ตร.ปล่อยม็อบเถื่อนนัดชุมนุม 19 ก.ย.นี้ ระบุจะดูแลไม่ให้เกิดการปะทะเหมือนที่ผ่านมา แต่ไม่วายรีบเสนอหน้าสนองตอบรัฐบาล “น้องเขยแม้ว” ส่งชุดเฉพาะกิจตามติด 9 แกนนำพันธมิตรฯ ยันออกนอกทำเนียบเมื่อไหร่จับทันที
วันนี้ (15 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. ในฐานะรองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศนัดรวมพลใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย. ภายหลังการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองโดยการชุมนุมนั้นสามารถกระทำได้ถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม หากมีการกระทบกระทั่งก็ถือเป็นปัญหาบ้านเมือง จึงจำเป็นที่จะต้องพูดคุยเพื่ออย่าให้เกิดการกระทบกระทั่ง โดยนำบทเรียนที่เคยเกิดขึ้นมาพิจารณา
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ทางแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ก็ต้องคำนึงถึงชีวิตคนที่มาร่วมชุมนุมด้วย การที่จะมาดำเนินกิจกรรมทางการเมืองแล้วไม่รับประกันความรุนแรง อยากฝากว่าผู้ที่มาร่วมการชุมนุมนั้นเขาไม่ได้มาเพื่อได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายถึงชีวิต เพราะเขายังมีครอบครัว ลูกหลานที่ต้องดูแล จึงอยากฝากให้คำนึงถึงด้วย ต้องพยายามพูดคุยว่าเป้าหมายทางการเมืองที่ต้องการนั้นคืออะไร
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวถึงเรื่องของการรักษาความสงบเรียบร้อยของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ขอยืนยันว่าทางตำรวจจะดูแลความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด ไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างเช่นที่ผ่านมาได้ สำหรับเรื่องการใช้กำลังในการเข้าควบคุมฝูงชนนั้น เราก็ยืนยันเป็นร้อยๆ วันว่าไม่ใช้กำลังในการเข้าทำร้ายประชาชน ซึ่งเราก็พิสูจน์ให้เห็นตลอดมา เพราะตำรวจไม่เคยทอดทิ้งประชาชน ตำรวจต้องอำนวยทั้งความสะดวก ดูแลความปลอดภัย อีกทั้งยังเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
ด้านความเห็นกรณีประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็พิสูจน์แล้วว่า แก้ปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ อีกทั้งยังต้องสูญเสียชีวิตพี่น้องประชาชนไปอีก 1 คน จากเหตุการณ์ที่เกิดการปะทะกันของทั้ง 2 ฝ่าย เพราะฉะนั้น การสูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าว เราในฐานะตำรวจมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยในวันที่ 17 ก.ย.ที่จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการคัดเลือกผู้มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่รัฐสภานั้น พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ทางตำรวจก็จะมีการวางกำลังเหมือนในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้มีความเห็นแตกแยกทั้ง 2 กลุ่มต้องแยกกัน ซึ่งภายนอกรัฐสภานั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะใช้แต่โล่ ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ส่วนภายในรัฐสภานั้นจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน พร้อมอุปกรณ์เต็มอัตราที่ได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใดฝ่าฝืนเข้าไปสร้างความวุ่นวายได้ ซึ่งหากฝ่าฝืนเข้าไปก็ต้องทำการจับกุมลงโทษตามกฎหมาย
พล.ต.ต.สุรพล ยังกล่าวถึงการดำเนินการจับกุม 9 แกนนำพันธมิตรฯ ว่า บุคคลที่ต้องจับตามประกาศสืบจับ ถ้ามีโอกาสจับได้ต้องจับแน่นอน คดีนี้มีอายุความ 20 ปี ถ้าหากเข้าไปจับแล้วเกิดความสูญเสีย เราก็รอได้ โดยขณะนี้มีการตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาติดตามการเคลื่อนไหวของ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกออกหมายจับตลอดเวลา หากออกมานอกทำเนียบเมื่อไหร่ และไม่เกิดการกระทบกระทั่งจะเข้าทำการจับกุมทันที โดยขอยืนยันว่าทางตำรวจไม่ได้ละเลยการบังคับใช้กฎหมายอย่างที่หลายฝ่ายจับตามองแน่นอน
