xs
xsm
sm
md
lg

ป.บุกบ้านกำนันเป๊าะ ล่าผู้ร่วมกระทำผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรมราชทัณฑ์ชี้ญาติกำนันเป๊าะสามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้ทันที แจงขั้นตอนให้ส่งตรงถึงเรือนจำก่อนจะส่งมาที่กรมราชทัณฑ์ เพื่อเสนอต่อไปยัง รมว.ยุติธรรม เป็นผู้ถวายเรื่องไปยังสำนักพระราชวังว่าจะลดโทษ หรือปล่อยตัวนักโทษหรือไม่ "เป๊าะ" ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ผบ.เรือนจำพิเศษ ยันส่งเรื่องขอย้ายไปคุกชลบุรีให้กรมราชทัณฑ์แล้ว ด้านกองปราบบุกตรวจสอบบ้านกำนันฯ หาผู้ร่วมกระทำความผิด


วานนี้ (3 ก.พ.) นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีครอบครัว นายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ อายุ 75 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันใช้จ้างวานให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ที่ถูกตำรวจชุดคอมมานโด กองปราบปรามจับกุม ได้บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพฯ-ชลบุรี) ขาออกลาดกระบัง กทม.เมื่อวันที่ 30 ม.ค. จะยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษว่า ตามหลักนักโทษเด็ดขาดสามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้ทันที โดยครอบครัวจะยื่นเรื่องที่เรือนจำก่อนจะส่งมาที่กรมราชทัณฑ์ เพื่อเสนอต่อไปยังกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ รมว.ยุติธรรม เป็นผู้ถวายคำแนะนำไปยังสำนักพระราชวังว่าจะลดโทษ หรือปล่อยตัวนักโทษคนดังกล่าว เพราะเป็นพระราชอำนาจอย่างเดียว

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ไม่มีอำนาจในการถวายความเห็นในกรณีนักโทษเด็ดขาดขอพระราชทานอภัยโทษเพียงแต่จะรวบรวมข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้องกับนักโทษ ส่วนอำนาจในการถวายความคิดเห็นจะเป็นอำนาจของ รมว.ยุติธรรม เช่น นักโทษเคยต้องโทษมาแล้ว เคยประพฤติดีช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ระหว่างต้องโทษหรือเจ็บป่วยร้ายแรง ส่วนตัวนักโทษที่จะขอพระราชทานอภัยโทษ ก็สามารถเขียนประวัติคุณงามความดีประกอบ อย่างไรก็ตาม หากนักโทษรายใดยื่นขอพระราชทานอภัยโทษแล้วมีการยกฎีกา จะสามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษอีกครั้งได้ระยะเวลาต้องผ่านไป 2 ปี ส่วนการพักโทษของนักโทษที่อายุเกิน 70 ปี ยืนยันว่า ต้องเคยจำคุกมาแล้ว 1 ใน 3 เสียก่อน

ทั้งนี้ ญาติของกำนันเป๊าะได้ยื่นคำร้อง เพื่อขอย้ายตัวไปคุมขังในเรือนจำตามภูมิลำเนาแล้ว เพราะเรือนจำกลางชลบุรี มีอำนาจคุมขังผู้ต้องขังที่ต้องโทษจำคุกเกินกว่า 30 ปี ส่วนกรณีการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษนั้นเป็นสิทธิของนักโทษเด็ดขาดทุกรายที่สามารถยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษรายบุคคลได้

ด้านนายสรสิทธิ์ จงเจริญ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงอาการของนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ว่า ขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยให้การรักษาตามอาการ แม้มีโรคประจำตัวหลายโรค เช่น เส้นเลือดในสมองตีบตัน โรคระบบทางเดินหายใจ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานใดๆ ที่น่าเป็นห่วง
ส่วนการยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ หรือลดหย่อนโทษ ยังไม่ได้รับการประสานเรื่องนี้จากญาติ แต่เรื่องการขอย้ายไปควบคุมตัวที่เรือนจำกลางชลบุรี ได้ส่งเรื่องให้กรมราชทัณฑ์พิจารณาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ส่วนการย้ายไปยังเรือนจำตามภูมิลำเนา ยังต้องรอความเห็นแพทย์ อย่างไรก็ตาม สามารถดำเนินการได้ ไม่ขัดกับหลักการ และการเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังไปยังเรือนจำในภูมิลำเนา ก็เป็นนโยบายหนึ่งของกรมราชทัณฑ์ที่ต้องการลดความเครียดจากความห่างไกลญาติของผู้ต้องขัง

ขณะที่นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ ซึ่งเป็นบิดา ว่า การขอพระราชทานอภัยโทษยังคงต้องรออีกสักระยะหนึ่ง ตอนนี้ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายก่อน ซึ่งปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีโอกาสไปเยี่ยมคุณพ่อมาแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า การไปเยี่ยมกำนันเป๊าะเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา กำนันเป๊าะต้องการให้ช่วยเหลือและต่อสู้คดีอย่างไร นายสนธยา ตอบว่า ไม่ได้ฝากอะไร เพราะตอนนี้น้องๆ ก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอนอยู่คงต้องรอดูอีกระยะ เมื่อถามว่าความคืบหน้าการขอย้ายกำนันเป๊าะ ไปคุมขังยังเรือนจำกลางจังหวัดชลบุรี นายสนธยา กล่าวว่า ตอนนี้น้องๆก็ได้ทำหนังขอย้ายเรือนจำไปยังกรมราชทัณฑ์แล้ว ต้องรอคำตอบจากกรมราชทัณฑ์ว่าจะอนุญาตและให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป

**ป.ลงพื้นที่หาผู้เกี่ยวข้องในบ้านเป๊าะ

พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป. เปิดเผยถึงความคืบหน้า พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผู้บังคับการกองปราบปราม มอบหมายให้ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อหาพยานหลักฐานแวดล้อมบุคคล รวมทั้งให้ตรวจสอบว่ามีบุคคลใดที่อยู่ภายในบ้านของนายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ อายุ 75 ปี ผู้ต้องหาจ้างวานฆ่ากำนันยูร และทุจริตจัดซื้อที่ดินเขาไม้แก้ว เพื่อการดำเนินคดีผู้ที่ให้ความช่วยเหลือให้ที่พักพิงกำนันเป๊าะ ว่า ภายหลังได้รับมอบหมายให้นำกำลังลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งทำการตรวจสอบในส่วนของการเข้าพักอาศัยในบ้านพักของนายสมชาย เพื่อพิจารณาว่าน่าจะมีผู้ใดเกี่ยวข้องกับการให้ที่พักพิงกับนายสมชาย หรือมีผู้ใดที่น่าจะเข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งคงจะต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดก่อน และจะเสนอไปยังผู้บังคับบัญชาภายใน 15 วัน เพื่อพิจารณาและมีคำสั่งต่อไปภายใน 15 วัน ถึงจะทราบผลก่อนดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ ผกก.2 บก.ป.ยืนยันว่าไม่หนักใจเกี่ยวกับการรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้แต่อย่างใด.
กำลังโหลดความคิดเห็น