ไต่สวนถอนประกัน “พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม” คดีอัลรูไวลี ตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศ ยันซาอุฯ ให้ความสำคัญคดีนี้ เผยศาลยูเออีสืบพยานปาก “พ.ต.ท.สุวิชชัย” เสร็จแล้ว ด้าน พล.ต.ท.สมคิด ระบุสืบพยานในต่างประเทศไม่เป็นธรรม กระทบสิทธิ์ฝ่ายจำเลย ศาลนัดอีกครั้ง 19 เม.ย. นี้
ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (18 เม.ย.) ศาลนัดไต่สวนพยานผู้ร้อง คดีดำ อ.199/2553 ที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจ และ พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี จำเลยที่ 1 และ 4 ในคดีร่วมกับพวกอุ้มฆ่านายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย
โดยวันนี้ นายณรงค์ ศศิธร อธิบดีกรมเอเชียใต้ กระทรวงการต่างประเทศ พยานฝ่ายผู้ร้อง เบิกความสรุปว่า ประเทศซาอุฯ ให้ความสำคัญกับคดีฆาตกรรมนายโมฮัมหมัด อัลรูไวรี เป็นอย่างมาก มีการส่งตัวแทนระดับรัฐบาลเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี และรู้สึกกังวลพฤติกรรมของจำเลยในคดีนี้ที่สามารถนำเอกสารชั้นความลับมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้ และส่งผลกระทบถึงการพิจารณาคดี สำหรับขั้นตอนการสืบพยานต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศไทยได้ส่งประเด็นไปสืบพยานโจทก์ปาก พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก พยานโจทก์ปากสำคัญ ซึ่งขณะนี้พักอยู่ทีประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (ยูเออี) โดยทราบว่า ขณะนี้ศาลยูเออีได้ดำเนินการสืบพยาน พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก เสร็จเรียบร้อยแล้ว และตนได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา
ขณะที่ทนายจำเลยได้ซักค้านพยานและแสดงให้เห็นว่าการใช้สิทธิ์คดีอาญาและกฎหมายของไทย กับประเทศซาอุฯ แตกต่างกัน พร้อมแถลงต่อศาลว่าจะทำหนังสือคัดค้านการเบิกความพยานปาก พ.ต.ท.สุวิชชัย ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วย
ศาลพิเคราะห์แล้วมีคำสั่งให้อัยการสูงสุด ส่งคำเบิกความปาก พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก มาให้ศาลพิจารณา ภายในวันที่ 25 เม.ย.นี้ และไต่สวนพยานฝ่ายจำเลย 2 ปาก คือ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม และ พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี วันที่ 19 เม.ย.เวลา 09.00 น.
ภายหลัง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ศาลจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะนำคำเบิกความของ พ.ต.ท.สุวิชชัย มาประกอบในการพิจารณาคดีหรือไม่ ซึ่งตนเองเคยให้สัมภาษณ์และเบิกความว่า การไต่สวนพยานต่างประเทศของยูเออีจะมีเฉพาะองค์คณะศาลยูเออี และพยานเท่านั้น โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าห้องพิจารณา ซึ่งถือว่าคำเบิกความของ พ.ต.ท.สุวิชชัย ถูกต้องตามกฎหมายของยูเออี ซึ่งดีเอสไอยังต้องคุ้มครองพยานรายนี้ต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม กล่าวว่า ตนเชื่อว่า อัยการและดีเอสไอร่วมมือนำพยานปากนี้ไปให้พ้นเขตอำนาจศาล ส่งผลกระทบต่อตนและจำเลยในคดีนี้ ที่ไม่สามารถใช้สิทธิ์โต้แย้ง หรือส่งทนายซักค้านได้ โดยมีการรวบรัดขั้นตอนดำเนินการสืบพยานต่างประเทศ และปรากฏว่ามีการกระทำลับหลัง ซึ่งศาลเองก็ยังไม่ทราบว่ามีการเบิกความพยานเสร็จสิ้นไปแล้ว ทำให้ตนจำเป็นต้องใช้สิทธิเปิดเผยข้อเท็จจริงนี้ต่อสาธารณชน