักงานสอบสวนยังไม่เชื่อ ต้องทำการสืบสวนต่อไป ไม่ต้องเร่ง ทำงานไปเรื่อยๆ ให้ได้ข้อเท็จจริง แต่ถ้าได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น จะไม่มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จและจะไม่มีการบีบบังคับใคร คำชี้แจงทั้ง 13 ประเด็นในวันนี้ ทีมทนายความรู้สึกพอใจ และเข้าใจในสิ่งที่ให้คำตอบมา แต่ก็ยังมีบางประเด็นที่ทั้งทีมทนายความและพนักงานสอบสวน ยังไม่เห็นด้วยกับคำรับสารภาพของนายบอล เชื่อว่ายังโกหกอีกหลายประเด็น พนักงานสอบสวนจึงจะทำงานต่อไป

“สิ่งเดียวที่หวัง ก็คือคณะพนักงานสอบสวนชุดนี้และกองบังคับการปราบปราม ซึ่งถ้า บช.น.กับกองปราบทำงานร่วมกันแล้วได้แค่ไหนก็คือแค่นั้น แต่ต้องตอบสังคมให้ได้ ทุกอย่างต้องชัดเจน ไม่เช่นนั้นศาลจะยกฟ้องได้ มีหลายคดีที่มีเพียงแค่คำรับสารภาพอย่างเดียว ซึ่งสุดท้ายศาลก็ยกฟ้อง” นายสุวัตร กล่าว

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวด้วยว่า ทั้งหมดทุกประเด็นตำรวจพยายามที่จะสืบสวนให้ได้ครบทุกประเด็น แต่ก็ยังเหลือบางประเด็นที่ไม่เชื่อ ซึ่งต้องพิสูจน์กันต่อไป ยืนยันว่าคดีมีความคืบหน้าไปเยอะ ยังไม่มีการปิดสำนวนแต่อย่างใด ถ้ามีหลักฐานอื่นก็สามารถนำมาเพิ่มเติมได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หารือกับญาติแล้วจะมีการเก็บศพนายเอกยุทธไว้หรือไม่ นายสุวัตร กล่าวว่า ญาติยืนยันว่าจะเผาวันที่ 29 มิ.ย. เวลา 17.00 น.ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ถามว่านอกจาก 13 ประเด็นนี้แล้วมีข้อสงสัยอื่นอีกหรือไม่ นายสุวัตร ตอบว่า วันนี้มาฟังคำตอบแล้วเราก็ต้องมีการปรึกษาหารือกับทีมทนาย และพนักงานสอบสวน เพราะมีเรื่องที่ต้องตามตราบใดยังไม่ได้ทรัพย์สินมีค่าของนายเอกยุทธ เราก็จะหยุดตรงนี้ไม่ได้ รวมถึงไม่มีข้อยุติเรื่องกล้องวงจรปิด และจำนวนคนร้ายว่าจำนวน 2 คน 4 คน หรือมากกว่าต้องพิสูจน์ความจริงว่าเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าทั้ง 13 ข้อมีประเด็นไหนที่เคลียร์บ้าง นายสุวัตร ตอบว่า เราได้รับคำตอบที่พอใจเกือบทุกประเด็น แต่มีประเด็นที่ยังสงสัย คือ มูลเหตุจูงใจหากประสงค์ต่อทรัพย์เหตุใดเอาทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงไปโยนทิ้งน้ำ และถ้าประสงค์ต่อทรัพย์บังคับนายเอกยุทธ เขียนเช็ค 100 ล้านบาทก็ผ่านไม่จำเป็นต้อง 5 ล้านบาทต้องได้มากกว่านี้ กรณีฮาร์ดดิสก์ไม่เชื่อจะนำไปทุบแล้วโปรยทิ้งเหมือนเศษกระดูกเพราะส่วนประกอบของฮาร์ดดิสก์เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ มีหลายอย่างที่ทุบทำลายมันไม่สามารถบดให้ละเอียดได้ รวมทั้งกระเป๋าเอกสาร และเสื้อผ้า

นายสุวัตร กล่าวด้วยว่า ส่วนการตรวจรถตู้โฟล์คสีดำที่คนร้ายนำไปล้างในราคา 4,900 บาท ทางเจ้าหน้าที่ พฐ.ตรวจได้แค่นี้ตนต้องขอบพระคุณอย่างสูงแล้ว เจตนาที่คนร้ายนำรถล้างพนักงานสอบสวนก็ต้องหาคำตอบต่อไป ทั้งชีวิตตนก็มีเงินพอสมควร แต่ไม่เคยล้างรถราคา 4,900 บาท เพราะตนทำใจไม่ได้ นอกจากนี้นายบอลไปซื้อกางเกงยีนส์ 3 ตัว และเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ออกมาเลย 1 ตัว วางแผนเอาเงินไปได้ 5 ล้านบาท แต่ดันเข้าไปในห้างโลตัสให้กล้องวงจรปิดจับภาพได้ และเสื้อผ้าเหล่านั้นอยู่ที่ไหนเป็นเรื่องที่ต้องตามต่อไป ถามว่าจะไปพูดคุยกับนายบอลที่เรือนจำหรือไม่ นายสุวัตร กล่าวว่า ตนพยายามที่จะเข้าไปจุดนั้น เพราะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ตนเข้าไปนึกหรือว่านายบอลจะให้ความร่วมมือเป็นไปไม่ได้เลย ขนาดอยู่ข้างนอกนายบอล ยังโกหกตนพอจับได้ก็โกหกต่ออีก จึงไม่มีทางได้รับความร่วมมือจากนายบอล กรณีดังกล่าวเป็นความสามารถของพนักงานสอบสวนที่เรียนวิธีการสอบสวนมาว่าจะเชื่อหรือไม่ ถ้าผู้ต้องหาโกหกจะไล่อย่างไรระดับนายพลแล้วเราต้องไว้ใจ

เมื่อถามว่าจะขอความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นมาร่วมตรวจสอบคดี เช่น ดีเอสไอ นายสุวัตร ตอบว่า ดีเอสไอ ตนไม่เอาเลยให้ไปไกลๆ เลย ไม่ขอหน่วยงานอื่น แม้ว่าตั้งแต่เริ่มแรกลูกชายเคยขอทางคณะกรรมการสิทธิฯ เกี่ยวกับเรื่องขอตรวจรถ และตรวจศพนายเอกยุทธ โดยจะให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ตรวจ ตนก็ให้นัดหมายกันเอาเอง แต่ญาติยืนยันว่าถ้าต้องมีการผ่าศพอีกก็ไม่ยอมจะให้ตรวจแต่เพียงภายนอก และมีการสงสัยเรื่องลูกอัณฑะบวมขึ้นเพราะอะไร โดยแพทย์ก็ยืนยันไม่ได้ว่าเกิดจากบีบธรรมดาหรือไม่





กำลังโหลดความคิดเห็น