ระทึก! ไฟไหม้อาคารฟิโก้เพลส-ปิดการจราจรแยกอโศกแล้ว!

เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารฟิโก้เพลส ถนนอโศก โดยเพลิงลุกลามหนัก จากชั้น 7 ขึ้นชั้น 8-9 ตร.ปิดการจราจรตั้งแต่แยกอโศกแล้ว ผ่านไปกว่าชั่วโมง เจ้าหน้าที่เริ่มคุมเพลิงได้แล้ว โดยไม่พบเปลวเพลิง แต่ยังมีกลุ่มควันขาวจำนวนมาก


วันนี้ (3 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.40 น. ร.ต.อ.ธนาณุวัฒน์ สิทธไชย พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารฟิโก้เพลส ตั้งอยู่เลขที่ 18/8 ถนนอโศกมนตรี แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งประสานรถน้ำดับเพลิง จำนวน 30 คัน ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.กิตติวัฒน์ ภูมธเนศ สว.สส.สน.ทองหล่อ นายสัจจะ คนตรง ผอ.เขตวัฒนา เจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสำนักงานแบ่งให้เช่าสูง 13 ชั้น เจ้าหน้าที่พบต้นเพลิงกำลังลุกไหม้ที่บริเวณชั้นที่ 7 ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทโอซอง อินเตอร์เนชั่นแนล เอสเอ จำกัด และบริษัทโอบาล และลุกลามไปยังชั้นบนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภายในเป็นที่ตั้งของบริษัทหลายบริษัท มีเอกสารอยู่เป็นจำนวนมากจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประกอบกับมีลมพัดแรง ขณะเดียวกัน ตัวอาคารยังเป็นกระจก เมื่อถูกเพลิงไหม้จึงทำให้แตกและร่วงหล่นลงมาชั้นล่างเป็นระยะ และต้นเพลิงอยู่บนชั้น 7 ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปดับเพลิงด้านในได้ ทำให้ต้องประสานรถกระเช้าจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 3 คัน ใช้สายยางเข้าระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงจากทางด้านนอกของตัวอาคารไปก่อนเท่านั้น

ทั้งนี้ เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ทำให้การจราจรบนถนนอโศกมนตรีติดขัดอย่างหนัก รถที่เข้ามาในถนนดังกล่าวแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ต้องให้เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 21 แยก 1 ทั้งหมด ก่อนจะทำการปิดการจราจรถนนอโศกมนตรีทั้งเส้น ทั้งจากทางเข้าฝั่งแยกอโศก-เพชรบุรี และแยกอโศก-สุขุมวิท เพื่อให้รถดับเพลิงสามารถวิ่งเข้ามาปฏิบัติงานด้านในได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาประเมินสถานการณ์เบื้องต้นกว่า 1 ชั่วโมง จึงตัดสินใจส่งเจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงภายในอาคารขึ้นกระเช้าขนาดใหญ่ลากสายส่งเข้าไปฉีดน้ำยังต้นเพลิงตามชั้นต่างๆ ใช้เวลาตั้งแต่รับแจ้งเหตุและควบคุมเพลิงจนสงบนานกว่า 3 ชั่วโมง

จากการสอบสวนนายสุนทร จำเริญ อายุ 44 ปี รปภ.ของอาคารดังกล่าวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 14.30 น.ขณะที่ตนกำลังปฏบัติหน้าที่อยู่ที่ชั้นล่าง ก็ได้ยินเสียงพนักงานที่ทำงานอยู่ด้านบนตะโกนร้องขอควมช่วยเหลือเนื่องจาก เกิดเพลิงไหม้ที่ชั้น 7 ซึ่งเป็นวันหยุด ทำให้ไม่มีใครเดินทางมาทำงาน ตนจะรีบขึ้นไปดูก็พบว่าเกิดเพลิงไหม้ที่ชั้นดังกล่าวแล้ว จึงรีบขึ้นไปบอกพนักงานที่ทำงานทุกชั้นจนถึงชั้น 13 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 50 คน ลงมาชั้นล่างทันที

ขณะที่ พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่า สาเหตุของเพลิงไหม้นั้นเกิดเหตุจากอะไร เนื่องจากตัวรปภ.ของอาคารนั้น ช่วงเกิดเหตุกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ชั้นล่างไม่เห็นเหตุการณ์ ทราบแต่ว่าบริษัทที่อยู่บนชั้นต้นเพลิงนั้นเป็นวันหยุดไม่มีใครมาทำงาน ซึ่งหลังจากเพลิงสงบจะประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้นั้นเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่ แต่ถ้าเกิดจากตัวบุคคลก็ต้องตรวจสอบว่าใครเป็นคนทำให้เกิดเพลิงไหม้ ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายวีระศักดิ์ กุละจันทร์เพ็ง ช่างประจำตัวอาคารในเบื้องต้นให้การว่า ได้รับคำสั่งให้ไปเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าที่ชั้น 7 และก็พบเพลิงไหม้เกิดขึ้นอีกจุดหนึ่ง หลังจากนี้จะต้องเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไปสอบปากคำด้วย นอกจากนี้ก็ต้องรอดูทาง กทม.เข้าไปตรวจโครงสร้างของอาคารว่า ยังสามารถใช้การได้อยู่หรือไม่ ถ้า กทม.ระบุว่าใช้การไม่ได้ก็จะต้องกั้นไว้เป็นเขตหวงห้าม

ส่วน นายสัจจะ คนตรง ผอ.เขตวัฒนา กล่าวว่า หลังจากเพลิงสงบจะประสานให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวัฒนา และสำนักงานโยธา รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปตรวจสอบโครงสร้างภายในของอาคาร ก่อนจะประเมินว่าจะต้องถึงขั้นประกาศเป็นเขตห้ามเข้าหรือไม่ เนื่องจากอาคารที่เกิดเหตุนั้นเป็นอาคารเก่าสร้างมาตั้งแต่ปี 2522 ก่อนที่จะมี พ.ร.บ.ควบคุมอาคารบังคับใช้ ซึ่งยังต้องดูโครงสร้างว่าจะมีจุดบกพร่องตรงไหนที่อาจทำให้เกิดอันตรายจากการทรุดตัวลงมาหรือไม่ เบื้องต้นจากการรายงานไม่มีผู้ติดอยู่ภายใน อย่างไรก็ตาม จากากรตรวจสอบเบื้องต้นนั้นพบว่า ในอาคารมีระบบสปริงเกอร์ดับไฟ มีทางบันไดหนีไฟ แต่คาดว่าเพลิงคงรุนแรงมากจนสปริงเกอร์เอาไม่อยู่ สำหรับอาคารนี้เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า มีกว่า 20 บริษัทอยู่ในนี้ ก็นับว่ายังดีที่เป็นวันหยุดไม่มีคนมาทำงานไม่เช่นนั้นอาจยุ่งยากกว่านี้