“สุริยะใส” ซัดตำรวจต้องเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัยชัดเจนในรัศมีวงจรรอบจุดเกิดเหตุปาระเบิดชุมนุมพันธมิตรฯ ย้ำไม่ยอมให้ใครบาดเจ็บตายฟรีซ้ำ ลั่นพันธมิตรฯ ไม่กลัวอันตรายที่เกิดขึ้น แต่กลับฮึกเหิมสู้ต่อไป เชื่อไม่ใช่ครั้งสุดท้ายในเหตุรุนแรง ชี้ตำรวจเร่งสร้างศรัทธาตามจับคนร้ายมาลงโทษ ไม่ยืนยันคนมีสีอยู่เบื้องหลังหรือไม่
คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายสุริยะใส กตะศิลา ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (16 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่คนร้ายปาระเบิดเอ็ม 79 ใส่หลังเวทีชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อคืนวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มพันธมิตรฯ จำนวนหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจด้วย
นายสุริยะใสเปิดเผยว่า ในวันนี้ตนและคณะได้เดินทางมาเยี่ยมอาการของผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดบริเวณหลังเวทีพันธมิตรฯ ซึ่งตนรู้สึกเป็นห่วงอาการของทุกคน โดยค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลกลุ่มพันธมิตรฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
สำหรับเรื่องการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีนั้นตนอยากฝากถึง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ให้เรื่องนี้เป็นบทพิสูจน์ หากจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีไม่ได้ เราก็คงจะต้องมีมาตรการป้องกันตัวเอง และจะไม่ยอมให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่ดังกล่าวแม้จะไม่มีการประกาศให้เป็นพื้นที่ควบคุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจควรที่จะมีมาตรการเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม มองว่าพื้นที่ดังกล่าวถ้าจะประกาศ หรือไม่ประกาศควบคุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คนร้ายก็สามารถยิงได้ หากไม่มีการดูแลเรื่องความปลอดภัย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่เองชี้ชัดแล้วว่าระเบิดถูกยิงมาจากฝั่งเรียบคลองหลอด ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีสถานที่ราชการสำคัญหลายแห่ง ทั้งกระทรวงกลาโหม ศาลเด็กเยาวชนและครอบครัวกลาง เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการตบหน้าตำรวจอย่างแรง
“ผมคงไม่ขีดเส้นตายเรื่องเวลาการทำงานของตำรวจในการติดตามตัวคนร้าย ซึ่งการกระทำครั้งนี้จะเป็นการกระทำของกลุ่มคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ตนไม่ขอระบุ อยู่ที่ตำรวจว่าจะสามารถสืบสวนได้แค่ไหน แต่สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่ากลุ่มคนมีสีบางกลุ่มก็มีศักยภาพที่จะทำเช่นนี้ได้ แต่จะเป็นเขาหรือไม่ตนไม่ทราบ ปกติทุกครั้งที่มีการชุมนุมตำรวจจะต้องมีการคาดเดาเรื่องมือที่ 3 ที่จะเข้ามาก่อเหตุต่างๆ แต่ครั้งนี้คนร้ายยิงในระยะที่ใกล้กับพื้นที่ชุมนุมมาก ผมจะไม่ยอมให้มีใครบาดเจ็บหรือตายฟรีอีกแล้ว การที่ประชาชนพากันออกมาชุมนุม เราจะต้องมีหลักประกันเรื่องความปลอดภัยให้กับเขา ไม่ใช่พาเขามาตาย” นายสุริยะใสกล่าว
นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่สามารถทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ เกิดความหวาดกลัว มีแต่จะฮึกเหิม พวกเราเคยเจอเหตุการณ์ต่างๆ มามากกว่านี้ หากมีการกำหนดการชุมนุมขึ้นมาอีกกลุ่มพันธมิตรฯ ก็จะรวมตัวกันเพื่อชุมนุมไปเรื่อยๆ โดยไม่เกรงกลัวต่ออันตรายต่างๆ ตนอยากฝากย้ำถึง สตช.และ น.1 เรื่องการสร้างความศรัทธาของตำรวจในการจับกุมตัวคนร้ายให้เร็วที่สุด เพราะเชื่อว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายจะต้องมีอีกแน่นอน ตนหวังว่าการออกตรวจจุดเกิดเหตุหาวิถีการยิงและเก็บหลักฐานอื่นๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจครั้งนี้คงไม่ใช่การสร้างภาพ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นคงแย่ ตนหวังว่าจะสามารถจับคนร้ายตัวจริงมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และที่สำคัญอยากฝากถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพว่าอย่าเพิ่งออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน
สำหรับรายชื่อของผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกลาง มีทั้งหมด 3 ราย คือ
1.นายอรรรณพ ขนิษฐาติสกุล อายุ 71 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้หลังจากผ่าตัดแล้วยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู
2.นางสมร ธีระภพ อายุ 39 ปี
3.นายชัยวัฒน์ หวังจงมีชัยสกุล อายุ 53 ปี