ป.ลุยเมืองชลฯ เอาผิดเครือข่าย “เป๊าะ” ให้ที่พักพิง

กองปราบฯ ลงพื้นที่ชลบุรีเร่งสอบข้อมูลเอาผิดเครือข่ายกำนันเป๊าะให้ที่พักพิงผู้กระทำผิด ก่อนสรุปรายงานผู้บังคับบัญชาภายใน 15 วัน

วันนี้ (3 ก.พ.) พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป. เปิดเผยถึงความคืบหน้า พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผู้บังคับการกองปราบปราม มอบหมายให้ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อหาพยานหลักฐานแวดล้อมบุคคล รวมทั้งให้ตรวจสอบว่ามีบุคคลใดที่อยู่ภายในบ้านของนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ อายุ 75 ปี ผู้ต้องหาจ้างวานฆ่ากำนันยูร และทุจริตจัดซื้อที่ดินเขาไม้แก้ว เพื่อการดำเนินคดีผู้ที่ให้ความช่วยเหลือให้ที่พักพิงกำนันเป๊าะ ว่า ภายหลังได้รับมอบหมายให้นำกำลังลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งทำการตรวจสอบในส่วนของการเข้าพักอาศัยในบ้านพักของนายสมชาย เพื่อพิจารณาว่าน่าจะมีผู้ใดเกี่ยวข้องกับการให้ที่พักพิงแก่นายสมชาย หรือมีผู้ใดที่น่าจะเข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งคงจะต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดก่อน และจะเสนอไปยังผู้บังคับบัญชาภายใน 15 วัน เพื่อพิจารณาและมีคำสั่งต่อไปภายใน 15 วัน ถึงจะทราบผลก่อนดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ ผกก.2 บก.ป.ยืนยันว่า ไม่หนักใจเกี่ยวกับการรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้แต่อย่างใด

ด้าน พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผก.ป. กล่าวว่า ขณะนี้กำลังรอผลการตรวจสอบข้อมูลที่โรงพยาบาลสมิติเวช โดยเฉพาะในเรื่องเวชระเบียนผู้ป่วย การเข้ามารักษาตัว นอกจากนี้ตนยังสั่งการให้พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป. จัดกำลังลงพื้นที่ เพื่อหาพยานแวดล้อมและบุคคลที่เกี่ยวข้องที่อาจจะเข้าข่ายที่พักพิงแล้ว โดยเน้นให้ทำอย่างละเอียดและรายงานผลให้ทราบภายใน 15 วัน

พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวต่อว่าส่วนในเรื่องของนายวินัย พ้นภัยพาล กำนันต.เสม็ด ที่เข้าข่ายให้การช่วยเหลือผู้ต้องหานั้น ก็จะต้องเรียกตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมว่าทำไมถึงนั่งมานั่งอยู่ในรถคันเดียวกัน และเข้าข่ายความผิดเรื่องให้การช่วยเหลือไม่ อย่างไรก็ตามในขั้นนี้ทราบว่าทางมหาดไทย กำลังดำเนินการทางสอบสวนอยู่ เพราะเป็นหน่วยงานขึ้นตรงของนายวินัย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบหลักฐานบัตรประชาชนปลอม ที่นายสมชายนำไปยื่นเพื่อใช้เข้ารักษาตัวกับทางโรงพยาบาลสมิติเวช นั้นทราบว่าพนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับความร่วมมือ คาดว่าทางเจ้าหน้าที่อาจะต้องขอหมายศาลเพื่อนำไปสู่ข้อมูลดังกล่าว

ส่วนการลงพื้นที่จ.ชลบุรี โดยเฉพาะที่ ต.แสนสุข ทางชุดสืบสวนได้เน้นไปในเรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ให้การช่วยเหลือ เช่นตำรวจในพื้นที่มีว่าส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นหรือไม่ เนื่องจากทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้ให้นโยบายมาให้ทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนมากที่สุด โดยให้ตรวจสอบหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือของนายสมชาย และของทุกคนที่อยู่ในรถขณะถูกจับกุม เพื่อหาหลักฐานการติดต่อสื่อสารว่าผู้ต้องหามีการติดต่อกับผู้ใดบ้าง