ผบ.ตร.ยืดสัญญาก่อสร้างโรงพักให้พีซีซี 30 วันก่อนฟ้องแพ่ง

ผบ.ตร.ขยายสัญญาอีก 30 วันให้พีซีซี หากไม่ทันจะฟ้องแพ่ง ในขณะ “ชูวิทย์” แบกค้อนยักษ์ทุบโรงพักจำลองประจานโกงโรงพัก 396 แห่งหน้ารัฐสภา เชื่อจับมือใครดมไม่ได้!

วันนี้ (14 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง (ผบช.สกบ.) และ พล.ต.ท.วัฒนา สักวัตร ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (ผบช.กมค.) ร่วมกันแถลงข่าวกรณีบอกเลิกสัญญากับบริษัท พีซีซี ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นคู่สัญญารับเหมาก่อสร้างที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) 396 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีมูลค่า 5,848 ล้านบาท เริ่มทำสัญญาก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2554 มีการขยายสัญญา ยืดเวลาออกไปแล้วถึง 3 ครั้ง และครบกำหนดการขยายสัญญาครั้งสุดท้ายในวันนี้ (14 มี.ค.)

พล.ต.อ.อดุลย์แถลงว่า วันนี้เป็นวันครบสัญญาการก่อสร้าง 14 มี.ค.นับตั้งแต่ ตร.ทราบปัญหาที่เกิดขึ้นก็ดำเนินการขับคลื่อนแก้ไขปัญหาในหลายมิติ 1. การดำเนินการบอกเลิกสัญญา โดยวางแนวทางไว้ดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายที่มีอยู่ 2. มีการตั้งคณะทำงานสืบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย 3. ดำเนินการเตรียมประกวดราคาใหม่ และ4. แก้ปัญหาให้ตำรวจที่อยู่ในโรงพักที่มีปัญหาก่อสร้าง มีที่ทำงาน อย่างไรก็ตาม วันนี้ต้องชี้แจงให้ทราบว่าหลังจากมีการประชุมคณะทำงานทั้งหมด พิจารณาเหตุผลความจำเป็นแล้ว

“โดยขอชี้แจงให้บริษัทคู่สัญญาผู้ต้องปฏิบัติตามสัญญาทราบว่า ตร.ขอบอกเลิกกสัญญา แต่เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการใหญ่มาก ใช้งบประมาณกว่า 5 พันล้านบาท ตามกฎหมายทางแพ่งกำหนดไว้ว่าเมื่อเป็นโครงการใหญ่ต้องให้โอกาสผู้ประกอบการได้แก้ตัวระยะหนึ่ง พอสมควร เมื่อทบทวนข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง ความจำเป็น ตร.จึงเห็นควรให้ผู้ประกอบการส่งมอบงานแก่เราอีก 30 วันข้างหน้า ซึ่งตรงกับวันที่ 17 เม.ย. ที่เป็นวันเปิดราชการพอดี หากไม่สามารถปฏิบัติตามในกำหนดนี้ ตร.จะบอกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการต่อไป” ผบ.ตร.ระบุ

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวด้วยว่า ในทางปฏิบัติ ตร.มอบหมาย สกบ.เตรียมแผนดำเนินการเพื่อประกวดราคาใหม่ทั้ง 396 แห่ง จากการตรวจสอบมีประมาณ 60 แห่งที่ไม่มีการดำเนินการก่อสร้างเลย จากนี้จะดำเนินการตามขั้นตอนพัสดุในการประกวดราคา และ ขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อกระจายอำนาจไปยังจังหวัดต่อไป ขั้นตอนนี้คาดว่าใช้เวลาอีก 30 วัน เช่นกัน โดยจะทำคู่ขนานกันไปไม่ให้เสียเวลา คาดว่าปลายเดือนเมษายนจะดำเนินการจัดจ้างใหม่ได้

“เราต้องการให้ ตร.สามารถบริหารสัญญา สามารถบังคับคู่สัญญาได้อย่างเต็มที่โดยใช้กฎหมายทางแพ่ง ส่วนการดำเนินการอื่นๆ ผมมั่นใจว่าเราได้ดำเนินการด้วยความรอบคอบเป็นธรรม ตามกฎหมาย ด้วยความรัดกุม เพื่อให้สามารถรักษาประโยชน์ของทางราชการได้มากที่สุด บางคนถามว่าเราเสียหายอะไรบ้าง ผมได้มีการตรวจสอบเงินค้ำประกัน ระหว่างคู่สัญญา ตร.มีไว้ 292 ล้านบาท รวมทั้งเงินธนาคารค้ำประกันเงิน 877 ล้านบาท ล่วงหน้าอีก รวม 1,169 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนี้ทำให้เราสามารถใช้กฎหมายแพ่งบังคับให้เขาปฏิบัติตาม เพื่อเป็นการรักษาประโยชน์ของราชการให้ได้มากที่สุด โดยใช้กระบวนกฎหมายทางแพ่ง ในทางกฎหมายเราเชิญอัยการมาให้คำปรึกษาเพื่อความรอบคอบ ทั้งนี้ 30 วันที่เราให้เวลาแก่คู่สัญญา ถือว่าไม่เสียเวลา เพราะเราทำด้วยความรอบคอบ ลดอุปสรรคการทำงานด้วย จุดประสงค์เพื่อให้ได้โรงพักมาทำงานโดยเร็วที่สุด โดยยึดกระบวนการตามกฎหมายแพ่งในการดำเนินการ” ผบ.ตร.กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.เอกกล่าวว่า ตนและ พล.ต.ท.วัฒนา ร่วมกันเป็นคณะทำงานในส่วนของการพิจารณาสัญญา ที่ สกบ.ในฐานะคู่สัญญาจะพิจารณาดำเนินการกับบริษัทรับเหมาฯในสัญญาดังกล่าว ซึ่ง ผบ.ตร.ได้มีหนังสือเชิญอัยการที่มีความเชี่ยวชาญในกฎหมายแพ่ง ร่วมเป็นที่ปรึกษา

“วันนี้เป็นวันครบกำหนดสัญญาที่ผู้รับเหมาต้องปฏิบัติตามสัญญา คือ ต้องส่งมอบสถานีตำรวจทั้ง 396 แห่งแก่ ตร. ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าขณะนี้ผู้รับเหมาไม่สามารถดำเนินการได้ ขั้นตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ วันที่ 15 มี.ค. ตร.จะมีหนังสือแจ้งให้ผู้รับเหมาได้ดำเนินการตามสัญา นั่นคือต้องส่งมอบโรงพักให้ ตร. แต่เมื่อไม่ส่งให้ ตร.ได้พิจารณาให้เวลาผู้รับเหมาอีก 30 วัน แต่เนื่องจากวันที่ 14 เม.ย.เป็นวันหยุด จึงเลื่อนเป็นวันที่ 17 เม.ย. หากวันที่ 17 เม.ย.ผู้รับจ้างยังไม่สามารถดำเนินการได้ ในวันที่ 18 เม.ย. ตร.จะมีหนังสือบอกกล่าวขอเลิกสัญญาแก่ผู้รับจ้างทันที ซึ่งทันทีที่บอกเลิกสัญญาเราจะมีกระบวนการฟ้องร้องบังคับให้ผู้รับจ้างชดใช้ค่าเสียหายแก่เรา วันที่ 18 เม.ย. ตร.จะมีหนังสือแต่งทนายไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด ให้เป็นทนายของ ตร.ในกระบวนการฟ้องร้อง ตร.จะรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆเกี่ยวกับความเสียหายจากการสร้างโรงพักไม่แล้วเสร็จ รวมถึงค่าปรับตามสัญญาที่ระบุไว้ ซึ่งระบุว่านับแต่วันที่ 14 มี.ค.เป็นต้นไป นับไปจนวันที่ 18 เม.ย.ที่ ตร.บอกเลิกสัญญา ประมาณ 30 วัน สัญญากำหนดให้ ตร.เรียกร้องค่าปรับได้วันละ 5.8 ล้านบาท นี่เป็นกระบวนการคร่าวๆ นับแต่วันพรุ่งนี้ถึง วันที่ 18 เม.ย. กระทั่งมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป” พล.ต.อ.เอกระบุ

ขณะที่ พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า แม้ข้อกฎหมายระบุให้ ตร.ให้เวลาแก่คู่สัญญาอีก 30 วัน แต่จะไม่กระทบกับกระบวนการจัดจ้างใหม่ ตรงนี้คลายกังวลได้เลย ยอมรับว่าเวลา 30 วันคงไม่พอ แม้ที่ผ่านมา ตร.จะมอบหมายให้ทั้ง 396 สภ.แต่ละ ภ.จว.ไปดำเนินการคิดราคา ประมินราคาเนื้องานใหม่ แล้วให้ส่งยัง ตร.ภายในวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้หลายแห่งยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ขาดอีกหลายแห่ง เพราะการคิดเนื้องานใหม่จากการก่อสร้างที่ทำไปแล้ว เป็นเรื่องยากมาก แต่ตร.ก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีจาก ฝ่ายโยธาธิการของ อบต. และจังหวัด ซึ่งทราบว่าบางแห่งการตรวจสอบต้องใช้เวลามากกว่า 15 วัน เพราะจำเป็นต้องตรวจสอบเหล็กว่าที่ผูกโครงสร้างว่ายังใช้การได้หรือไม่ บางแห่งต้องทดสอบปุนว่าแกร่งพอหรือไม่ ต้องรื้อ ทุบ หรือไม่ การคำนวณเนื้องานและเงินใหม่ใช้เวลานาน ภายใน 30 วันจากนี้ ตร.จะเร่งรัดให้แล้วเสร็จ หากทุกอย่างพร้อม การคำนวณราตาและเนื้องานเรียบร้อยภายในวันที่ 17 เมษายน ก็เริ่มนับหนึ่งได้ทันทีตามระเบียบ จะไม่เสียเวลาตรงนี้ไปเลย

ผู้สื่อข่าวถามถึงการพิจารณาร้องทุกข์ กล่าวโทษความผิดฐานฉ้อโกงต่อบริษัท พีซีซีฯ พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า เป็นคนละส่วนกัน ตร.จะดำเนินการบังคับการปฏิบัติตามสัญญาทางแพ่ง ทางอาญานั้นดีเอสไอดำเนินการไป เรื่องการฉ้อโกงเรายังไม่พิจารณาถึงขั้นนั้น ก็ประสานในส่วนดีเอสไอว่าให้ดีเอสไปดำเนินการทางคดีในส่วนที่ทำไปก่อน ตร.จะดำเนินการทางแพ่งเท่านั้นในตอนนี้เพื่อบังคับทำตามสัญญา เพื่อรักษาประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ตอนนี้ ตร.ขอเดินทางนี้ก่อน เพื่อบังคับให้คู่สัญญาปฏิบัติตาม ทั้งเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น และมีการคุ้มครองเรื่องอื่นที่เราจะดำเนินการได้ง่ายที่สุดคิดว่าการดำเนินการแนวทางนี้จะทำให้ได้โรงพักมาเร็วที่สุด เรียกค่าเสียหายคืนมาได้มากที่สุดเป็นเรื่องทางกฎหมายที่ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายให้ข้อสังเกตุ คำแนะนำมาอย่างรอบคอบมาก กรรีเช่นนี้เคยมีกรณีโฮปเวลล์ คลองด่านมาแล้ว ดังนั้นครั้งนี้เราต้องไม่เสียเปรียบ ต้องกระทำด้วยความรอบคอบมาก เรามีบทเรียนมาแล้วหลายกรรีที่บอกเลิกสัญญาแล้วมีการคุ้มครอง นำมาสู่การก่อสร้างต่อไมได้ ยืดเวลาเป็น 10 ปี อย่างนั้นจะเสียหายมากกว่า ตร.จึงใช้กระบวนการนี้เพื่อให้การจัดจ้างใหม่เกิดขึ้นได้ภายใน 30 วัน และฟ้องค่าเสียหายเอาเงินค้ำประกันกว่าพันล้านมาใช้ได้ ส่วนดีเอสไอก็ดำเนินการไป

ต่อข้อถามกรณีที่พีซีซีจะฟ้องร้อง ตร. พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า เป็นสิทธิกฎหมายที่บริษัททำได้ แต่ตร.ก็พิจารณาทุกอย่างโดยรอบคอบรัดกุม ไม่ผลีผลาม เป็นไปตามกระแส คือต้องเอาหน่วยไปได้ รักษาประโยชน์ชาติมากที่สุดโดยกฎหมาย ได้โรงพักมาเร็วที่สุด เราศึกษาบทเรียนโฮปเวลล์ คลองด่านมาแล้ว จึงตัดสินใจเช่นนี้ ขอเรียนสิ่งที่ผมตัดสินใจคือสิ่งที่จะนำพาองค์กรไปได้

เมื่อถามถึงกรณีที่พีซีซีระบุว่าที่ไม่สามารถสร้างได้เพราะการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ผบ.ตร.กล่าวว่า เป็นข้อต่อสู้ ซึ่งเป็นธรรมดาของโครงการใหญ่ ที่ต้องต่อสู่ แต่ตร.ต้องรัดกุมทุกเรื่อง ตร.ทำอะไร ตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ข้อมูล ที่ให้เวลาอีก 30 วันเพื่อเป็นการแจ้งให้ปฏิบัติตามสัญญา เขาขอต่อมาแล้ว เราไม่ให้ เราไม่ให้ให้การมีการต่อเวลา แต่30วันนี้เพื่อให้เวลาปฏิบัติตามสัญญาตามกฎหมายแพ่ง ที่มีฎีกาว่าโครงการใหญ่ต้องให้โอกาสเขา ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนหมด เป็นไปตามคำวินิจฉัยที่เคยมีมาแล้ว วันนี้ถือว่าเราแจ้งแล้วว่าให้ปฏิบัติตามสัญญาทุกขั้นตอน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า ครอบคลุมค่าใช้จ่าย 72 ล้านบาท ที่ ตร.มอบให้แต่ละ สภ.ที่ก่อสร้างไม่เสร็จ ไปดำเนินการปรับปรุงที่ทำการชั่วคราว และจะรวมถึงการคิดราคาเนื้องาน ก่อสร้างใหม่ โดยส่วนต่างหากราคาสูงขึ้นก็จะคิดรวมเป็นค่าเสียหาย ทั้งนี้จากที่รายงานเข้ามาพบว่าการก่อสร้างใหม่ส่วนใหญ่จะใช้มีราคาสูงขึ้นโดยเฉพาะค่าแรง ค่าวัสดุเพิ่มขึ้น สมมติหลังใหญ่ราคา 27 ล้าน เมื่อคำนวณใหม่พบราคาสูงขึ้นเป็นหลังละ 30 ล้านบาท จากจุดนี้ ตร.อาจต้องใช้งบประมาณก่อสร้างมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการประกวดราคา ที่อาจได้ราคาถูกลงก็ได้ ต้องรอผลการจัดจ้าง

“ขณะนี้ในข้อตกลงใจของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ประกอบกับที่หารือนักกฎหมาย ได้ว่า ขณะนี้เรากำลังมีความเดือดร้อนมากจากการไม่มีที่ทำการ ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก ดังนั้นเราต้องการอาคารมาเร็วที่สุด เราจึงคิดจัดหาโดยวิธีพิเศษ จะย่นระยเวลา หากอีอคชั่นใช้เวลาทางธุรการ 85 วัน เกือบ 3 เดือนแล้ว แต่หากใช้วิธีพิเศษเราใช้เวลาเพียง 10 วัน ช่วยทำให้เร็วขึ้นมาก อีกอย่างเราต้องการทราบส่วนต่างงบฯที่เราต้องจ่ายเพิ่มเพื่อนำไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ตรงนี้ทางอัยการบอกว่าเราต้องได้ข้อมูลตรงนี้เร็ว ดังนั้นการตกลงใจในขณะนี้ต้องใช้วิธีพิเศษ เพราะเร่งด่วน โดยกระจายการจัดจ้างไปยัง ภ.จว. ทั้งนี้ การจัดจ้างวิธีพิเศษก็มีกระบวนการอย่างโปร่งใส มีระเบียบกำหนด ต้องมีจดหมายแจ้งยังผู้ประกอบการ ยื่นราคา เปิดราคาต่อสาธารณชน เรื่องความโปร่งใสรับประกัน” รอง ผบ.ตร.ระบุ

ขณะเดียวกัน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้ใช้ค้อนยักษ์ทุบแบบจำลองโรงพัก เพื่อเป็นสัญลักษณ์โครงการโรงพักอัปยศ 396 แห่ง มูลค่า 5,800 ล้านบาท ที่บริเวณหน้ารัฐสภา โดยนายชูวิทย์กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นการประจานหน่วยงานราชการที่ช่วยกันปกปิดความผิดของโครงการนี้ ทั้งที่มีหลักฐานความผิดชัดเจน เชื่อว่าท้ายที่สุดจะไม่สามารถลงโทษผู้กระทำความผิดได้