สามยอด.
การจับกุม นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ “กำนันเป๊าะ” อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข ผู้ต้องโทษจำคุก 30 ปี 4 เดือน คดีจ้างวานฆ่า นายประยูร สิทธิโชติ หรือ กำนันยูร และคดีทุจริตที่ดินเขาไม้แก้ว ซึ่งหลบหนีคดีมานานหลายปี ของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม 2556 กำลังกลายเป็นประเด็นที่สังคมพยายามเรียกร้องให้มีการขยายผลการสอบสวน
“เอาผิด”ผู้ที่เกี่ยงข้องในการช่วยเหลือกำนันเป๊าะให้รอดเงื้อมมือกฎหมายตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมา
โรงพยาบาสมิติเวช ที่รับรักษา??, หลานสาวที่นั่งมาภายในรถคันเดียวกับกำนันเป๊าะ, นายวินัย พ้นภัยพาล กำนันตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ซึ่งทำหน้าที่ขับรถ?, ตำรวจจังหวัดชลบุรี พื้นที่ที่บ้านกำนันเป๊าะตั้งอยู่ และ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ปล่อยให้กำนันเป๊าะเข้าประเทศ?
แต่ดูเหมือนว่า ทุกประเด็นที่มีการตั้งคำถามให้มีการสอบสวนขยายผล “เอาผิด” จะมีน้ำหนักไม่เพียงพอในการเอาผิดได้
ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลสมิติเวช ที่รักษากำนันเป๊าะ เนื่องจากด้วยจรรยาบรรณแพทย์ ไม่ว่าคนไข้จะเป็นคนดี หรือเป็นคนร้าย หากเจ็บป่วย ทางโรงพยาบาลก็ต้องให้การรักษา ยิ่งในรายของกำนันเป๊าะ มีการเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่ มาเป็นชื่อ กิม แซ่ตั้ง โรงพยาบาลคงไม่มีหน้าที่ไปตรวจสอบว่า เป็นชื่อจริงหรือชื่อปลอม หากคนไข้คนนั้นมีบัตรประชาชนระบุชื่อ กิม แซ่ตั้ง มาทำประวัติคนไข้ไว้
เช่นเดียวกับหลานสาวกำนันเป๊าะที่นั่งมาในรถ ก็เชื่อว่า หากพนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีในข้อหาช่วยเหลือ อำพราง ผู้กระทำความผิด ในการพิจารณาคดีศาลไทยก็ต้องพิจารณาในเรื่องความกตัญญู หากหลานสาวอ้างว่าคุณปู่ ร้องขอให้นั่งรถมาเป็นเพื่อนเพื่อไปหาหมอ ด้วยความกตัญญูเป็นหน้าที่ตามธรรมจรรยาก็ต้องไป ซึ่งศาลก็จะต้องพิจารณาในแง่นี้
“กำนันวินัย” ที่ทำหน้าที่ขับรถให้ อย่างดีสุดก็คงเอาผิดในข้อหาครอบครองกระสูนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนการช่วยเหลือให้หลบซ่อน ก็คงยากที่จะเอาผิดเช่นเดียวกัน หากมีการอ้างถึงหลานสาวกำนันเป๊าะขอร้องให้ช่วยขับรถมาให้
ตำรวจจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านกำนันเป๊าะตั้งอยู่ รวมทั้งกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ที่มี พล.ต.ท.วินัย ทองสอง หลานเขย คุณหญิง พจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิน ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ก็ไม่น่าจะมีความบกพร่อง เพราะการจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางลาดกระบัง ถนนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี ขาออก เขตลาดกระบัง กทม.ไม่ใช่ในบ้านพักของกำนันเป๊าะที่จังหวัดชลบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยปล่อยให้นักโทษเข้ามาภายในประเทศได้อย่างไร ก็ได้รับการการันตีจาก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ผู้บังคับบัญชาตนสังกัดตำรวจกองปราบปราม ชุดจับกุมกำนันเป๊าะ ยืนยันกำนันเป๊าะไม่ได้เข้าประเทศตามเส้นทางปกติ แต่เข้ามาเส้นทางพิเศษ
ทุกกลุ่มทุกคน ที่ถูกเพ็งเล็งว่า น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือกำนันเป๊าะ ล้วนมีช่องทางเอาตัวรอดกันหมด ไม่มีใครต้องติดร่างแหในการเปิดปฏิบัติการจับกุมกำนันเป๊าะของตำรวจกองปราบปรามครั้งนี้
ไม่น่าแปลกใจ หากจะไม่มีใครต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาช่วยเหลือกำนันเป๊าะ เพราะถ้าพินิจพิเคราะห์ปฏิบัติการการจับกุมของตำรวจกองปราบปรามชุดนี้ ก็ดูเหมือนตั้งใจกลายๆ ที่จะไม่ต้องการให้มีใครซวยไปด้วย
กระแสสังคมบางส่วนมองว่าการจับกุมกำนันเป๊าะครั้งนี้ เป็นเพียงการแสดงเชิงสัญลักษณ์ ไม่ได้ต้องการ “เข่นฆ่าจนเอาเป็นเอาตาย”เพียงต้องการส่งสัญญาณบ่งบอกให้รู้ถึงการทำหน้าที่ตามกฎหมายในการจับกุม ไม่ได้ต้องการล้างผลาญให้เกิดความโกรธแค้นเจ็บใจ
เห็นได้จากการเข้าจับกุมตำรวจกองปราบปรามเลือกที่จะจับกุมระหว่างเดินทางและออกนอกพื้นที่จังหวัดชลบุรีแล้ว แม้ชุดจับกุมจะอ้างว่าไม่ต้องการให้ชัวร์ ลดความเสี่ยงในการปะทะ แต่อีกมุมหนึ่งการจับกุมระหว่างทาง เจ้าของบ้าน เจ้าของพื้นที่ ก็ไม่ต้องรับผิดชอบ
หากจับภายในบ้านเจ้าของบ้านก็ต้องมีความผิดฐานให้ที่หลบซ่อน ซึ่งกรณีนี้ก็หมายถึงลูกๆกำนันเป๊าะ โดยเฉพาะตอนนี้มี นายสนธยา คุณปลื้ม ลูกชายเป็นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อยู่ในรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แม้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะเรียก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ไปสอบถามถึงการจับกุมครั้งนี้ มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือด้วยหรือไม่ หรือการที่ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) จะสั่งให้ พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 กองปราบปราม ไปสืบสวนประเด็นการเข้ารักษาพยาบาลของกำนันเป๊าะ หรือกรณีการใช้ชื่อกิม แซ่ตั้งก็เป็นเพียงกระบวนการตามอำนาจหน้าที่ ตามขั้นตอนการทำคดีเท่านั้น
โจทย์ทุกโจทย์ที่มีสังคมพยายามตั้งคำถามและเรียกร้องให้ขยายผล “เอาผิด”ผู้ที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ ถูกปิดตายตั้งแต่ก่อนที่จะมีการเปิดปฏิบัติการจับกุมกำนันเป๊าะ ผู้กว้างขวางแห่งเมืองชลบุรีแล้ว
เป้าประสงค์การดำเนินการครั้งนี้ จึงเพียงเพราะต้องการแสดงให้เห็นถึงการทำหน้าที่ตามกฎหมาย และส่งสัญญาณให้รับรู้รับทราบว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นพ่อรัฐมนตรี พี่นายกฯ หรือใครก็ตามที่กระทำผิด
เปิดเกมรุกแค่เบาะๆ ไม่ถึงตาย ก็เล่นเอาสะเทือนกันทั้งในและนอกประเทศแล้ว.