ASTVผู้จัดการรายวัน-ตำรวจคอมมานโดบุกรวบตัว "กำนักเป๊าะ" คาด่านทางด่วนลาดกระบัง หลังเดินทางมารักษาตัวที่ รพ.สมิติเวช ย่านพัฒนาการ ก่อนนำตัวส่งศาลอาญา ศาลออกคำสั่งให้ส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทันที เหตุคดีทั้งจ้างวานฆ่าและทุจริตซื้อที่ดินทิ้งขยะ ถึงที่สุดแล้ว "สนธยา"เครียดพ่อโดนรวบ "เหลิม"ยันไม่มีใครแทรกแซงได้ "ชูวิทย์"แฉซ้ำ ไม่เคยหนีไปไหน ชาวชลบุรีเป็นงง เสียฟอร์มถูกจับได้ง่าย
วานนี้ (30 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี สว.กก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.วัฒนา ผลงานดี สว.กก.3 บก.ป. พ.ต.ท.กิตติ เกิดขันหมาก สว.กก.ปพ.บก.ป.นำกำลังตำรวจคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม ชุดจู่โจม 30 นาย พร้อมอาวุธครบมือ เข้าทำการปิดล้อม ตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อเล็กซัส รุ่นอาร์เอ็กซ์ 270 สีดำ ทะเบียน ฎฎ 9579 กรุงเทพมหานคร ที่กำลังขับเข้ามายังด่านเก็บค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี ขาออก เขตลาดกระบัง กทม. หลังจากสืบทราบว่า รถคันดังกล่าวมี นายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ บิดานายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 324/2555 ลงวันที่ 14 มี.ค.2555 ข้อหาร่วมกันใช้ จ้างวานให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อยู่ภายในรถด้วย
***คอมมานโดล้อมเจอกำนันเป๊าะในรถ
เมื่อรถคันดังกล่าวจอดนิ่งแล้ว เจ้าหน้าที่จึงจู่โจมเข้าขอตรวจค้นภายในรถ โดยมีรถยนต์ของตำรวจปิดล้อมด้านหน้าและด้านหลังเอาไว้ จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบว่ามีผู้ที่อยู่ในรถรวม 4 คน มีคนขับเป็นชายรูปร่างท้วม ผิวขาว ฝั่งด้านซ้ายมี นายวินัย พ้นภัยพาล อายุ 50 ปี กำนัน ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ส่วนเบาะนั่งด้านหลังรถมี นายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ นั่งอยู่ และอีกรายเป็นแพทย์หญิง ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวของนายสมชาย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับ ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดมายังกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กก.ปพ.บก.ป.(คอมมานโด โชคชัย 4) เพื่อทำบันทึกการจับกุม ซึ่งนายสมชาย ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.พร้อมกำลัง ได้เข้าตรวจค้นภายในรถยนต์คันดังกล่าว โดยพบถุงใส่กระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 6 นัด ซุกซ่อนอยู่ที่ใต้เบาะที่นั่งคนขับ ส่วนบริเวณกระโปรงหลังรถ พบถุงยาจำนวนหนึ่งของ รพ.สมิติเวช สาขาศรีนครินทร์ และพบใบเสร็จค่ายาในชื่อ “นายกิม แซ่ตั้ง” จึงเก็บรวบรวมทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
***ตรวจกล้องวงจรปิดดูเข้าออก รพ.
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า หลังจากนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลดังกล่าว เพื่อตรวจสอบว่า นายสมชาย มีการเดินทางเข้าออกโรงพยาบาลแห่งนี้บ่อยครั้งแค่ไหน พร้อมกันนั้นจะประสานตรวจสอบประวัติคนไข้ที่ชื่อนายกิม แซ่ตั้ง ซึ่งคาดว่าเป็นชื่อปลอมของนายสมชาย ที่ใช้สำหรับการติดต่อเข้ารับการรักษาพยาบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายสมชาย ถูกควบคุมลงจากรถ ไปสอบปากคำที่ กก.ปพ.บก.ป.นายสมชาย มีสีหน้าเรียบเฉย แต่มีรูปร่างที่อ้วนท้วนมากขึ้น รวมทั้งมีทรงผมที่ไว้ยาว ผิดกับที่เคยปรากฎตัวทางสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ในช่วงที่ถูกพิจารณาคดีจ้างวานฆ่าในชั้นศาล โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาในการทำบันทึกจับกุมพร้อมสอบปากคำเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง จึงเสร็จสิ้น
***จับได้เหตุประชาชนให้เบาะแส
พ.ต.อ.อธิปกล่าวว่า การจับกุมนายสมชายครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีประชาชนเข้าให้ข้อมูลเบาะแสกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ว่า นายสมชาย หรือกำนันเป๊าะ ยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศไทย และใช้ชีวิตตามปกติเช่นบุคคลทั่วไป แม้ว่าจะถูกศาลออกหมายจับก็ตาม ผบช.ก.จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.สุพิศาล และให้ตน ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ากำนันเปาะอยู่ในบ้านพักชื่อบ้านแสนสุข เลขที่ 3 ซอย 4 ถ.บางแสนล่าง ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงเฝ้าติดตามเป็นระยะเวลาประมาณ 2 เดือน กระทั่งในวันเดียวกันนี้ นายสมชาย เดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ ย่านพัฒนาการ เจ้าหน้าที่ซึ่งเฝ้าติดตามจึงวางแผนเข้าจับกุมโดยแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบภายในรถ ก่อนพบตัวนายสมชาย บุคคลเดียวกับหมายจับศาลดังกล่าว
พ.ต.อ.อธิป กล่าวอีกว่า กำนันเป๊าะ ตกเป็นจำเลย คดีใช้จ้างวานฆ่า นายประยูร สิทธิโชติ หรือกำนันยูร เมื่อปี 2546 ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มี.ค.2555 ศาลฎีกาได้คำพิพากษาจำคุกนายสมชาย เป็นเวลา 25 ปี แต่จำเลย ได้หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา นอกจากนี้ ยังตกเป็นจำเลยในความผิดคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินสาธารณะ ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายสมชาย เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ จ.ชลบุรี และภาคตะวันออก รวมทั้งมีบุตรชายเป็นถึง รมว.วัฒนธรรม จะทำให้เกิดความกดดันในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่หรือไม่ พ.ต.อ.อธิป กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรและปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง
***ควบคุมตัวส่งศาลอาญา
จากนั้นช่วงบ่าย พ.ต.อ.อธิป พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่คอมมานโด อาวุธครบมือ ได้ควบคุมตัวนายสมชาย ไปส่งศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยมีรถวิทยุสายตรวจ บก.ป.นำและปิดท้ายขบวน ทั้งนี้ ในระหว่างที่นายสมชาย ถูกคุมตัวเดินขึ้นรถ ผู้สื่อถามได้พยายามสอบถามนายสมชาย แต่เจ้าตัวซึ่งมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่ได้เปิดปากพูดอะไร ก่อนจะขึ้นรถออกเดินทางไปยังศาลอาญา
อย่างไรก็ดี ในส่วนของกระสุนปืนลูกซอง ที่พบว่าถูกซุกซ่อนอยู่ภายในรถของนายสมชายนั้น ในเบื้องต้นนายวินัย รับสารภาพว่าเป็นของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดี
นายวินัยกล่าวว่า กระสุนปืน เป็นกระสุนที่หลงเหลือ ตกหล่นอยู่ในรถนานแล้ว ตนลืมนำออกมา ไม่ได้นำไปใช้ก่อเหตุใดๆ สำหรับกรณีนายสมชาย ตนอาสาที่จะมาช่วยดูแล เนื่องจากนายสมชาย มีโรคเส้นเลือดในสมองตีบ และมีโรคความดัน มีแพทย์ประจำตัวอยู่ที่ รพ.สมิติเวช ประกอบกับนายสมชาย ไม่อยากไปรักษาตัวในต่างประเทศ ตนจึงเป็นผู้พานายสมชาย ไปรักษาที่ รพ.ด้วยตนเอง และยืนยันได้ว่า ก่อนหน้านี้ นายสมชาย เคยเดินทางออกไปต่างประเทศ แต่ไม่ขอระบุว่าเป็นที่ใดบ้าง ส่วนหญิงสาวที่อยู่ในรถ ไม่ใช่ญาติของนายสมชาย แต่เป็นแพทย์ประจำตัว ที่คอยดูแลอาการป่วยของนายสมชายเท่านั้น
***กำนันเป๊าะยอมรับเป็นตัวจริง
ต่ออมาเวลา 14.30 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ตำรวจหน่วยคอมมานโดกองปราบปรามพร้อมอาวุธปืนเล็กอัตโนมัติ เอชเคเอ็มพี 5 นำตัวนายสมชาย คุณปลื้ม มาส่งศาล โดยมีรถวิทยุฉลามบกนับสิบคันคุ้มกัน มีขบวนรถสื่อมวลชนติดตามมาโกลาหล เมื่อมาถึงก็ถูกคุมตัวไปขังในห้องพิจารณาเวรชี้ มีนายวิทยา คุณปลื้ม บุตรชายคนรอง ซึ่งเป็นนายก อบจ.ชลบุรี พร้อมญาติ และผู้ติดตามจาก จ.ชลบุรี เดินทางมาดูแล และสอบถามอาการของนายสมชายด้วยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และไม่ขอให้สัมภาษณ์
ต่อมาที่ห้องเวรชี้ บริเวณชั้นล่างใต้ถุนศาลอาญา เมื่อเวลา 15.15 น. ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์ เพื่อสอบถามว่าเป็นนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ จำเลยที่ 1 ในคดีจ้างวานฆ่ากำนันยูรหรือไม่ ซึ่งนายสมชายยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันจริง จากนั้นศาลจึงได้ออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด จำคุก 25 ปี บวกโทษจำคุกของศาลจังหวัดชลบุรีคดีทุจริตซื้อที่ดินกำจัดขยะ ต.เขาไม้แก้ว จ.ชลบุรี อีก 5 ปี 4 เดือน รวมจำคุกนายสมชายไว้ 30 ปี 4 เดือน ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้รับตัวนายสมชายไว้ และนำไปพิมพ์ลายนิ้วมือไว้ แล้วนำตัวนายสมชายขึ้นรถยนต์ตู้ของกรมราชทัณฑ์ส่งไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพเมื่อเวลา 15.30 น. โดยมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกรมราชทัณฑ์มาอารักขาด้วยปืนยาวอัตโนมัติ เอชเค33 ร่วมกับรถกองปราบเพื่อป้องกันการแย่งชิงตัว
***ต้องเข้าคุกอย่างเดียวประกันไม่ได้
นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินการต่อนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ จำเลยหลบหนีคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีจ้างวานฆ่ากำนันยูร และคดีทุจริตที่ดินเขาไม้แก้วว่า ขณะนี้องค์คณะผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ที่รับผิดชอบคดีของกำนันเป๊าะ อยู่ระหว่างค้นหาสำนวนคดีว่ากระบวนการถึงขั้นตอนไหนแล้ว แต่ถ้าคดีนี้ศาลฎีกามีคำพิพากษาแล้ว ก็ถือว่าคดีถึงที่สุด ศาลต้องออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด ภายหลังตำรวจคุมตัวกำนันเป๊าะมาส่งศาลแล้ว ศาลจะส่งตัวกำนันเป๊าะพร้อมหมายจำคุกคดีถึงที่สุด มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวส่งเข้าเรือนจำต่อไป และคดีนี้ไม่สามารถที่จะประกันตัวได้อีกแล้ว เนื่องจากศาลฎีกามีคำพิพากษาออกมาแล้ว ถือว่าคดีถึงที่สุดแล้วเช่นกัน
***โลกออนไลน์แชร์ภาพ"สนธยา"เครียด
วันเดียวกันนี้ ในโลกออนไลน์ ได้มีการแชร์ภาพจากเฟซบุ๊คที่อ้างว่าเป็นนาทีที่นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รับโทรศัพท์แจ้งข่าว กำนันเป๊าะ ซึ่งเป็นบิดา ถูกจับตัว โดยมีนางกุสุมา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นั่งเคียงข้าง โดยนายสนธยารับโทรศัพท์เช็คข่าวตลอดเวลาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ที่รัฐสภา นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าวจากผู้สื่อข่าวเช่นกัน โดยยังไม่ทราบรายละเอียด ก็ต้องในดูรูปคดีจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป และคงปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรถึงกรณีดังกล่าว นายสนธนากล่าวย้ำเพียงว่า ขอให้เป็นเรื่องทางกฎหมายดำเนินการ และยังไม่ทราบรายละเอียด
***เชื่อไม่กระทบตำแหน่งรัฐมนตรี
เมื่อถามต่อว่า เรื่องดังกล่าวเชื่อมโยงกับการเมืองหรือไม่ นายสนธยา กล่าวว่า ไม่คิด และมั่นใจว่าคงไม่มีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง เชื่อว่าจะไม่กระทบกับตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย เนื่องจากเมื่อครั้งตอนตัดสินคดี ตนก็อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่แล้ว และจะไม่นำตำแหน่งของตัวเองเข้าไปแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้พูดคุยกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลังเกิดเหตุได้พูดคุยกับนายสมชายหรือยัง นายสนธยา กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุย และที่ผ่านมา ก็ไม่เคยรู้ว่านายสมชายอยู่ในประเทศไทย รู้เพียงเดินทางไปมา และส่วนมากปกติจะอยู่ต่างประเทศ
"พ่อลูกกันเป็นห่วงกันอยู่แล้ว และทราบว่าคุณพ่อมีโรคประจำตัวและป่วยอยู่” นายสนธยากล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังปรากฏข่าวว่านายสมชายถูกตำรวจจับกุมนั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อทางโทรศัพท์กับนายสนธยา จนทราบว่า กำลังประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พ.ร.บ.สื่อสร้างสรรค์ พ.ศ. ... ที่อาคารรัฐสภา 3 จึงได้ไปดักรอที่บริเวณหน้าห้องประชุม แต่ปรากฏว่า ภายหลังการประชุมแล้วเสร็จ นายสนธยายังได้นั่งคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์
**"เหลิม"เชื่อไม่มีใครกล้าแทรกแซง
เวลา 13.00 น.ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ว่า ตนทราบจากข่าว และพูดในฐานะตำรวจเก่า มองว่าคงเป็นการจับกุมตามหมายจับของศาล เพราะกำนันเป๊าะไม่ได้ไปฟังศาลอ่านคำพิพากษา ส่วนรายละเอียดตนยังไม่ทราบ และตามขั้นตอน เมื่อจับกุมได้แล้วตำรวจต้องไปยื่นต่อศาลว่าสามารถจับกุมได้ จากนั้นศาลจะไต่สวนว่าเป็นบุคลที่มีตัวตนจริงตามหมายจับหรือไม่ ถ้าใช่ศาลก็สั่งจำคุกและส่งตัวไปเรือนจำโดยไม่ต้องพิจารณาอีกแล้ว
เมื่อถามว่า มองว่าการจับกุมในระหว่างที่บุตรชายมีตำแหน่งรัฐมนตรี ทำให้มีข้อสังเกตว่ารัฐบาลมีเกมเพื่อต่อรองอะไรกับนายสนธยาหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีหรอก และตำรวจก็ดำเนินการตามหมายจับของศาล เมื่อพบตัวก็จับกุม ไม่เกี่ยวที่จะไปต่อรองอะไรกัน เพราะรัฐบาลไม่ใช่คนไปจับ และคงไม่มีการใช้อำนาจรัฐเข้าไปแทรกแซง เพราะถ้าใครเก่งไปแทรกแซงก็เตรียมติดคุก จะไปทำอย่างนั้นไม่ได้ อย่าไปมองทุกอย่างเป็นการเมือง และตนก็ไม่อยากให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ แต่ถ้าไม่พูด สื่อก็จะบอกว่าไม่ทำความจริงให้ปรากฎ ถ้าพูดแล้วบางสื่อก็บอกว่าได้ไปต่อรองอะไรกันหรือไม่ จึงไม่อยากแสดงความคิดเห็น
**"ชูวิทย์"แฉไม่เคยเผ่นนอกประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ14.00 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประเทศไทย ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว ที่ชื่อว่า ชูวิทย์ I'm No.5 ถึงกรณีการจับกุมนายสมชาย โดยระบุว่า กำนันเป๊าะถูกตำรวจจับในระหว่างกลับบ้านพักที่ชลบุรี จริงๆ ผมได้ข่าวจากวงในมานานแล้วว่ากำนันเป๊าะไม่ได้หลบหนีไปต่างประเทศที่ไหนหรอก แต่อยู่ภายในบ้านพักแถวชลบุรี ในเขตอิทธิพลของแกนั่นเอง แกมีหูตามากมาย นอกจากนั้นแล้ว แถบบางแสนชลบุรีก็ติดทะเล สามารถที่จะนั่งเรือเร็วออกไปไหนต่อไหนได้
แต่อย่างว่าล่ะครับ "อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน" เพราะแกวางใจ ก็เลยมาหาหมอถึงโรงพยาบาลสมิติเวช แกคงเบาใจ เพราะว่าเวลาผ่านไปนาน เช่นเดียวกับคุณรักเกียรติก็โดนจับตอนไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ
แกหนีไปตั้ง 10 ปี สุดท้ายถูกจับได้ ที่มอเตอร์เวย์ขากลับชลบุรี หลังจากที่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล และกำลังกลับบ้านที่ชลบุรี ดูแกจะใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ แกวางใจเกินไปจนลืมนึกไปว่ากระบวนการยุติธรรมตามแกไปได้ทุกที ยกเว้นวันที่หมดลมหายใจ
นายสมชาย ได้เดินทางระหว่างบ้านที่จังหวัดชลบุรี เกาะกงในกัมพูชา และโฮจิมินทห์ของเวียดนาม จนถือเป็นเรื่องปกติ ขณะที่นายสมชายเอง ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีอายุมากขึ้น ประกอบกับลูกชายทั้ง 3 ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับชาติและท้องถิ่น จึงคิดว่า น่าจะรอดพ้นการจับกุมได้
ส่วนการจับกุมในครั้งนี้ มีรายงานว่า มีพลเมืองดี ได้แจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชลบุรี แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงแจ้งเบาะแสต่อตำรวจกองปราบปราบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลา สะกดรอย นานกว่า 2 เดือน จึงสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
**ชาวชลบุรีเป็นงง เสียฟอร์มถูกจับง่าย
หลังมีการแพร่ภาพข่าวนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ กำนันนักพัฒนาคนดังเมืองชลบุรี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดบุกเข้าจับกุมขณะนั่งรถยนต์ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวช กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวได้ขอความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี รวมทั้งบรรดาพ่อค้า-แม่ค้าที่ขายของบริเวณชายหาดบางแสน และตลาดหนองมน ได้รับคำตอบในทิศทางเดียวกันคือ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อข่าวการถูกจับกุมดังกล่าว หากไม่มีภาพนายสมชายถูกจับกุมผ่านสื่อทีวีเป็นเครื่องยืนยัน และส่วนใหญ่ระบุว่า รู้สึกงงเหมือนกันที่ถูกจับได้ เพราะเคยเห็นกำนันเป๊าะอยู่ในพื้นที่บางแสนหลายครั้ง ทั้งๆ ที่หลบหนีคดีอยู่
**บ้าน"กำนันเป๊าะ"ที่บางแสนเงียบเหงา
ผู้สื่อข่าวได้ไปสังเกตการณ์บริเวณที่ทำการพรรคพลังชล อ.เมือง และบ้านแสนสุข เลขที่ 3 ซอย 8 บางแสนล่าง ซึ่งเป็นบ้านของนายสมชาย และที่ทำการพรรคพลังชล พบว่า มีประชาชนเดินทางเข้าไปสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นมาอย่างไร แต่บรรยากาศดูเงียบเหงา มีเพียงรถยนต์ไม่กี่คันที่เลี้ยวเข้าไปยังที่ทำการพรรคพลังชล ส่วนบริเวณบ้านบางแสนล่างหรือบ้านใหญ่ ประตูบ้านถูกปิดตาย