ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง คดีที่พานทองแท้ ฟ้องคตส. ปฏิบะติหน้าที่มิชอบ กลั่นแกล้ง อายัดเงินขายฝากหุ้นชินคอร์ป โดยศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว มีความเห็นเหมือนศาลชั้นต้นที่ระบุว่า ฟ้องโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายืน
วันนี้ (11 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 711 ศาลออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำ อ.3173/2550 ที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายสมบูรณ์ คุปติมนัส ผู้รับมอบอำนาจ เป็นโจทก์ฟ้อง นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) นายแก้วสรร อติโพธิ นายสัก กอแสงเรือง นายอุดม เฟื่องฟุ้ง คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา นายจิรนิติ หะวานนท์ นายบรรเจิด สิงคะเนติ นายกล้านรงค์ จันทิก นายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ นายอำนวย ธันธรา และ นางเสาวนีย์ อัศวโรจน์ คณะกรรมการ คตส. เป็นจำเลยที่ 1-11 ในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายเพื่อให้เกิดความเสียหาย
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เข้ายึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น จากนั้นมีการจัดตั้ง คตส.ขึ้น เพื่อตรวจสอบการใช้อำนาจโดยมิชอบ แสวงหาประโยชน์เพื่อตนเองหรือผู้อื่น ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศ จำเลยทั้งสิบเอ็ดได้ร่วมกันกลั่นแกล้งโจทก์ในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบมีคำสั่งอายัดบัญชีเงินฝากจากการขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในส่วนของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีความเห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่มีมูลที่จะรับฟ้องไว้พิจารณา พิพากษายกฟ้อง โจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษาไว้นั้นชอบแล้ว ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น