“สุรสิทธิ์” โต้ข่าวโคมลอย เชื่อคนใน กทพ.ปล่อยข่าวทำบอร์ด-อนุกรรมการไกล่เกลี่ยฯ เสียหายกรณีค่าโง่ทางด่วนบางนา-ชลบุรี ชี้ไม่เคยให้การทางพิเศษฯ ต้องยอมรับ และจ่ายเงินชดเชย ระบุที่ผ่านมาทำหน้าที่ดีที่สุดจนไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ จึงเสนอผลยุติต่อบอร์ดใหญ่ รอฟังผลพิพากษาศาลอุทธรณ์
พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ กรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเจรจาไกล่เกลี่ยกรณีค่าโง่ทางด่วนบางนา-ชลบุรี 6,200 ล้านบาท กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการปล่อยข่าวออกมาซึ่งทำความเสียหายในกับบอร์ด กทพ. และคณะอนุกรรมการฯ เนื่องจากทำให้ถูกมองว่าคณะอนุกรรมการฯ มีความพยายามที่จะให้ กทพ.จ่ายเงินชดเชยให้กับเอกชน เพื่อยุติคดี ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น ข่าวที่ออกมาไม่น่าจะมาจากบอร์ด แต่น่าจะมาจาก กทพ. ซึ่งไม่ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด
พล.ต.ต.สุรสิทธิ์กล่าวต่อว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากที่เป็นข่าวตนได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังบอร์ด และ กทพ.แล้ว แต่ทาง กทพ.ก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจ้งข้อเท็จจริงทั้งที่ข่าวดังกล่าวนั้นออกมา 2 สัปดาห์แล้ว ตนจึงต้องขอชี้แจงให้ทราบว่าคณะอนุกรรมการฯ ได้พยายามไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้จึงเสนอเรื่องไปยังบอร์ดให้ยุติการเจรจา ซึ่งการประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมาก็มีมติเห็นชอบตามที่เสนอ โดยให้ยุติการเจรจาไกล่เกลี่ยประนีประนอมคดีระหว่างกิจการร่วมค้า บีบีซีดี กับ กทพ. เพื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาคดีต่อไป
“คณะอนุกรรมการฯ ได้ดำเนินการเจรจาไกล่เกลี่ยไปตามกรอบอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับผลการเจรจา และไม่เคยนำผลการเจรจาเสนอต่อบอร์ด กทพ. การดำเนินการทุกอย่างทำบนพื้นฐานกฎระเบียบ ข้อบังคับ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผลประโยชน์ของ กทพ. และขณะนี้คณะอนุกรรมการฯ ได้ยุติการเจรจาไกล่เกลี่ยไปเรียบร้อยแล้ว และเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ศาลอุทธรณ์ก็ได้มีคำสั่งให้งดการไกล่เกลี่ย และส่งสำนวนคืนสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ต่อไป” พล.ต.ต.สุรสิทธิ์กล่าว
พล.ต.ต.สุรสิทธิ์กล่าวต่อว่า การพิจารณาหาแนวทางแก้ไขข้อพิพาทที่ผ่านมา เพื่อเสนอแนะบอร์ด กทพ.นั้น เป็นเพียงการเสนอทางเลือกอีกทางหนึ่ง หากมีกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แพ้คดี และการเสนอแนะแนวทางดังกล่าวก็มิใช่การเสนอให้บอร์ดต้องจ่ายเงินให้กับ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เต็มตามจำนวนที่เรียกร้อง หรือตามคำพิพากษาที่ศาลแพ่งพิพากษาให้ชดใช้แต่อย่างใด และการเจรจากับบริษัท ช.การช่าง ก็เป็นเพียงรับฟังข้อคิดเห็น และหลักในการคิดเกี่ยวกับการคำนวณค่าเสียหายว่ามีความสอดคล้องกับการคิดคำนวณของ กทพ.หรือไม่อย่างไร และในที่สุดบริษัท ช.การช่าง ได้ยื่นข้อเสนอว่า หาก กทพ.จะชำระหนี้ตามคำพิพากษาบริษัทก็ยินดีปรับลดค่าใช้จ่าย สิ่งปลูกสร้างที่เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 85 คณะอนุกรรมการฯ จึงได้นำข้อเสนอของบริษัทให้กับบอร์ด กทพ. พื่อพิจารณาตัดสินใจ และหาแนวทางในการยุติข้อพิพาท ไม่ได้เป็นการยอมรับ และจ่ายเงินให้กับบริษัท ช.การช่างแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าวนั้นสืบเนื่องมาจากคดีค่าโง่ 6,200 ล้านบาท ของการทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางด่วนบางนา-ชลบุรี) ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาให้ กทพ.ชนะคดี ต่อมากิจการร่วมค้าบีบีซีดี ได้สร้างเงื่อนไขใหม่โดยยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายในประเด็น