xs
xsm
sm
md
lg

เหลิมซัดเทือก ฮั้วสร้างโรงพัก "ดีเอสไอ"ไล่บี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ (31ม.ค.) นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย

ตั้งกระทู้ถามสด เรื่องความคืบหน้าการแก้ปัญหาโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่ง และอาคารที่พัก

ข้าราชการตำรวจ 163 แห่ง ทั่วประเทศ ว่า ตนเป็นห่วงว่าสถาบันตำรวจจะมีโรงพักเหมือนโฮปเวลล์ ขณะนี้ตำรวจครึ่ง

ค่อนประเทศเดือดร้อน ไม่มีที่ทำงาน เพราะรัฐบาลที่มาจากการปล้นอำนาจประชาชน ไม่ใส่ใจความเดือดร้อน คอร์รัปชัน

โกงกิน การทำสัญญาครั้งแรก วันที่ 29 พ.ค.52 ให้ทำแยกสัญญาตามภาค ต่อมาวันที่ 18 พ.ย.52 พล.ต.อ.ประทีป ตัน

ประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. ขณะนั้น ได้เปลี่ยนแปลงรวบมาเป็นสัญญาเดียว โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายก

รัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สมัยนั้น อนุมัติให้ความเห็นชอบ โดยให้มีผู้รับเหมารายเดียว แต่จน

ถึงขณะนี้ คืบหน้าเฉลี่ย 15 % มีการขอขยายสัญญามา 2 ครั้ง จะหมดสัญญาสุดท้ายวันที่ 15 มี.ค.56
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 เคยตั้งข้อ

สังเกตว่า การรวมประมูลไว้ที่ส่วนกลาง เป็นเรื่องไม่เหมาะสม ไม่ควรทำ ความเสียหายที่เกิดขึ้นถือว่าเข้าข่ายกระทำผิด พ.ร

.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอรราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กฎหมายฮั้วประมูล) การกระทำของ นายสุเทพ เหมือน

ระเบิดปรมาณู บอมบ์ประเทศไทย รัฐบาลจะมีแนวทางแก้ไขปัญหาให้จบอย่างไร จะเยียวยาวความรู้สึกพี่น้องตำรวจทั่ว

ประเทศอย่างไร เรื่องนี้ต้องสะสางเด็ดขาด อย่าให้คนผิดลอยนวล
ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า โครงการนี้ช่วงแรกอนุมัติแยกเป็นสัญญารายภาค 1-9

ผ่านระบบอีอ็อคชั่น ซึ่งนายสุเทพ ก็เซ็นอนุมัติไปเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.52 เปิดให้มีการแข่งขัน แต่ห่างมาเพียง 6 เดือน วันที่ 18 พ

.ย. 52 เกิดความผิดปกติ เมื่อพล.ต.อ.ประทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. ขณะนั้น เสนอเปลี่ยนแปลงให้จัดซื้อจัดจ้าง

ด้วยวิธีส่วนกลาง โดยไม่ผ่านคณะกรรมการฯ ซึ่งนายสุเทพ ก็เซ็นอนุมัติอีก โดยมีบริษัท พีซีซี ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์คอน

สตรัคชั่น ตั้งอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ บ้านพ่อตานักการเมือง วันทำสัญญาเบิกเงินไป 800 ล้านบาท ผู้รับเหมามารับสารภาพแล้วว่า

ต้องจ่ายเบี้ยใบ้รายทาง ทำให้ไม่มีเงินมาก่อสร้าง โลกนี้มีกฎ 3 กฎ คือ กฎธรรมชาติ กฎหมาย กฎแห่งกรรม ใครได้เงินไป

ขอให้หายนะ วิบัติ ซึ่งตนได้บอก ผบ.ตร.ไปว่า อย่ากลั่นแกล้ง ผิดว่าไปตามผิด แต่อย่าปกป้องคนชั่ว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า สัญญานี้ยกเลิกได้ แต่ต้องทำให้รัดกุม คือวันที่ 14 มี.ค. ครบสัญญา วันที่ 15 มี.ค. ยกเลิก

และจะเดินหน้าต่อ ให้เขามีที่ทำงานซะที การเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ในเวลาแค่ 6 เดือน ต้องมีผู้รับผิดชอบ และสั่ง ผบ

.ตร. เอางบส่วนหนึ่งไปอุดหนุนโรงพักที่มีสภาพไม่สมบูรณ์
ทั้งนี้ในระเบียบสัญญาระบุไว้ว่า บริษัทที่รับเหมาไปได้บริษัทเดียว ต้องทำงานด้วยตัวเอง ไม่สามารถเอางาน

ทั้งหมด หรือบางส่วนไปจ้างช่วงต่อได้ บริษัทต้องรับผิดชอบ เตรียมสั่งให้สตช. ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ขณะนี้สตช.ได้

ตั้งคณะกรรมการสอบสวน อยู่ระหว่างยกเลิกสัญญา เรื่องดีเอสไอ เขาจะจัดการเอง ซึ่งการกระทำผิดที่สมบูรณ์ย่อมทิ้งร่อง

รอย และพยานหลักฐานไว้ ตนได้ดูข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่ด้านล่างหนังสือจากสตช. ครั้งแรกเป็นเบอร์โทรสำนักงาน

กองบัญชาการส่งกำลังบำรุง ส่วนครั้งที่สองเป็นเบอร์หน้าห้อง ผบ.ตร. ซึ่งเรื่องนี้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีราย

ชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นต่อดีเอสไอไว้แล้ว
อย่างไรก็ตามตนจะเร่งรัดแก้ไขเปิดประมูลใหม่ ให้มีความเป็นธรรม หลีกเลี่ยงพ.ร.บ.ฮั้ว

**"ชูวิทย์"จี้หาคนรับผิดชอบ

ด้านชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย กล่าวว่า โครงการสถานีตำรวจ 396 แห่ง ทั่ว

ประเทศ ที่ยังไม่แล้วเสร็จนั้น กำลังหลงประเด็นกัน เพราะมีการพูดเบี่ยงเบนประเด็นว่า โครงการนี้ไม่สามารถรวม

สัญญาได้ ทั้งที่ความจริงแล้วสามารถทำได้ โดยไม่ผิด ซึ่งเรื่องนี้ต้องดูว่าโครงการทั้งหมดก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา

ที่ระบุไว้ 600 วัน แล้วมีการขยายสัญญาต่อมาเรื่อยๆ จนขณะนี้เหลือเวลาก่อสร้างอีกเพียง 40 วันเท่านั้น แต่สภาพสถานี

ตำรวจทดแทน กลับยังไม่เรียบร้อย บางแห่งมีแค่เสา บางแห่งผู้รับเหมาทิ้งงาน เรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ เพราะจากการ

ตรวจสอบเมื่อ ปี 54 หลายโรงพักที่มีปัญหาการก่อสร้างไม่คืบหน้า ผู้กำกับแต่ละสถานีก็กลัวที่จะมีความผิด จึงได้รายงาน

ให้ผู้บังคับบัญชารับทราบตามลำดับขั้นตอนแล้ว รวมทั้งสมุห์บัญชี ก็ได้ตรวจสอบและระบุข้อสังสัยหลายประเด็นว่า

บริษัทพีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นผู้รับเหมารับงานก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน ประสบปัญหา

ทางการเงิน บริษัทขาดสภาพคล่อง ซึ่งดูแล้วน่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน ทั้งยังนำเงินจากโครงการนี้ ไปใช้ใน

โครงการก่อสร้างอื่นๆ ของบริษัท และยังไม่แล้วเสร็จเช่นกัน
นายชุวิทย์ กล่าวว่า เหตุใดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ในปี2554 ที่ผู้ใต้บังคับบัญชารายงานปัญหา

เข้ามา จึงไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งที่ทราบปัญหาดีแล้วว่าจะก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ซึ่งสามารถบอกยกเลิกได้ตามระเบียบสำนัก

นายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2552 ข้อที่ 137 ที่ให้อำนาจหัวหน้าส่วนราชการสามารถบอกเลิกสัญญาได้ หากเห็น

ว่าผู้รับจ้าง ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จในระยะเวลาตามสัญญาได้
นอกจากนี้อยากให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปตรวจสอบผู้รับเหมา ผู้ถือหุ้น ว่ามีความเกี่ยวโยงกับนักการเมือง

คนใดบ้าง และผบ.ตร. ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดในขณะนั้น ต้องรับผิดชอบ เพราะรู้ว่ามีความเสียหายเกิดขึ้น แต่ก็

ปล่อยปัญหาให้คาไว้ เพื่อช่วยพรรคการเมืองหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ ได้นำภาพถ่ายโครงการทุจริตต่างๆ ที่ยังหาผู้รับผิดชอบในความเสียหายไม่ได้

อาทิ อาคารก่อสร้างที่ทำการกทม.แห่งที่ 2 ซึ่งผ่านมา 5 ผู้ว่าฯ แล้วแต่ยังยังสร้างไม่เสร็จ โครงการทุจริตรถดับเพลิง 6,000

ล้าน โครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านและโครงการโฮปเวลล์
กำลังโหลดความคิดเห็น