ผู้การฯกองปราบ มอบดาบชุดสืบสวน กก.1-กก.2 และ กก.ปพ.บก.ป.ลงพื้นที่ตรวจสอบพยานบุคคล-วัตถุ พร้อมรายงานผลให้ทราบภายใน 15 วันว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือกำนันเป๊าะหลบหนีคดีหรือไม่ จ่อเรียกบุคคลที่มีภาพอยู่ในเว็บไซต์ยูทิวบ์งานฉลองวันเกิดกำนันเป๊าะสอบ ไล่เรียงตั้งแต่ตำรวจ-หมอ
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่ตำรวจชุดคอมมานโดกองปราบปราม จับกุมนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ อายุ 75 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันใช้จ้างวานให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ได้บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพฯ-ชลบุรี) ขาออกลาดกระบัง กทม.เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ว่า หลังจากที่กรมราชทัณฑ์อนุมัติให้ย้ายตัวนายสมชาย จากทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ ไปยังเรือนจำกลาง จ.ชลบุรี ตามที่ญาติได้ร้องขอนั้น ในส่วนของ บก.ป.ได้รับการประสานเรื่องการใช้รถและกำลังตำรวจคอมมานโด บก.ป.เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยระหว่างการย้ายตัวนายสมชายเท่านั้น ซึ่งการคุมตัวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวต่อว่า สำหรับการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีผู้ให้ที่พักพิงกับนายสมชาย และผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดนั้น ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวน กก.1, กก.2 และ กก.ปพ.บก.ป.ไปตรวจสอบตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ และพยานเอกสาร แล้วรายงานผลให้ทราบภายใน 15 วัน อย่างไรก็ดี การจะกล่าวหาบุคคลใดต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน จะมีเพียงหลักฐานบางส่วนหรือคำกล่าวอ้างลอยๆ ไม่ได้ เพราะหากเป็นเช่นนั้นเราอาจถูกฟ้องร้องได้
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวถึงกรณีที่ กก.1 บก.ป.ประสานข้อมูลกับทาง รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ว่า คงต้องตรวจสอบกระบวนการเข้ารับการรักษาตัวของนายสมชายทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นใช้เอกสารทำทะเบียนประวัติผู้ป่วยในชื่อของนายกิม แซ่ตั้ง ไปตลอดจนการรักษาและการเดินทางเข้าออก ซึ่งขณะนี้เราได้วิดีโอที่บันทึกภาพมาแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด แต่คงยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีบุคลากรของ รพ.ในระดับใดบ้างที่เข้าข่ายกระทำความผิด ยังเป็นประเด็นที่ต้องรอการพิสูจน์ทราบจากองค์ประกอบต่างๆ และเจตนาว่าเป็นไปเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาให้หลบหนีหรือไม่ ส่วนการรักษาตัวของนายสมชายก็เป็นสิทธิของมนุษย์คนหนึ่งที่ทำเพื่อให้พ้นจากความตาย เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน
ผบก.ป.กล่าวอีกว่า ในส่วนของ กก.2 บก.ป.ที่ได้ลงพื้นที่ จ.ชลบุรี เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยจะต้องมีการสอบตำรวจในพื้นที่บางรายด้วย แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ว่าเป็นนายตำรวจหรือระดับชั้นประทวนกี่ราย แต่คงต้องสอบหลายราย นอกจากนี้ต้องตรวจสอบบุคคลที่ปรากฏภาพอยู่ในเว็บไซต์ยูทิวบ์งานวันเกิดกำนันเป๊าะว่ามีใครบ้าง และหากพบตัวแล้วบางคนอาจจะไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ก็ได้ ทั้งนี้ ชุดสืบสวนคงต้องแสวงหาพยานหลักฐานให้ได้ข้อเท็จจริงมากที่สุด
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวอีกว่า กรณีของบุคคลที่อยู่ภายในรถคันเดียวกับนายสมชาย ก็ต้องสอบปากคำเช่นกัน ส่วนกรณีที่พักแห่งอื่นนอกเหนือจากที่บ้านแสนสุข จ.ชลบุรีนั้น ทางตำรวจไม่พบว่ามีที่อื่นใด ทั้งใน กทม.และที่ จ.ชลบุรี ส่วนบ้านที่ตำรวจได้เฝ้าสืบสวนก่อนติดตามจับกุมนั้นพบว่าเป็นบ้านของนายสมชายเอง จึงเป็นสิทธิอีกเช่นกันในการเข้าพัก เรื่องนี้ทางตำรวจจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกประเด็นก่อนจะพิจารณาดำเนินคดีกับบุคคลใด และยืนยันว่าตำรวจทำทุกอย่างตามขั้นตอน ไม่มีปัญหาการเมืองเข้ามากดดันการทำงานแต่อย่างใด ทุกอย่างเราดำเนินการไปตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมกำนันเป๊าะนั้น เจ้าหน้าที่ได้ยึดโทรศัพท์จากผู้ที่นั่งในรถไว้ทั้งหมด แต่ไม่มีโทรศัพท์ของนายสมชายเพราะไม่ได้มีติดตัวมา นอกจากนั้นทางเจ้าหน้าที่กองปราบฯ ได้ขอกล้องวงจรปิดจากด่านมอเตอร์เวย์ เพื่อดูว่ารถที่ติดตามกำนันเป๊าะมาด้วยเป็นรถทะเบียนอะไร เนื่องจากในวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ ตามรถเลกซัสออกมาจากบ้าน พบว่ามีรถกระบะมิตซูบิชิ สีดำ ติดฟิล์มทึบ ขับติดตามออกมาจากบ้านด้วย โดยติดตามมาถึงหน้า รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ แต่ไม่ได้ขับตามรถที่กำนันเป๊าะวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาล แต่จอดรอที่ด้านนอก
ต่อมาพอรถกำนันเป๊าะขับออกมา รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับติดตามจนไปถึงที่ด่าน จนเห็นเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ แสดงตัวล้อมรถเข้าจับกุม รถกระบะคันดังกล่าวจึงได้ขับแยกออกไป ส่วนหลักฐานจากทาง รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ตอนนี้ทางพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 บก.ป.ได้นำหมายเรียกไปขอเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ทางโรงพยาบาลขอเสนอผู้บริหารก่อน รวมทั้งเรื่องของนายวินัย พ้นภัยพาล กำนัน ต.เสม็ด ทาง สน.โชคชัย ได้ทำหนังสือไปขอคำยืนยันจากกระทรวงมหาดไทยแล้วว่าตอนนี้อยู่ในสถานภาพอะไร
