รองผู้ว่าฯ กทม.ตรวจความปลอดภัยอาคารสร้างใหม่ย่านปทุมวัน เผยพบการป้องกันฝุ่นละอองและวัสดุร่วงหล่นยังไม่ได้มาตรฐาน จี้ให้เร่งแก้ไขโดยด่วน พร้อมสั่งการให้สำนักการโยธา กทม.และ 50 เขต ดำเนินการตรวจสอบระบบความปลอดภัยบริเวณที่มีการก่อสร้างทั้ง กทม. และเร่งดำเนินการภายใน 31 มี.ค.นี้
วันนี้ (27 ก.พ.) นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจความปลอดภัยการก่อสร้างอาคารสูง บริเวณหน้าซอยเกษมสันต์ 1 ริมถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน ซึ่งเป็นอาคารที่กำลังดำเนินการก่อสร้างเป็นโรงแรมสูงขนาด 28 ชั้น จะแล้วเสร็จประมาณปี 2556 พร้อมกล่าวภายหลังการลงพื้นที่ว่า จากการตรวจสอบตัวอาคารเบื้องต้น ในส่วนของโครงสร้างอาคารเป็นไปตามแบบที่ได้ขออนุญาตไว้ แต่การป้องกันวัสดุตกหล่น รวมถึงการป้องกันฝุ่นละอองภายในพื้นที่ก่อสร้างยังไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร จึงได้แจ้งให้เจ้าของบริษัทที่ดำเนินก่อสร้าง เร่งปรับปรุงโดยให้นำผ้าใบหรือวัสดุที่มีคุณภาพมาทำการปิดแนวโครงสร้างตัวอาคาร เพื่อกันวัสดุตกหล่น พร้อมให้นำน้ำพรมบริเวณพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง รวมทั้งล้างล้อรถที่เข้า-ออกบริเวณก่อสร้าง เพื่อป้องกันฝุ่นละอองกระจายออกไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและก่อปัญหาทางด้านสุขภาพอนามัยแก่ประชาชน ซึ่งได้กำหนดให้เร่งแก้ไขปรับปรุงภายใน 31 มี.ค. 2555
ทั้งนี้ กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อมได้ทำการสุ่มตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองรวมในบริเวณใกล้พื้นที่ก่อสร้างอาคารที่พัก ระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่จำนวน 10 จุด พบว่า 8 ใน 10 พบค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน หรือระดับฝุ่นละออง เกิน 0.33 มิลลิกรัม/ลูกบาก์ศเมตร เช่น พื้นที่ก่อสร้างโครงการระบบรถไฟฟ้า (บางซื่อ ตลิ่งชัน) ถ.ประชาชื่น บริเวณ ถ.พระรามที่ 3 ใกล้โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ เป็นต้น
นายธีระชนกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ได้รับอนุญาตในการก่อสร้างอาคารส่วนใหญ่ยังมิได้ดำเนินการป้องกันกำจัดฝุ่น และจัดให้มีสิ่งป้องกันวัสดุร่วงหล่น หรือสิ่งป้องกันดังกล่าวยังไม่มีคุณภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่นวัสดุร่วงหล่นได้ดี จึงได้สั่งการให้สำนักการโยธาและสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ดำเนินการตรวจสอบผู้ที่ได้รับอนุญาตในการก่อสร้างอาคารดังกล่าวดำเนินการจัดให้มีสิ่งป้องกันกำจัดฝุ่น และป้องกันวัสดุร่วงหล่นโดยใช้วัสดุให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพเพียงพอต่อการกำจัดฝุ่นและป้องกันวัสดุร่วงหล่น และดำเนินการให้เป็นตามกฎกระทรวง และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครว่าด้วยการควบคุมอาคารโดยเคร่งครัด หากพบเห็นให้ว่ากล่าวตักเตือนให้ดำเนินการให้ถูกต้องโดยด่วน ภายในวันที่ 31 มี.ค. 2555 หากไม่ดำเนินการตามที่กำหนดข้างต้น ให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่โดยเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม ตนเองได้สั่งการให้กองควบคุมอาคาร สำนักการโยธากรุงเทพมหานคร ดำเนินการสำรวจและตรวจสอบป้ายโฆษณาที่มีขนาดใหญ่ในพื้นที่ กทม.ทั้งหมด เนื่องจากช่วงนี้เข้าสู่ฤดูร้อนและเกิดลมกระโชกอย่างแรงบ่อยครั้ง ซึ่งอาจจะทำให้ป้าย หรือวัสดุร่วงหล่น ก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย