xs
xsm
sm
md
lg

วิศวกรรมสถานฯ ยันโครงสร้างอาคารฟิโก้เพลสไม่เสียหาย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)เหตุเพลิงไหม้ อาคารฟิโก้ เพลส ถนนอโศก
ตร.ยังไม่ฟันธงสาเหตุเพลิงไหม้อาครารฟิโก้เพลส อโศก รอฟังรายงานกองพิสูจน์หลักฐาน ด้านวิศวกรรมสถานฯ ยืนยันโครงสร้างอาคารไม่เสียหาย


ความคืบหน้าเหตุอาคารฟิโก้ เพลส ย่านอโศก วันนี้ (5 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.เจ้าหน้าที่สำนักการโยธาฯ พร้อมเจ้าหน้าที่จากกองวิชาการ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.เดินทางเข้าตรวจสอบภายในอาคารที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่จากกองวิชาการ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบภายในอาคารเพื่อหาสาเหตุว่า ทำไมเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้จึงทำให้อาคารเสียหายมาก พร้อมทั้งจะใช้เป็นแนวทางในการหาทางป้องกันเหตุเพลิงไหม้ให้กับตัวอาคารอื่นๆ ต่อไป

ขณะเดียวกัน ทางอาคารฟิโก้ เพลส ได้นำเชือกมากั้นบริเวณทางเข้าด้านหน้าไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปด้านในอาคารเด็ดขาด พร้อมทั้งนำกระดาษมาปิดประกาศไว้ว่าขอเชิญพนักงานทุกบริษัทเข้าร่วมประชุมที่ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 4 โรงแรมแกรนด์ มิลเลเนี่ยม สุขุมวิท เวลา 10.00 น. โดยนายธีระทัต คงจันทร์ ผอ.ฝ่ายบุคคลและบริหารงานทั่วไปของอาคารฟิโก้ เพลส แจ้งว่า ไม่สามารถให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพทำข่าวได้ เนื่องจากเป็นการประชุมภายในของพนักงานบริษัทที่อยู่ในอาคารเท่านั้น ทั้งนี้ หลังจากใช้เวลาในการะประชุมนานประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง นายธีระทัตกล่าวเพียงว่า วันนี้ได้แจ้งให้แก่ลูกค้าที่เช่าอาคารทราบถึงข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังอยู่ระหว่างหารือร่วมกันเท่านั้นยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) จะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้งที่เดิม

ต่อมาเวลา 10.45 น. พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม ผกก.สน.ทองหล่อ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเดินทางเข้าตรวจสอบภายในอาคารที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริง โดย พ.ต.อ.รัฐศักดิ์กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานชุดแรกได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้นแล้ว ในวันนี้ได้นำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานอีกชุดหนึ่งเข้ามาตรวจสอบภายในอาคารที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยในวันนี้จะตรวจทางด้านฟิสิกส์ และระบบไฟฟ้าเป็นหลัก เนื่องจากจุดเกิดเหตุบริเวณชั้น 7 นั้นมีวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าด้วย ส่วนทางคดีนั้นทางพนักงานสอบสวนก็จะยึดผลการตรวจของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเป็นหลักว่าสาเหตุของเพลิงไหม้นั้นเกิดจากระบบไฟฟ้า หรือตัวบุคคล หลังจากนั้นก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเวลา 13.30 น. หลังจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานใช้เวลาในการตรวจสอบที่เกิดเหตุนานประมาณ 4 ชั่วโมง ก็ได้นำพยานหลักฐาน เช่น รางปลั๊กไฟ ถังสีจำนวน 2 กระป๋อง และหลักฐานอีกบางอย่างออกไปตรวจสอบ โดยไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด หลังจากนั้น พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พ.ต.ท.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว รองผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.วิบูลย์ ถิ่นวัฒนากูล พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ทองหล่อ ร.ต.อ.ธนาณุวัฒน์ สิทธิไชย พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ทองหล่อ เจ้าของคดี เดินทางเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่การโยธาธิการและผัง เมืองอีกครั้งโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า ตนกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ และเจ้าหน้าที่การโยธาฯ ได้เข้าไปตรวจสอบบนอาคารที่เกิดเหตุตั้งแต่ชั้น 7 จนถึงชั้น 13 ที่ถูกเพลิงไหม้ โดยพบว่าบริเวณชั้นที่ 7 ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทโอชอง และบริเวณชั้นที่ 9 ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก สำหรับมูลค่าความเสียหายนั้นต้องรอการประเมินอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานก็ได้เดินทางเข้ามาตรวจเก็บพยานหลักฐานบางอย่างไปตรวจสอบแล้ว เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องรอผลการตรวจจากทางกองพิสูจน์หลักฐานและผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้ระบุว่าสาเหตุนั้นเกิดจากอะไร เบื้องต้นได้ตั้งประเด็นของสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ 3 ประเด็น คือ เรื่องอุบัติเหตุ การประมาท และการจงใจที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ โดยที่ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้งไป อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะเดินทางไปเรียกประชุมพนักงานสอบสวนในคดีนี้ทที่ สน.ทองหล่ออีกครั้งเพื่อวางแนวทางการสอบสวน และเรื่องพยานหลักฐานให้รัดกุมที่สุด

ต่อมาเวลา 14.30 น. นายธเนศ วีระศิริ เลขาธิการสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมเจ้าหน้าที่จากสมาคมฯ เดินทางเข้าตรวจสอบโครงสร้างภายในอาคารที่เกิดเหตู พร้อมเปิดเผยว่าได้นำผู้เชี่ยวชาญจำนวนหลายคนเดินทางเข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยของโครงสร้างอาคาร และประเมินว่าจะยังสามารถใช้งานได้ต่อไปหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาคารที่ถูกเพลิงไหม้นานเกิน 10 ชั่วโมงขึ้นไปจะไม่สามารถใช้งานได้ต่อ อาจต้องรื้อทิ้ง สำหรับอาคารฟิโก้นั้นต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าจะยังสามารถใช้งานได้ต่อไปหรือไม่ หากไม่ปลอดภัยก็จต้องบอกว่าอย่างเพิ่งเข้าไปใช้งาน ต้องทำการรื้อถอนเสียก่อน นอกจากนี้ก็จะต้องตรวจดูเรื่องการวางระบบสปริงเกอร์ด้วย เพื่อจะได้ช่วยแนะนำเจ้าของอาคารว่า จะต้องปรับปรุงตัวอาคารอย่างไรบ้าง

ต่อมาเวลา 16.00 น.หลังจากใช้เวลาในการตรวจอาคารนานประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที นายธเนศเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภายในแล้วไม่พบว่าโครงสร้างอาคารหลักเสียหายแต่อย่างใด เสียหายเพียงส่วนประกอบเช่น ฝ้าทีบาร์ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ โดยอาคารดังกล่าวเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก มีระยะห่างของแต่ละชั้นเกือบ 4 เมตร เสาและคานไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนเรื่องสปริงเกอร์นั้นตรวจสอบไม่พบว่ามีแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นอาคารเก่าที่สร้างก่อนปี 2535 สำหรับเรื่องการก่อสร้างนั้นยังถูกต้องตาม พ.ร.บ.ฉบับเก่าอยู่เนื่องจากมี บันไดหนีไฟ และแผนผังของแต่ละชั้นครบถ้วน

นายธเนศกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเรื่องการลุกไหม้พบว่า ไฟได้ลุกลามไปทางหน้าต่างตั้งแต่ชั้น 7 เป็นต้นไป ชั้น 7-8 ได้รับความเสียหายบริเวณทิศเหนือ ส่วนชั้นที่ 9 นั้นได้รับความเสียหายมากที่สุดเนื่องจากมีเขม่าควันไฟกระจายไปทั่วเป็นวงกว้าง แต่ไม่พบการแตกกระเทาะของปูนแต่อย่างใด มีเพียงเสาต้นเดียวที่มีปูนฉาบหลุดร่อนออกมาเล็กน้อย และยังไม่มีจุดไหนที่ต้องทำการทุบทิ้งแต่อย่างใด หลังจากนี้ก็จะแนะนำเจ้าของอาคารต้องเพิ่มอุปกรณ์เรื่องความปลอดภัยในส่วนใดบ้าง ถ้าจะติดสปริงเกอร์ก็น่าจะขออนุญาตจากทางสำนักงานเขตได้ นอกจากนี้ก็คงจะต้องทำการติดผนังเพื่อป้องกันเศษกระจกหลุดร่วงลงไปใส่บ้านข้างเคียง และใช้เสาค้ำยันในการซ่อมแซมฝ้าเพดาน เพื่อความปลอดภัยของผู้ซ่อมแซม ส่วนการซ่อมแซมอาคารนั้นจะต้องทำการตรวจสอบก่อนซึ่งน่าจะอยู่ในระยะ 60 วัน

ด้าน นายวณิชชา สุขวณิชนันท์ อายุ 64 ปี อาชีพผู้รับเหมา และเป็นเจ้าของบ้านเลขที่ 20 กับ 20/1 ซึ่งอยู่ติดกับอาคารฟิโก้ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ได้นำภาพถ่ายตัวบ้านและทรัพย์สินภายในบ้านที่ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวมาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมเปิดเผยว่าวันเกิดเหตุขณะที่ตนอยู่ในบ้านก็ได้ยินเสียงระเบิดดังออกมาจากอาคารที่เกิดเหตุจึงรีบวิ่งออกมาดูก็เห็นว่ากระจกชั้น 7 ของอาคารฟิโก้แตกหล่นออกมา พร้อมกับมีกลุ่มควันและแสงเพลิงพุ่งออกมาจากตัวอาคาร จากนั้นก็เห็นเจ้าหน้าที่ของอาคารจำนวน 2-3 คนโผล่หน้าออกมาดู จึงรีบตะโกนบอกให้ไปเอาน้ำมาดับไฟ แต่พนักงานดังกล่าวกลับรีบวิ่งหนีไปทันที ตนจึงรีบโรศัพท์แจ้งตำรวจให้รีบมาดับเพลิง ซึ่งเชื่อว่าหากพนักงานของอาคารช่วยกัยเอาน้ำมาดับไฟก็ไม่น่าลุกลามไปขนาดนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น