“บิ๊กย้อย” เรียกผู้บริหาร บ.พีซีซี เข้าพบเพื่อชี้แจงกรณีก่อสร้างโรงพัก 396 แห่งล่าช้าได้ข้อสรุปสร้างไม่เสร็จตามสัญญาว่าจ้างที่มีกำหนดในวันที่ 14 มี.ค.แน่นอน เนื่องจากเงินหมุนเวียนไม่เพียงพอ คณะกรรมการมีมติให้ยกเลิกสัญญา เตรียมสู้กันในชั้นศาลเพราะเชื่อต่างฝ่ายต่างฟ้องแน่นอน
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามการดำเนินการโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่ง ได้เรียกนายพิบูลย์ อุดมศิริกุล ประธานกรรมการ บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรั๊กชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างสถานีตำรวจที่มีปัญหาความล่าช้า เข้าให้ข้อมูลและชี้แจงแผนการทำงาน โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ.วรพงษ์เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญบริษัทคู่สัญญามาให้ข้อมูล โดยทางคณะกรรมการฯ ได้ขอแผนงานการทำงาน หลังจากมีการทำหนังสือขอไปหลายครั้งแล้ว โดยทางบริษัทคู่สัญญายังไม่มีแผนการทำงานเข้ามาชี้แจง และเมื่อสอบถามด้วยวาจาก็มีการยืนยันว่า การก่อสร้างจะเสร็จสิ้นไม่ทันกำหนดในวันที่ 14 มี.ค.อย่างแน่นอน ฉะนั้น คณะกรรมการมีมติเสนอยกเลิกสัญญา แต่ระเบียบในการเลิกสัญญานั้นเป็นอำนาจของหัวหน้าส่วนราชการ ที่จะต้องมีความเห็นจากประธานส่วนการจ้างประกอบด้วย โดยประธานส่วนการจ้างของเราได้กระจายออกไป 10 คน คือ ผบก.อก.1-9, ศชต.จะต้องทำรายงานข้อเท็จจริงความคืบหน้าของการก่อสร้างขึ้นมายัง ตร.โดยตนก็ได้เร่งให้มีการทำรายงานขึ้นมาด่วนที่สุด
พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาที่ทำให้การก่อสร้างไม่เสร็จสิ้นตามสัญญา คงเป็นเรื่องอุปสรรคในการบริหารงาน แต่อุปสรรคจะมีอะไรบ้าง ตนไม่ได้ลงลึกในส่วนนั้น แต่มีเรื่องของเงินทุนไม่เพียงพอ สำหรับมูลค่าความเสียหายนั้น ขณะนี้ได้สั่งการให้สำรวจทั้งหมด ทั้งในแง่ที่ต้องไปเช่าสถานที่ทำงานชั่วคราวเป็นเงินจำนวนเท่าใด และมูลค่าความเสียหายที่ต้องมีการคิดไว้ คือ หากต้องไปดำเนินการว่าจ้างใหม่ หากมีราคาสูงขึ้นกว่าเดิมนั้น ตรงนี้อาจจะต้องมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ส่วนการเตรียมฟ้องร้องทางแพ่งจะเป็นขั้นตอนหลังจากยกเลิกสัญญา ที่ทางเราก็ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้การทำงานนั้น ทาง ตร.พร้อมทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และให้เอกสารข้อเท็จจริงทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการยกเลิกสัญญาทันก่อนครบกำหนดส่งมอบงานในวันที่ 14 มี.ค.หรือไม่ พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ โดยความกังวลใจของเรา คือ หากมีการยกเลิกช้าจะทำให้กระบวนการหาผู้รับเหมาใหม่ และการก่อสร้างอาคารใหม่นั้นต้องล่าช้าออกไป ซึ่งช่วงเวลานับจากนี้อีก 38 วัน จนถึงวันที่ 14 มี.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้มีหนังสือสั่งการ 2 ฉบับ ให้ทุกหน่วยไปเตรียมทางธุรการเพื่อที่จะดำเนินการหาคู่สัญญาใหม่เลย โดยขั้นตอนทำทางธุรการจะใช้้เวลาทั้งหมด 85 วัน ฉะนั้นเมื่อครบระยะเวลา 85 วัน เราสามารถเซ็นสัญญากับผู้รับจ้างใหม่ และเริ่มงานได้ทันที
“ขณะนี้เรามีเวลาที่จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อให้มีความมั่นใจว่าเมื่อมีการฟ้องร้องในชั้นศาล เราจะเป็นฝ่ายชนะ เพราะแน่นอนอยู่แล้วที่ตอนนี้ทางบริษัทคู่สัญญาเขายังไม่พร้อมที่จะเลิกสัญญา ฉะนั้นต้องมีการฟ้องร้องกัน ซึ่งทางเขาก็คงมีการฟ้องร้องกลับเช่นกัน” รอง ผบ.ตร.ระบุ
เมื่อถามว่า หากมีการว่าจ้างใหม่จะให้ระดับโรงพักไปดำเนินการเอง หรือให้ระดับจังหวัดเข้าไปดำเนินการ พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า ตรงนี้คงต้องเป็นระดับจังหวัดที่มีความพร้อม ส่วนระดับโรงพักไม่มีเจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่องนี้ได้ ทั้งนี้ทางคณะกรรมการได้พิจารณาแล้ว คือ แนวทางจะมีการกระจาย ส่วนโรงพักที่ยังไม่มีการก่อสร้างเลย คงเป็นเรื่องง่าย แต่ที่มีการก่อสร้างแล้ว ก็ต้องยึดเนื้องานที่ทำไปแล้ว จึงต้องใช้เวลา
ถามอีกว่า ในสัญญามีเรื่องของการอนุญาตให้บริษัทคู่สัญญาสามารถว่าจ้างช่วงต่อได้หรือไม่ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่มีในสัญญา ส่วนการตรวจงานนั้น ทาง ตร.ก็มีการตรวจสอบมาอยู่ตลอด ถามจี้ว่า ทำไมทาง ตร.จึงอนุโลมให้มีการต่อสัญญา ทั้งที่มีการรายงานว่าการก่อการสร้างไม่ได้เป็นไปตามแผนงาน พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า การที่ให้ต่อสัญญานั้น เพราะมีเหตุมาจากประสบปัญหาอุทกภัย 2 ครั้ง จึงมีการต่อสัญญาตามติ ครม.ในภาพรวม ทั้งนี้แม้เห็นชัดเจนว่าจะก่อสร้างไม่ทันตามกำหนด แต่นักกฎหมายระดับสูงก็ยังถกเถียงกันว่า ต้องเปิดโอกาสให้คู่สัญญาก่อน เพราะเขามีสิทธิอยู่ ฉะนั้นการบอกยกเลิกสัญญาวันนี้เลย หรือรอให้ครบสัญญาแล้วบอกยกเลิก อะไรจะปลอดภัยกว่ากัน
“หลังจากนี้เราจะไปหารือกับทาง ผบ.ตร.ในฐานะผู้ตัดสินใจว่า ท่านต้องการแบบปลอดภัย 100% คือรอให้หมดสัญญาก่อนบอกยกเลิก หรือบอกเลิกแบบเร็ว มันจะมีข้อต่อสู้ เพราะว่าเขายังเหลือเวลาอยู่ โดยปัญหาสำคัญ ก็เป็นเรื่องสัญญา ที่สัญญาเดียวทั่วประเทศ และห้ามจ้างช่วงต่อ” รอง ผบ.ตร.กล่าว
เมื่อถามว่า การทำสัญญาในตอนแรก ทาง ตร.มีการพิจารณาแล้วว่าบริษัทพีซีซีมีความพร้อมที่จะเข้ามาทำแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า ขอชี้แจงว่าในหลักการก่อนที่จะได้บริษัทมา ทาง ตร.ก็ได้พิจารณาถึงเรื่องความประหยัด จึงเสนอให้ทาง ครม.อนุมัติ จนมาได้บริษัทเดียว ส่วนการตรวจสอบในฝ่ายของตำรวจนั้น ทาง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตรวจสอบ โดยมอบให้สำนักงานตรวจสอบภายใน เข้าไปตรวจสอบดูว่ามีใครบกพร่อง หรือเป็นการบกพร่องในเชิงบริหารหรือไม่ ถ้าพบว่ามีการพาดพิงนายตำรวจระดับสูงก็ไม่มีข้อยกเว้น
ด้านนายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล ประธานกรรมการผู้จัดการบริษัทพีซีซีฯ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดอะไรขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นฝ่ายชี้แจง โดยตนจะแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งในสัปดาห์หน้า แต่ตอนนี้ขอชี้แจงเป็นเอกสารตามที่ส่งให้ตร.
เมื่อถามว่าเหตุใดบริษัทฯจึงไม่สามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จ นายนวพล พรัดมะลิ ที่ปรึกษากฎหมายของบริษัท ตอบแทนว่า มีหลายอย่างที่ติดขัดจะของแถลงในครั้งเดียว ยืนยันบริษัทเราทำตามสัญญา
ถามว่า ตร.ระบุว่าที่สร้างไม่เสร็จ เพราะบริษัทฯขาดสภาพคล่อง ทางการเงิน นายพิบูลย์ กล่าวว่า ไม่จริง เรายังมีเงินทุนในการก่อสร้าง แต่ขอพูดในรายละเอียดอีกครั้ง เรื่องนี้ไม่มีนักการเมืองเข้ามาฮั้ว ปัญหาที่เกิดมาจากหลายสาเหตุ วันนี้ตนมาขอทราบอย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรต่อ ไม่กังวลหากตร.จะยกเลิกสัญญา การดำเนินการฟ้องร้องก็ต้องทำไปตามกระบวนการ การฟ้องร้องจะเป็นทางสุดท้าย การสร้างแฟลตยังดำเนินการไปได้ตามปกติ
เมื่อถามว่าเหตุใดจึงหยุดการก่อสร้าง นายนวพล ตอบแทนอีกว่า ตรงนี้อยากให้เกิดความชัดเจนระหว่างผู้จ้างกับผู้ว่าจ้างก่อน มาดูข้อแท็จจริงของกันและกันเพื่อให้เกิดความสบายใจ ยืนยันว่าบิรษัทตั้งใจทำให้เสร็จ วันนี้มาขอทราบว่าตร.จะทำอย่างไร ตอนนี้บริษัทยังสามารถก่อสร้างได้ การก่อสร้างไม่เสร็จมาจากหลายสาเหตุทั้งเรื่องอุทกภัยและการตรวจรับมอบงาน ที่สร้างล่าช้าต้องเข้าใจว่าก่อสร้างทั่วประเทศ ที่ล่าช้ามาจากหลายปัจจัย ต้องเรียนว่าตามแผนการเดิมก่อนอุทกภัยเรามั่นใจว่าเสร็จแน่ แต่มีปัจจัยเข้ามาอีกหลายอย่าง ถ้าไม่มีปัจจัยเข้ามาเราสร้างเสร็จ ซึ่งชี้แจงที่ประชุมตร.ไปแล้ว
ถามว่าดีเอสไอระบุว่าบริษัทอาจเข้าข่ายฉ้อโกง จงใจเอาเงิน ล่วงหน้า นายนวพล กล่าวว่า บริษัทวางวงเงินค้ำประกันเต็มมูลค่า ทางราชการไม่เสียหายแน่นอน ข่าวที่ว่าเราฉ้อโกง ข่าวพวกนี้เป็นอุปสรรคการทำงานของบริษัทเรา อย่าลืมว่าข่าวทางลบทำให้ความเชื่อมั่นเครดิตของบริษัท ลดลง
ถามว่าบรรยากาศการพูดคุยกับตร.เป็นอย่างไรนาวิบูลย์ กล่าวว่า คุยกันแล้วดีขึ้น สัปดาห์หน้าตนจะพูดอีกครั้ง