ASTVผู้จัดการรายวัน - "ชูวิทย์"ยื่นป.ป.ช.สอบ"เพรียวพันธ์-อดุลย์-สุพร" พร้อมกก.ตรวจการจ้าง ควบคุมโครงการ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบคดี 396 โรงพักฉาว ภาค 8 เปิด 12 สัญญาจ้างผู้รับเหมาช่วง ฟันหัวคิวกว่า 134 ล้าน "พีซีซี"แถลงโต้ฮั้วประมูล ยัน"มาร์ค-สุเทพ"ไม่เกี่ยว
วานนี้ (21 ก.พ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.สัดส่วน และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ยื่นหนังสือกล่าวโทษให้ตรวจสอบข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หรือเลินเล่อต่อหน้าที่ ในโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ(ทดแทน) 396 หลัง เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อราชการอย่างร้ายแรง โดยมีเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.เป็นผู้รับหนังสือ
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ได้ยื่นกล่าวโทษเพื่อให้ป.ป.ช.ไต่สวนชี้มูลความผิดทั้งทางอาญาและทางวินัยกับข้าราชการตำรวจ ผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ประกอบด้วย พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผบ.ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. คณะกรรมการตรวจการจ้างทุกนาย และผู้ควบคุมโครงการก่อสร้างอาคารทุกนาย
ที่รัฐสภา พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ได้ประชุมกมธ.พิจารณาการก่อสร้างที่ทำการสถานีตำรวจ(ทดแทน ) 396 แห่ง วงเงิน 5,848 ล้านบาท โดยพล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ภ.8 กล่าวว่า ภาค 8 ได้รับงบประมาณสร้าง 26 แห่ง วงเงิน 505 ล้านบาท มีเพียงลงเสาเข็มไว้ 16 แห่ง
ขณะที่ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ผบก.อก.ภ. 8 ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบพบว่าบริษัท พีซีซี ดิเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด จ้างผู้รับเหมาช่วง 12 สัญญา โดยสถานีขนาดใหญ่ บริษัทฯได้รับ 26,725,000 บาท จ้างผู้รับเหมาช่วง 20 ล้านบาท ขนาดกลางบริษัทฯได้ที่ 14,468,000
แต่จ้างผู้รับเหมาช่วง 10 ล้านบาท จึงส่งรายงานไปยังสำนักงานส่งกำลังบำรุง(สกบ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อต้นปี 2555 และสกบ.ได้ให้ตำรวจภูธรภาค 8 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งได้เอกสารทั้งหลักฐานการทำสัญญา และการโอนเงิน จากนี้ไปจึงเป็นหน้าที่ของสกบ.ที่ต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากมีการรับจ้างผู้รับเหมาช่วงสร้างสถานีทั้ง 26 แห่งหลัง บริษัทฯจะได้ค่าหัวคิว 134,104,000 ล้านบาท
วันเดียวกัน ที่จ.เชียงใหม่ นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกูล ประธานกรรมการบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด พร้อมด้วยนายวิศณุ วิเศษสิงห์ กรรมการผู้จัดการ และนายนวพล พรัดมะลิ ทนายประจำบริษัทฯ ร่วมแถลงข่าวที่ห้องประชุมบริษัทฯ เพื่อชี้แจงปัญหาที่ถูกกล่าวหาว่าในโครงการก่อสร้างที่ทำการสถานีตำรวจ(ทดแทน ) 396 แห่ง และแฟลตตำรวจ โครงการนี้มีงบประมาณ 6,676 ล้านบาท
"ประเด็นเรื่องการเปิดประมูลรวมทั้งประเทศ เรื่องนี้บริษัทฯ ก็ไม่เห็นด้วย และได้มีหนังสือเลขที่ 001/2552 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 ถึงนายกรัฐมนตรี ว่าหากสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดจ้างแบบรวมรายการ 396 หลังเป็นสัญญาเดียว และก่อสร้างที่พักอาศัย 163 แห่งเป็นสัญญาเดียว ทางบริษัทขอความกรุณาจากนายกรัฐมนตรีอย่าได้ลงนามอนุมัติหรือเห็นชอบโดยเด็ดขาด"
นายวิศณุกล่าวต่อว่า ประเด็นเรื่องฉ้อโกง ซึ่งมีข่าวว่าบริษัทฯ เบิกเงิน 1,600 ล้านบาทแล้วทิ้งงาน และโกงผู้รับเหมาช่วงนั้น ขอยืนยันว่า บริษัทฯเบิกเงินล่วงหน้าเพียง 877.20 ล้านบาท หักภาษีแล้วเหลือเพียง 858,810,507.54 บาท ยังฝากไว้ในธนาคาร 455,627,468.74 บาท คงเหลือใช้ดำเนินงานเบื้องต้น 403,183,038.80 บาท ตามหนังสือยืนยันจากธนาคารออมสิน สาขาประตูช้างเผือก ลงวันที่ 31 มกราคม 2556 ซึ่งตั้งแต่เริ่มดำเนินการ
โครงการนี้ เบิกเงินค่างวดงานแล้ว 719,927,605.00 บาท แยกเป็นปี 2554 วงเงิน 49,672,280 บาท ปี 2555 วงเงิน 648,097,825 บาท และปี 2556 วงเงิน 22,157,500 บาท
"ขณะนี้ผู้รับเหมาเบิกเงินล่วงหน้าไปแล้ว 74 สถานี รวม 15,975,746 บาท ค้างจ่ายให้อีก 46 สถานี 32,162,217 บาท มีสินค้าเข้าไซต์งาน 257 สถานี มูลค่า 259,907,049 บาท ซึ่งวิธีปฏิบัติในการก่อสร้างนั้น กว่าจะได้เงินต้องลงมือก่อสร้าง ตั้งเบิก จ่ายค่าแรง ซึ่งต้องใช้เวลา "
"บริษัทฯ ขอยืนยันว่า โครงการก่อสร้างสถานีตำรวจไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทไม่ออกมาชี้แจงจนตกเป็นจำเลยของสังคม แต่เอกสารทุกเรื่องได้ส่งให้ดีเอสไอแล้ว โดยชี้แจงถึง 14 ข้อ สามารถบอกได้เลยว่ามีใครบ้างเกี่ยวข้อง หาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ต้องการสอบถามข้อมูลก็พร้อมที่จะไปชี้แจงทันที" นายวิศณุกล่าว และว่า เรายังมีความหวังที่จะได้สิทธิที่ควรจะได้ เพราะถือว่าไม่ได้ทำผิดสัญญา แต่ถ้าตกอยู่ในฐานะของผู้เสียหาย ก็คงต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม และกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัทฯกลับคืนมา
นายวิศณุย้ำอีกว่า บริษัทฯ ได้ส่งงานไปแล้ว 700 งวด ต่อสัญญาไปแล้ว 3 ครั้ง ด้วยเหตุผลการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้กับผู้รับจ้างล่าช้าถึง 4 ครั้ง ล่าสุดได้รับอนุมัติขยายระยะเวลา ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2555 ถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2556 เป็นเวลา 248 วัน แล้วมาบอกว่าบริษัทฯผิดเงื่อนไขสัญญาการจ้างช่วงได้อย่างไร ซึ่งหากมีอะไรผิดพลาดผู้รับเหมารับช่วงไม่มีความผิด แต่บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นคู่สัญญากับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความผิด
วานนี้ (21 ก.พ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.สัดส่วน และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ยื่นหนังสือกล่าวโทษให้ตรวจสอบข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หรือเลินเล่อต่อหน้าที่ ในโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ(ทดแทน) 396 หลัง เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อราชการอย่างร้ายแรง โดยมีเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.เป็นผู้รับหนังสือ
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ได้ยื่นกล่าวโทษเพื่อให้ป.ป.ช.ไต่สวนชี้มูลความผิดทั้งทางอาญาและทางวินัยกับข้าราชการตำรวจ ผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ประกอบด้วย พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผบ.ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. คณะกรรมการตรวจการจ้างทุกนาย และผู้ควบคุมโครงการก่อสร้างอาคารทุกนาย
ที่รัฐสภา พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ได้ประชุมกมธ.พิจารณาการก่อสร้างที่ทำการสถานีตำรวจ(ทดแทน ) 396 แห่ง วงเงิน 5,848 ล้านบาท โดยพล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ภ.8 กล่าวว่า ภาค 8 ได้รับงบประมาณสร้าง 26 แห่ง วงเงิน 505 ล้านบาท มีเพียงลงเสาเข็มไว้ 16 แห่ง
ขณะที่ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ผบก.อก.ภ. 8 ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบพบว่าบริษัท พีซีซี ดิเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด จ้างผู้รับเหมาช่วง 12 สัญญา โดยสถานีขนาดใหญ่ บริษัทฯได้รับ 26,725,000 บาท จ้างผู้รับเหมาช่วง 20 ล้านบาท ขนาดกลางบริษัทฯได้ที่ 14,468,000
แต่จ้างผู้รับเหมาช่วง 10 ล้านบาท จึงส่งรายงานไปยังสำนักงานส่งกำลังบำรุง(สกบ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อต้นปี 2555 และสกบ.ได้ให้ตำรวจภูธรภาค 8 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งได้เอกสารทั้งหลักฐานการทำสัญญา และการโอนเงิน จากนี้ไปจึงเป็นหน้าที่ของสกบ.ที่ต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากมีการรับจ้างผู้รับเหมาช่วงสร้างสถานีทั้ง 26 แห่งหลัง บริษัทฯจะได้ค่าหัวคิว 134,104,000 ล้านบาท
วันเดียวกัน ที่จ.เชียงใหม่ นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกูล ประธานกรรมการบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด พร้อมด้วยนายวิศณุ วิเศษสิงห์ กรรมการผู้จัดการ และนายนวพล พรัดมะลิ ทนายประจำบริษัทฯ ร่วมแถลงข่าวที่ห้องประชุมบริษัทฯ เพื่อชี้แจงปัญหาที่ถูกกล่าวหาว่าในโครงการก่อสร้างที่ทำการสถานีตำรวจ(ทดแทน ) 396 แห่ง และแฟลตตำรวจ โครงการนี้มีงบประมาณ 6,676 ล้านบาท
"ประเด็นเรื่องการเปิดประมูลรวมทั้งประเทศ เรื่องนี้บริษัทฯ ก็ไม่เห็นด้วย และได้มีหนังสือเลขที่ 001/2552 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 ถึงนายกรัฐมนตรี ว่าหากสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดจ้างแบบรวมรายการ 396 หลังเป็นสัญญาเดียว และก่อสร้างที่พักอาศัย 163 แห่งเป็นสัญญาเดียว ทางบริษัทขอความกรุณาจากนายกรัฐมนตรีอย่าได้ลงนามอนุมัติหรือเห็นชอบโดยเด็ดขาด"
นายวิศณุกล่าวต่อว่า ประเด็นเรื่องฉ้อโกง ซึ่งมีข่าวว่าบริษัทฯ เบิกเงิน 1,600 ล้านบาทแล้วทิ้งงาน และโกงผู้รับเหมาช่วงนั้น ขอยืนยันว่า บริษัทฯเบิกเงินล่วงหน้าเพียง 877.20 ล้านบาท หักภาษีแล้วเหลือเพียง 858,810,507.54 บาท ยังฝากไว้ในธนาคาร 455,627,468.74 บาท คงเหลือใช้ดำเนินงานเบื้องต้น 403,183,038.80 บาท ตามหนังสือยืนยันจากธนาคารออมสิน สาขาประตูช้างเผือก ลงวันที่ 31 มกราคม 2556 ซึ่งตั้งแต่เริ่มดำเนินการ
โครงการนี้ เบิกเงินค่างวดงานแล้ว 719,927,605.00 บาท แยกเป็นปี 2554 วงเงิน 49,672,280 บาท ปี 2555 วงเงิน 648,097,825 บาท และปี 2556 วงเงิน 22,157,500 บาท
"ขณะนี้ผู้รับเหมาเบิกเงินล่วงหน้าไปแล้ว 74 สถานี รวม 15,975,746 บาท ค้างจ่ายให้อีก 46 สถานี 32,162,217 บาท มีสินค้าเข้าไซต์งาน 257 สถานี มูลค่า 259,907,049 บาท ซึ่งวิธีปฏิบัติในการก่อสร้างนั้น กว่าจะได้เงินต้องลงมือก่อสร้าง ตั้งเบิก จ่ายค่าแรง ซึ่งต้องใช้เวลา "
"บริษัทฯ ขอยืนยันว่า โครงการก่อสร้างสถานีตำรวจไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทไม่ออกมาชี้แจงจนตกเป็นจำเลยของสังคม แต่เอกสารทุกเรื่องได้ส่งให้ดีเอสไอแล้ว โดยชี้แจงถึง 14 ข้อ สามารถบอกได้เลยว่ามีใครบ้างเกี่ยวข้อง หาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ต้องการสอบถามข้อมูลก็พร้อมที่จะไปชี้แจงทันที" นายวิศณุกล่าว และว่า เรายังมีความหวังที่จะได้สิทธิที่ควรจะได้ เพราะถือว่าไม่ได้ทำผิดสัญญา แต่ถ้าตกอยู่ในฐานะของผู้เสียหาย ก็คงต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม และกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัทฯกลับคืนมา
นายวิศณุย้ำอีกว่า บริษัทฯ ได้ส่งงานไปแล้ว 700 งวด ต่อสัญญาไปแล้ว 3 ครั้ง ด้วยเหตุผลการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้กับผู้รับจ้างล่าช้าถึง 4 ครั้ง ล่าสุดได้รับอนุมัติขยายระยะเวลา ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2555 ถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2556 เป็นเวลา 248 วัน แล้วมาบอกว่าบริษัทฯผิดเงื่อนไขสัญญาการจ้างช่วงได้อย่างไร ซึ่งหากมีอะไรผิดพลาดผู้รับเหมารับช่วงไม่มีความผิด แต่บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นคู่สัญญากับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความผิด