xs
xsm
sm
md
lg

ตร.หารืออัยการจ่อยกเลิกสัญญาสร้างโรงพัก

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

วงการตำรวจวุ่น! ไม่มีโรงพักให้ตำรวจอยู่ “ผบ.ตร.” มอบหมายให้ “วรพงษ์” ตรวจสอบสัญญาว่าจ้างบริษัทรับเหมาผิดสัญญาว่าจ้างพร้อมหารือร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุดจ่อยกเลิกสัญญายุครัฐบาลมาร์ค-เทพเทือก-ปทีป รักษาการ ผบ.ตร.หลังติดปัญหาน้ำท่วม - จวบจนปัจจุบันยังไร้วี่แววสร้างเสร็จทันกำหนดสัญญาล่าสุด 14 มี.ค.นี้

วันที่ 16 ม.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.กล่าวว่า ทาง ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ประชุมตรวจสอบสัญญาทั้งหมดว่ามีเงื่อนไขอย่างไร ซึ่งการยกเลิกสัญญา หรือวิธีการต่างๆ ที่ดีและรวดเร็ว ทาง ตร.จะนำมาพิจารณา โดยหลักการได้มีการรายงานมาทุกสัปดาห์ว่าการก่อสร้างมีความคืบหน้าอย่างไร ทั้งนี้ในส่วนของสถานีตำรวจที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จนั้น ให้ทาง ผบช.แต่ละภาคจัดหาพื้นที่ให้สามารถทำงานกันได้ก่อน

ต่อมาเวลา 13.30 น.ที่ห้องประชุม 3 อาคาร 1 ตร. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมตรวจสอบข้อเท็จจริงปัญหาการก่อสร้างสถานีตำรวจทั่วประเทศ โดยมีผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุดที่ถูกเชิญมาร่วมประชุมเพื่อให้คำปรึกษาด้านข้อกฎหมาย

พล.ต.อ.วรพงษ์เปิดเผยก่อนการประชุมว่า วันนี้จะมีการประชุมหารือเรื่องสาเหตุการก่อสร้างสถานีตำรวจล่าช้า และแนวทางแก้ไข โดยการตรวจสอบเบื้องต้นพบปัญหาหลักคือผู้รับเหมาทำงานล่าช้า และมีบางพื้นที่ที่ตำรวจเองส่งมอบล่าช้าเช่นเดียวกัน ล่าสุดพบว่ามีการทำงานก่อสร้างไปเพียงแค่ 10% เท่านั้น ฉะนั้นทางเราจึงขอความเห็นจากผู้แทนอัยการสูงสุดว่าสัญญาผิดพลาดตั้งแต่แรกหรือไม่ และจะทำอย่างไรกับสัญญาได้บ้าง ทั้งการยกเลิกและฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับเหมา แต่หากไม่สามารถยกเลิกสัญญาได้ หลังจากนั้นก็ต้องมาหาแนวทางแก้ไขว่าทำอย่างไรให้การก่อสร้างเสร็จเร็วที่สุด ซึ่งในระดับพื้นที่ก็มีการตรวจสอบอย่างเร่งรัด เห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาใหญ่ ทาง สตช.ควรจะเข้าไปดูแลเอง ส่วนวันสิ้นสุดสัญญานั้นยังไม่ได้ข้อยุติ ต้องรอการตีความจากที่ประชุมเสียก่อน เนื่องจากการรับสัญญามี 2 แนวคิด คือ 1. สัญญาจะนับ 1 ได้ เมื่อ สตช.ส่งพื้นที่ให้ครบทั้งหมด ซึ่งตรงนี้เราได้ส่งพื้นที่ไปครบเมื่อเดือน ธ.ค. 2555 ดังนั้น วันทำงานยังเหลืออีก 400 กว่าวัน 2. เมื่อตำรวจส่งมอบพื้นที่แรก ก็ให้เริ่มนับตั้งแต่วันดังกล่าว โดยสัญญาจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.นี้

“ที่ประชุมสามารถใช้อำนาจเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลได้ แต่เราจะเน้นการตรวจสอบจากเอกสารเป็นหลัก และจะพิจารณาบริษัทรับเหมาครั้งนี้ด้วย ที่ประมูลได้เพียงบริษัทเดียว ตรงนี้จะได้เป็นบทเรียนต่อ สตช.ในการประมูลโครงการต่างๆ ต่อไป” รอง ผบ.ตร.ระบุ

เมื่อถามว่า ทาง สตช.จะลงไปเยี่ยวยาในพื้นที่ที่สร้างสถานีตำรวจไม่เสร็จหรือไม่ พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ให้ ผบช.ทุกภาคลงไปดูแล และหาวิธีแก้ไขเฉพาะหน้า

เมื่อถามต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตในโครงการนี้หรือไม่ พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อมูลเรื่องการทุจริต โดยที่จะต้องมีการตรวจสอบเป็นลำดับ ซึ่งเรื่องนี้ทาง ผบ.ตร.ก็ไม่ได้วางกรอบเวลาเร่งรัด แต่ทางเราจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังการประชุมได้มีแนวทางในเบื้องต้น โดยจะรอให้หมดสัญญาในวันที่ 14 มี.ค.นี้ หลังจากนั้นทาง สตช.จะขอยกเลิกสัญญาว่าจ้าง ก่อนที่จะมีการเรียกคู่กรณีคือบริษัทพีซีซี ดีเวลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เข้ามาชี้แจงด้านต่างๆ โดยทางคณะกรรมการจะมีการนัดประชุมหารือกันอีกหลายครั้งเพื่อหาข้อสรุปสุดท้ายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการก่อสร้างที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 แห่งทั่วประเทศ เกิดขึ้นในยุคที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ดำรงตำแหน่งรองนายกฯ และประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ทำหน้าที่รักราชการแทน ผบ.ตร.โดยอนุมัติตามงบไทยเข้มแข็งปี 2554 มูลค่า 5,848 ล้านบาท ซึ่งมีการทำสัญญากับบริษัท พีซีซี ดีเวลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับจ้าง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2554 ซึ่งทาง สตช.ได้จ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้ว 877,200,000 บาท และแยกหลักประกันการทำสัญญาประมาณ 292,400,000 บาท แต่เนื่องจากระหว่างการก่อสร้างประสบปัญหาในหลายๆ ด้าน ทั้งปัญหาน้ำท่วม และความล่าช้าในการส่งมอบพื้นที่โรงพัก ทางคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติต่อสัญญาออกไปหลายครั้ง สุดท้ายต้องเสร็จสิ้นในวันที่ 14 มี.ค. 2556 แต่ล่าสุดการก่อสร้างก็ยังไม่มีความคืบหน้า และมีความเป็นไปได้ที่จะเสร็จสิ้นไม่ทันตามกำหนดเวลา

ทั้งนี้ การก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่ง จะแบ่งเป็นแต่ละกองบัญชาการ (บช.) ประกอบด้วย บช.ภ.1 จำนวน 33 แห่ง, บช.ภ.2 จำนวน 29 แห่ง, บช.ภ.3 จำนวน 61 แห่ง, บช.ภ.4 จำนวน 99 แห่ง, บช.ภ.5 จำนวน 48 แห่ง, บช.ภ.6 จำนวน 52 แห่ง, บช.ภ.7 จำนวน 21 แห่ง, บช.ภ.8 จำนวน 26 แห่ง, บช.ภ.9 จำนวน 16 แห่ง, ศชต.จำนวน 11 แห่ง ขณะเดียวกัน บริษัท พีซีซี ดีเวลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ยังเป็นผู้รับจ้างการก่อสร้างแฟลตตำรวจ 163 หลังทั่วประเทศ จำนวนเงิน 3,800 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2553 เริ่มสัญญา 1 เม.ย. 2553 กำหนดแล้วเสร็จ 24 มิ.ย. 2554 แต่เนื่องจากติดปัญหาน้ำท่วม จึงมีการขอต่อสัญญามาวันที่ 12 เม.ย. 2555 ซึ่งเมื่อถึงวันส่งมอบงานก็พบว่าการก่อสร้างยังแล้วเสร็จเช่นเดียวกัน สำหรับบริษัท พีซีซี ดีเวลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด พบว่ามีนายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล และนายวิษณุ วิเศษสิงห์ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2548 ด้วยทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น