xs
xsm
sm
md
lg

ห้ามเข้าใช้ “อาคารฟิโก้เพลส” รอตรวจโครงสร้างหลังเพลิงไหม้

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ) เพลิงกำลังลุกไหม้อาคารฟิโก้เพลส ถนนอโศกมนตรี
ผอ.เขตวัฒนา ประกาศห้ามเข้าใช้พื้นที่อาคารฟิโก้เพลส รอสำนักการโยธา-จนท.วิศวกรรมสถาน ตรวจสอบความปลอดภัยโครงสร้าง หลังถูกเพลิงไหม้นาน 3 ชม.รองผู้ว่าฯ กทม.“ธีระชน มโนมัยพิบูลย์” แย้มตัวอาคารเสียหายแค่เล็กน้อย ไม่ต้องรื้อถอน ตำรวจคาดสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร แต่ยังไม่ขอฟันธง รอสอบปากคำพยานฟังรายงานตรวจที่เกิดเหตุจาก พฐ.ก่อน

วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม ผกก.สน.ทองหล่อ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ธนาณุวัฒน์ สิทธิไชย พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.ทองหล่อ เจ้าของคดี เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง ภายหลังอาคารฟิโก้ เพลส ตั้งอยู่เลขที่ 18/8 ถนนอโศกมนตรี แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้นที่ 7 ของอาคาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท โอซองและไอบาล ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถใช้น้ำดับเพลิงได้ทันที ต้องประสานขอรถกระเช้าขนาดสูงจาก กทม.จำนวน 3 คัน เพื่อฉีดน้ำสกัดเพลิงเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้อยู่เป็นระยะตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เนื่องจากเกรงว่าอาจจะปะทุขึ้นมาอีก เพราะภายในอาคารเป็นสำนักงานของบริษัทต่างๆ กว่า 20 บริษัท มีกระดาษและอุปกรณ์สำนักงานจำนวนมาก ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงคลองเตย ยังคงเฝ้าระวังอยู่ในจุดที่เกิดเหตุตลอดทั้งคืน โดยต่อสายยางวางไว้ในตัวอาคารเตรียมพร้อม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาซ้ำอีก เนื่องจากยังคงมีกระดาษและอุปกรณ์สำนักงานอยู่เป็นจำนวนมาก กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 07.30 น.ได้เกิดไอความร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง ที่บริเวณชั้น 9 และชั้น 11 เจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงต้องรีบเข้าไปฉีดน้ำตามฝ้าเพดาน และภายในอาคารชั้นดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟลุกไหม้ซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง

พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ เปิดเผยความคืบหน้าหลังเดินทางมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่สำนักการโยธา กทม.ที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบอาคารสูงเกิน 5 ชั้น จะเข้าไปตรวจสอบความเสียหายภายในอาคารฟิโก้ เพลส อย่างละเอียด ว่า โครงสร้างได้รับความเสียหายมากน้อยแค่ไหน และสามารถใช้งานได้ต่อไปหรือไม่ ขณะเดียวกัน ก็ต้องดูความแข็งแรงมั่นคงของอาคารด้วย ว่า ยังใช้งานได้ต่อหรือไม่ โดยต้องให้ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานการโยธา เป็นผู้ชี้ขาด จากนั้นจะประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป

“หลังจากนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะเรียกเจ้าของอาคารที่เกิดเหตุ และเจ้าของบริษัทผู้เช่าที่อยู่แต่ละชั้น ซึ่งมีอยู่เกือบ 30 บริษัท มาทำการสอบปากคำในฐานะพยานแวดล้อม ว่า มีการเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทใด และมีทรัพย์สินอะไรเสียหายบ้าง โดยทางตำรวจจะยึดหลักฐานของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเป็นหลัก ว่า เกิดเพลิงไหม้จากสาเหตุใด อาจเกิดจากระบบไฟฟ้า หรือที่ตัวบุคคล ถ้าเป็นตัวบุคคลทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอบสวนต่อไปว่าเกิดจากใคร” ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าว

ต่อมาเวลา 11.00 น.นายสัจจะ คนตรง ผอ.เขตวัฒนา ได้นำประกาศสำนักงานเขตวัฒนา เรื่อง อาคารอันอาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยระบุว่า แจ้งความมายัง บริษัท ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 18/8 ถ.อโศกมนตรี (สุขุมวิท 21) แขวงคลองเตย เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เนื่องจากได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ อาคารตึก 12 ชั้น ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น เพื่อใช้เป็นสำนักงาน เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2555 สำนักงานเขตวัฒนา จึงแจ้งมายังท่านในฐานะผู้ครอบครองอาคาร ห้ามเข้า ห้ามใช้อาคารทั้งหลัง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะได้รับการตรวจสอบอาคารด้านความปลอดภัยจากวิศวกรโยธา ผู้เชี่ยวชาญ หรือสถาบันที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ สำนักงานเขตวัฒนา ยังได้ปิดประกาศการห้ามใช้อาคารอีกฉบับหนึ่ง โดยระบุว่า ฝ่าฝืนมีความผิด โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับวันละ 30,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน

ผอ.เขตวัฒนา กล่าวว่า ได้มีการติดประกาศห้ามเข้าห้ามใช้อาคาร เพราะต้องให้ทางสำนักการโยธา และ กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ทำการตรวจสอบให้เสร็จสิ้น โดยเบื้องต้นได้ออกคำสั่งให้เจ้าของอาคาร ห้ามให้บุคคลภายนอกเข้าไปภายในอาคาร สำหรับการซ่อมแซมนั้น จะขึ้นอยู่กับทางเจ้าของอาคารว่าควรจะใช้เวลานานเท่าใด อาคารแห่งนี้สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 โดยใช้ พ.ร.บ.อาคารฉบับเดิม ซึ่งแตกต่างกับอาคารใหม่ที่ใช้ พ.ร.บ.อาคารปี พ.ศ.2535 ซึ่งจะมีความทันสมัยมากกว่า

ด้าน นายธีระทัต คงจันทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลและบริหารงานทั่วไป ได้ปิดป้ายทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ระบุ ให้ผู้ที่เช่าอาคารมาลงชื่อไว้ที่บริเวณด้านหน้าอาคาร พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ 089-9698645 ให้ทำการติดต่อ โดยทาง นายธีระทัต กล่าวว่า อาคารได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ข้อมูลบริษัทต่างๆ ที่มีประมาณ 30 บริษัท ก็หายไป จึงให้ผู้ที่เช่าอาคารมาลงทะเบียน เพื่อจะได้ติดต่อกลับไป โดยในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) เวลาประมาณ 10.00 น.จะมีการประชุมกันที่โรงแรมแกรนด์ มิลเลเนียม ที่อยู่ติดกับอาคาร ฟิโก้ เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน

ต่อมาเมื่อเวลา11.30 น.นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายพินิต เลิศอุดมธนา ผอ.กองควบคุมอาคาร สำนักการโยธา กทม.ได้นำเจ้าหน้าที่สำนักงานการโยธา กทม.พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เข้าไปตรวจสอบความเสียหายภายในอาคารฟิโก้ เพลส

นายธีระชน เปิดเผยว่า จะนำเจ้าหน้าที่สำนักการโยธาฯ เข้าตรวจสอบความเสียหายภายในอาคารที่เกิดเหตุ ว่า ได้รับความเสียหายมากน้อยแค่ไหน เพื่อประเมินว่า ตัวอาคารจะสามารถใช้งานได้ต่อไปหรือไม่ ถ้าไม่เสียหายมากสามารถใช้งานได้ต่อไป ทางเจ้าของอาคารก็อาจจะต้องดัดแปลงตัวอาคาร เพื่อให้สามารถใช้งานได้ต่อไป จากนั้นก็จะให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานขึ้นไปตรวจสอบภายในอาคารอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ต่อไป

หลังจากใช้เวลาการตรวจสอบภายในอาคารที่เกิดเหตุนานประมาณ 1 ชั่วโมง นายธีระชน เปิดอีกเผยว่า จากการตรวจสอบภายในอาคารที่เกิดเหตุในเบื้องต้น พบว่า ตัวโครงสร้างของอาคารไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ยังไม่สามารถใช้อาคารได้ เนื่องจากมีน้ำจากการดับเพลิงเจิ่งนองอยู่ทั่วอาคาร และมีเขม่าควันตั้งแต่ชั้นล่างจนถึงชั้นบนสุด ส่วนบริเวณชั้นที่ 7 ซึ่งเป็นชั้นต้นเพลิงนั้น เสียหายไม่มาก พบว่า มีเขม่าควันเกิดขึ้นจากบริเวณโต๊ะทำงาน ซึ่งมีคอมพิวเตอร์อยู่ จากนั้นเพลิงน่าจะลุกลามไปยังชั้น 8-11 อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีฟิล์มติดอยู่ที่กระจก จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ส่วนชั้นที่ 12 นั้นเสียหายเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) ทางเจ้าหน้าที่สำนักการโยธาฯ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่จากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย จะเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ ตัวอาคารที่เกิดเหตุนั้นขออนุญาตตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 ซึ่งขณะนั้นยังใช้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฉบับเก่าอยู่ เบื้องต้นให้ทางสำนักงานการโยธาฯ ประสานงานขอความร่วมมือจากเจ้าของอาคารเก่าในพื้นที่ กทม.ที่สร้างก่อนปี พ.ศ.2535 ให้มีการติดตั้งสปริงเกอร์ ตั้งแต่อาคาร 5 ชั้นขึ้นไป เนื่องจากอาคารใหม่ที่มีการติดตั้งสปริงเกอร์นั้น เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้แล้วก็มักจะควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามข้ามชั้นได้ โดยหากเจ้าของอาคารรายใดต้องการติดตั้ง ทาง กทม.ก็จะอำนวยความสะดวกให้ทันที และหลังจากนี้ ทาง กทม.จะทำการสำรวจอาคารเก่าที่สร้างก่อนปี พ.ศ.2535 ทั้งหมดว่ามีอยู่กี่อาคาร และมีการติดตั้งสปริงเกอร์หรือไม่ ก่อนจะทำการพิจารณาเสนอให้ทางสภากรุงเทพมหานคร เป็นผู้ร่างกฎหมายให้อาคารทั้งหมดดำเนินการตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารปี พ.ศ.2535 ทุกอาคาร เนื่องจากมีความปลอดภัยสูงกว่า พ.ร.บ.อาคารฉบับเก่า อย่างไรก็ตาม สำหรับอาคารฟิโก้ เพลส แห่งนี้ จะไม่มีการรื้อถอน แต่จะใช้วิธีดัดแปลงปรับปรุงต่อไป

ต่อมาเวลาประมาณ 12.00 น.ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวัฒนา ได้นำพนักงานจำนวน 20 คน มาทำความสะอาดเก็บกวาดขยะ ทั้งเศษกระดาษ และเศษกระจก ที่แตกร่วงตกลงมาจากอาคารฟิโก้ เพลส อยู่ตามพื้นรอบอาคาร รวมทั้งภายในบ้านเลขที่ 20 และ 20/1 ซึ่งอยู่ติดกับอาคารที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งฉีดน้ำล้างทำความสะอาดตัวบ้านให้ด้วย

จากนั้นเมื่อเวลา 15.45 น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ. ) ได้เดินทางมาตรวจสอบอาคารฟิโก้ เพลสเพื่อเก็บรวมรวบหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว โดยใช้เวลาตรวจสอบกว่า 2 ชม.

จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบอาคารดังกล่าวตั้งแต่ชั้น 7 – 12 ที่เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งตรวจสอบพบว่าความเสียหายมากที่สุดอยู่ที่ชั้น 9 ของอาคารเพลิงได้เผาไหม้จนหมด นอกจากนี้ในวันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) เวลา 09.00น.-10.00 น. เจ้าหน้าที่จะเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)ได้เก็บรวมรวมหลักฐานทั้งหมดไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น