โฆษก พท.อ้างผู้รับเหมาสร้างโรงพัก พูดไม่ตรง บ.คู่สัญญา สตช. ยันมีการรับเหมาทั่วประเทศ แจงลงพื้นที่ ยังพบทิ้งงาน ตร.เดือดร้อน แนะอย่าเลิกสัญญา ปล่อยครบกำหนด หากไม่เสร็จค่อยฟ้องเรียกค่าเสียหาย บี้ซ้ำ “เทพเทือก” พลาดตั้งแต่เริ่มนโยบาย ชี้ บ.เดียวทำทั่วไทยไม่ไหว ย้ำให้เห็นผลงาน รบ.ชุดก่อนห่วย
วันนี้ (6 ก.พ.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาฯ กล่าวว่า วันนี้ (6 ก.พ.) ตนได้รับข้อมูลจากผู้รับเหมาช่วงที่รับงานก่อสร้างโรงพักทดแทนในโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 สถานีทั่วประเทศ วงเงิน 5,848 ล้านบาท เกี่ยวกับการจ้างเหมาช่วงในหลายพื้นที่ ซึ่งตรงกันข้ามกับกรณีที่บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด คู่สัญญากับสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่าไม่มีการจ้างเหมาช่วง
ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่ในการตรวจสอบโรงพักเกือบทั่วประเทศ ตั้งแต่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) นั้นปรากฏว่า ยิ่งใกล้วันครบสัญญา 14 มี.ค. 2556 ซึ่งขณะนี้เหลืออีกประมาณ 35 วัน แต่การก่อสร้างโรงพักทดแทนกลับยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ นอกจากนี้ยังมีการทิ้งงาน ทำให้ตำรวจที่ถูกรื้อโรงพักไปแล้วได้รับความเดือดร้อนในการปฏิบัติหน้าที่ และประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการให้บริการ
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่ทาง สตช.อาจจะบอกเลิกสัญญาก่อนครบสัญญานั้นเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ แต่ในความเห็นส่วนตัวของตนแล้วอยากเสนอว่า น่าจะปล่อยให้คู่สัญญาปฏิบัติตามสัญญาจนถึงวันครบกำหนด และเมื่อครบกำหนดในวันที่ 14 มี.ค. 2556 แล้ว แต่คู่สัญญายังไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ตามสัญญา ทั้งๆ ที่มีการขยายเวลาให้แล้วถึง 3 ครั้ง ทาง สตช.ก็สามารถที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ให้ประชาชนผู้เสียภาษีได้เห็นว่า นโยบายที่ให้มีการรวมศูนย์อำนาจในการทำสัญญาซึ่งมีการลงนามโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอยู่ในช่วงที่ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร.ในขณะนั้น น่าจะเป็นการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดตั้งแต่ต้น เพราะบริษัทเพียงบริษัทเดียวจะก่อสร้างโรงพักทดแทนเกือบ 400 แห่งทั่วประเทศ โดยที่ไม่มีการจ้างเหมาช่วงนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และสุดท้ายเมื่อครบกำหนดสัญญาก็จะเป็นการประจานผลงานของรัฐบาลในอดีตด้วย