xs
xsm
sm
md
lg

อสส.ยันทำงานเป็นกลางไม่เอี่ยวการเมือง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด
“จุลสิงห์ วสันตสิงห์” อัยการสูงสุด ยืนยันทำงานเป็นกลาง ไม่เอี่ยวการเมือง ขอให้ ปชช.ไว้วางใจ พร้อมเสนอตั้ง สนง.อัยการพิเศษฝ่ายความมั่นคงจัดอัยการอาวุโสดูแลคดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ชี้เห็นด้วยกับโครงการติดกำไรข้อมือควบคุมนักโทษของกรมราชทัณฑ์ ปัดตอบว่าจะสามารถติดตามตัว “นช.แม้ว” มาให้ทันก่อนคดีจะหมดอายุความ 10 ปีหรือไม่

ที่ห้องประชุมสำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ วันนี้ (1 เม.ย.) นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด กล่าวในงานแถลงข่าวครบรอบ 120 ปี สำนักงานอัยการสูงสุดว่า อัยการเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ โดยอัยการยืนยันว่ามีความเป็นกลางในการสั่งคดี และการปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นกลาง อัยการไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางการเมืองไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ต้องมีอิสระในการทำงาน ทำทุกอย่างทำไปตามหลักของเหตุผลและตามหลักนิติธรรม ไม่สั่งคดีไปตามกระแส ไม่มีระบบสองมาตรฐานมีเพียงมาตรฐานเดียวเท่านั้น เพื่อให้ประชาชนได้รับความไว้วางใจ และหากใครสงสัยในการทำงานของอัยการก็สามารถตรวจสอบได้

นายจุลสิงห์ยังกล่าวถึงโครงการติดกำไรข้อมือควบคุมนักโทษของกรมราชทัณฑ์ด้วยว่า โดยหลักการแล้วตนก็เห็นด้วยซึ่งต่างประเทศทำกันมานานแล้ว โดยนอกจากประหยัดงบประมาณ ในแง่ของการควบคุมตัวด้วยกำไรก็ดีเพราะหากตัวผู้ที่ถูกใส่กำไรออกนอกพื้นที่ที่กำหนดก็จะมีเสียงดัง ขณะที่แม้จะใส่กำไรควบคุมตัวแต่หากจะออกไปพื้นที่ใดก็ต้องมีการแจ้งหรือรายงานตัว ซึ่งในต่างประเทศเขาจะกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับการประกันตัวไว้ด้วยว่า หากผู้ที่ใส่กำไรโดยไม่ต้องอยู่ในเรือนจำ แต่ออกไปอยู่ที่บ้านแล้ว ห้ามออกนอกพื้นที่จากที่กำหนดไว้ และห้ามพูดคุยกับบุคคลอื่น หากจะไปไหนหรือพูดคุยกับบุคคลใดก็ต้องขออนุญาตเสียก่อน เหมือนตัวอย่าง กรณีของนายราเกซ สักเสนา จำเลยคดีการเงินที่อัยการเคยขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน ขณะที่ตัวอยู่แคนาดาแล้วได้รับการประกันตัวแต่ต้องอยู่ในการควบคุมจะพบบุคคลได้เพียงแค่แพทย์ และทนายความ

ดังนั้น เมื่อมีการควบคุมตัวผู้ต้องหาด้วยการใส่กำไล ข้อดีจะไม่สามารถไปรบกวนพยานหลักฐาน โดยถ้ามีการร้องเรียนว่าผู้ที่ใส่กำไลข้อมือไปคุกคามใคร หรือข่มขู่พยานก็จะถอนประกัน ขณะที่เมื่อใส่กำไลแล้วจะถอดออกเองไม่ได้และถ้าอยู่นอกเขตที่เจ้าหน้าที่กำหนดเสียงก็จะดังเตือน แล้วก็จะถูกติดตามตัวจนเจอ กำไลข้อมือจึงน่าจะเป็นเรื่องดี เพียงแต่ต้องมีการกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจน เช่น การห้ามพบบุคคลอื่น หรือพบใครได้เฉพาะที่ระบุยืนยันตัวบุคคลไว้เหมือนที่ต่างประเทศทำ เราจะได้มั่นใจว่าผู้ที่กระทำความผิดแล้วถูกสวมกำไลข้อมือจะอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐ และหากละเมิดแม้แต่ครั้งเดียวผู้ต้องหานั้นต้องถูกถอนประกัน หรือจำเลย-นักโทษนั้นถูกส่งกลับเข้าเรือนจำทันที

นอกจากนี้ นายจุลสิงห์ยังตอบคำถามการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องโทษจำคุก 2 ปีตามคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคดีจัดซื้อที่ดินรัชดาภิเษกว่า โดยปกติอัยการก็มีหน้าที่ต้องติดตามผู้กระทำผิดส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมา แต่ในการขอส่งตัวแต่ละประเทศมีเอกสิทธิ์ที่จะพิจารณาว่าจะส่งตัวกลับมาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม นายจุลสิงห์ปฏิเสธที่จะตอบว่าสามารถติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาให้ทันก่อนคดีจะหมดอายุความ 10 ปีหรือไม่

เมื่อถามถึงคดีพิพาทที่ บริษัท วอเตอร์ บาว (Walter Bau AG) ผู้รับเหมาจากประเทศเยอรมนี ผู้ถือหุ้นบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ผู้รับสัมปทานโครงการโทลล์เวย์ วงเงิน 29 ล้านยูโร หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท ยื่นฟ้องศาลนิวยอร์ก บังคับให้ไทยจ่ายค่าเสียหายทำตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ จากกรณีกล่าวหารัฐบาลไทยไม่ปฏิบัติตามสัญญา มีการย้ายสนามบินดอนเมือง สร้างทางแข่งขันบนถนนวิภาวดีรังสิต

อัยการสูงสุดกล่าวว่า แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์นิวยอร์กจะยืนยันให้ทางการไทยจ่ายตามคำวินิจฉัยอนุญาตโตตุลาการ แต่ยังมีคดีที่การฟ้องในเขตอำนาจศาลเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันด้วย ซึ่งศาลชั้นต้นของเยอรมันก็สั่งให้ทางการไทยต้องจ่ายเงินเช่นกัน แต่ล่าสุดอัยการได้อุทธรณ์ต่อศาลสูงเยอรมัน โดยเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ศาลสูงมีคำพิพากษาให้ศาลชั้นต้นไปดำเนินการสืบพยานใหม่ตามที่ทางการไทย เคยร้องขอไป ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อเริ่มกระบวนการสืบพยานของไทยใหม่ โดยอัยการไทยจะส่งทีมไปสืบพยานแต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดนัดสืบพยาน ซึ่งคาดว่าศาลจะพิจารณาโดยเร็วโดยอัยการไทยจะทำคำร้องเร่งการพิจารณาด้วย อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาที่ได้มีการวางหนังสือค้ำประกันเป็นเงินประกันประมาณ 40 ล้านยูโรไว้ในชั้นพิจารณานั้น ก็กำลังจะขอคืนมาเพราะได้มีการสืบพยานใหม่แล้ว ทั้งนี้ครั้งแรกยอมรับเมื่อศาลให้ทางการไทยต้องจ่ายเราในฐานะคนที่ทำคดีก็ใจแป้ว แต่อัยการมั่นใจว่าทางการไทยดำเนินอย่างถูกต้อง ซึ่งในการอุทธรณ์อัยการก็เห็นว่า บริษัทที่เป็นโจทก์ฟ้องไม่ควรมีสิทธิ์เหนือรัฐบาลไทยในเรื่องพยานที่ยังไม่ได้สืบ

เมื่อถามถึงการทำงานของอัยการเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายจุลสิงห์กล่าวว่า ในทางการทำสำนวนคดี วันนี้ตนได้เสนอโครงการต่อคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) พิจารณาจัดตั้งสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายความมั่นคง เพื่อดูแลคดีเกี่ยวกับความมั่นคงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีอัยการชั้นผู้ใหญ่ที่ระดับความอาวุโสและมีประสบการณ์ในการสั่งคดี ควบคุมดูแลรับผิดชอบคดีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย โดยขอยืนยันว่าไม่ใช่เพื่อให้ฝ่ายรัฐชนะทุกคดี แต่เพื่อต้องการพิสูจน์ความจริงและให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย เช่น การจับแพะ หรือการจับผิดตัว เพื่อทำงานสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าหาก ก.อ.เห็นชอบภภายใน 1 ปี น่าจะดำเนินการได้ ส่วนอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้อยู่แล้วนั้น ยืนยันว่าจะให้ความมั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งสวัสดิการต่างๆได้อย่างเต็มที่

ด้านนายสมชาย คูวิจิตรสุวรรณ อธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ กล่าวถึงการตั้งอัยการดูแลคดีฝ่ายความมั่นคงเป็นการเฉพาะว่า สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายความมั่นคงที่ตั้งขึ้นนี้ จะดูแลรับผิดชอบคดีเกี่ยวกับความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งอยู่ในอำนาจอัยการเขตพื้นที่ภาค 9โดยอยู่ใต้บังคับบัญชาของอธิบดีอัยการภาค 9 ขณะที่คุณสมบัติของอัยการจะต้องเป็นอัยการที่มีระดับความอาวุโส ตั้งแต่อัยการพิเศษฝ่ายหรือระดับ 5 ขึ้นไป ส่วนคณะทำงานจะต้องไม่น้อยกว่า 3-4 คน เพื่อดูแลคดีเกี่ยวกับความมั่นคงในพื้นที่ ดูแลการสืบสวนสอบสวนด้านคดีและการคุ้มครองพยาน และเพื่อสอดรับนโยบายของรัฐบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น