ตรัง - ไฟไหม้ห้างชวนดี กลางเมืองตรัง ย่างสดเฒ่าวัย 74 ปีไหม้เป็นตอตะโก ส่วนผู้หญิงและเด็กเล็กรวม 5 คนหนีรอดมาได้หวุดหวิด คาดสาเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจร
วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 00.10 น. ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้และมีคนติดอยู่ในห้างชวนดี เลขที่ 92 ถ.หลังตลาด ต.ทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานไปยังรถดับเพลิงเทศบาลนครตรัง
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ตึกแถว 4 ชั้น 5 คูหา โดยบ้านที่เกิดเหตุอยู่หลังที่ 5 มีคนติดอยู่ในบ้านเป็นเด็กเล็ก หญิงชรา และผู้หญิง รวม 5 คน ต่างหนีตายออกมาข้างนอกตัวบ้าน โดยปลดประตูเหล็กดัดออกมายืนรออยู่ที่ริมระเบียงชั้น 2 เพื่อรอให้คนมาช่วยเหลือ ทั้งนี้ เพื่อนบ้านข้างเคียงช่วยกันโทรศัพท์แจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้นำอุปกรณ์มาช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างบน ผ่านไป 5 นาทีเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำรถตู้มาจอด เพื่อให้ทั้งหมดกระโดดลงมา แต่เนื่องจากมีความสูงถึง 5 เมตร ไม่สามารถลงมาได้
โดยระหว่างนี้ ทั้งเจ้าหน้าที่และเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างล่างต่างช่วยกันปลอบใจผู้ที่ติดอยู่ข้างบนไม่ให้ตกใจกลัว ท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนกและกลุ่มควันดำหนาทึบที่พวยพุ่งออกมาริมระเบียง ชั้น 2
กระทั่งผ่านไปอีก 5 นาที เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครตรัง ได้มาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งนำบันไดมาให้ทั้งหมดปีนลงมาได้อย่างปลอดภัย และในขณะเดียวกันยังมีชายชราซึ่งขาเจ็บ เดินไม่ค่อยถนัด ติดอยู่บนชั้น 3 อีก 1 คน ทราบชื่อคือ นายหยงบู เก้าเอี้ยน อายุ 74 ปี เจ้าหน้าที่จึงพยายามปีนขึ้นไปเพื่อช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่สามารถปีนขึ้นไปได้ เพราะแต่ละชั้นติดเหล็กดัดหมด ส่วนเจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างล่าง ได้ใช้เหล็กตัดถ่างประตูเหล็กที่ใส่กุญแจด้านล่าง ปรากฏว่า ระหว่างนั้นได้เกิดประกายไฟประทุ พร้อมกับมีเปลวเพลิงโหมลุกลามไหม้สิ่งของที่ทางห้างนำมาจำหน่าย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัสดุไวไฟ อาทิ รองเท้ายาง เสื้อกันฝน ประทัด พลุ และวัสดุพลาสติกอื่นๆ ที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลามอย่างรวดเร็ว
ต่อมา นายชาลี กางอิ่ม นายกเทศมนตรีนครตรัง ได้รุดมาที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งระดมรถดับเพลิงจากเทศบาลนครตรัง อ.กันตัง อ.ย่านตาขาว และใกล้เคียง กว่า 10 คัน เพื่อนำรถน้ำมาฉีดสกัดไม่ให้ไฟลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง
ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แค่บางส่วน แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และไฟยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง จึงระดมฉีดน้ำกันอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันได้ประสานขอรถกระเช้าไฟฟ้า จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ตรัง เพื่อขึ้นไปช่วยเหลือ นายหยงบู
อย่างไรก็ตาม เมื่อขึ้นไปแล้วเจ้าหน้าที่พบว่าติดเหล็กดัดไม่สามารถเข้าไปได้ จึงต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างนานกว่า 5 นาที หลังจากนั้น ได้ใช้ค้อนปอนด์ทุบทำลายกระจก ฝาผนัง และประตู โดยใช้เวลานานกว่า 30 นาที เพื่อเข้าไปช่วยเหลือนายหยงบู และพบว่าถูกไฟคลอกจนไหม้เกรียมเป็นตอตะโกอยู่บนเตียงนอนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงนำร่างห่อผ้าขาวใส่รถกระเช้าไฟฟ้าลงไปขันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลตรัง กระทั่งผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในความสงบไว้ได้ ท่ามกลางไทยมุงที่แห่กันมามุงดูเหตุการณ์กว่า 200 คน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวอยู่อาศัยรวมกัน 6 คน โดยก่อนเกิดเหตุทั้งหมดได้ปิดไฟเข้านอนตั้งแต่เวลา 21.00 น. กระทั่งต่อมาลูกสาวของนายหยงบูได้ตื่นขึ้นมาเพื่อเข้าห้องน้ำ และเมื่อเปิดประตูห้องออกมา ก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้ พร้อมกับมีไอความร้อนและเห็นประกายไฟ จึงได้ตะโกนร้องเรียกให้แม่และคนอื่นที่นอนอยู่บนชั้น 2 หนี พร้อมร้องเรียกนายหยงบู ที่หนีเสียงรบกวนของหลานคนเล็กขึ้นไปนอนบนชั้น 3 แต่ก็ไม่มีเสียงขานรับจากข้างใน จึงเข้าใจว่าคงหลับสนิท
ทุกคนจึงตัดสินหนีเอาตัวรอด โดยเปิดเหล็กดัดออกมายืนรอขอความช่วยเหลือที่ริมระเบียงชั้น 2 กระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือจนปลอดภัย ส่วนนายหยงบู ที่ติดอยู่ชั้นบนคงจะสำลักควันไฟ เพราะขาดอากาศหายใจ และถูกไฟครอกเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้น่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตาม จะเร่งประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อจะได้ทราบสาเหตุที่แท้จริง ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะต้องรอการตรวจสอบในภายหลัง
