“สุเทพ” เล็งทบทวนมาตรการดูแลความปลอดภัยสภาฯ วันนี้ ยันทำไปเพื่อให้ ส.ส.ทำงานได้ รับกังวลใจคนร้ายลอบบึ้มรายวัน หวังก่อวินาศกรรมป่วนรัฐบาล เมินงัด พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมสถานการณ์ เย้ย “จิ๋ว” ไร้น้ำยากล่อมพรรคร่วมฯ เปลี่ยนขั้ว
วันนี้ (25 มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยตามมติของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) ในการปิดเส้นทางโดยรอบรัฐสภาว่า เป็นการป้องกันเหตุร้ายอย่าให้เกิดขึ้นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยวัตถุประสงค์ของ ศอ.รส.ต้องการดูแลให้สภา และส.ส.ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ สามารถเข้า-ออกอาคารรัฐสภาได้ ป้องกันไม่ให้มีการปิดล้อมรัฐสภา ซึ่งหากเกิดการปิดล้อมต้องนำส.ส.เข้าประชุม มีการเปิดทาง ซึ่งอาจจะมีการกระทบกระทั่งกัน อาจจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนได้รับบาดเจ็บได้
“หาก ส.ส.จะเข้าประชุมก็สามารถเดินทางเข้ามาได้ แต่เราป้องกันเฉพาะคนที่มีพฤติการณ์ไม่ให้เกิดความสงบได้ อย่างไรก็ตามจะพิจารณาทบทวนตามสถานการณ์ เมื่อเห็นว่าสถานการณ์คลี่คลายลงจะดำเนินการต่อไป”
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากยังมีม็อบอยู่จะยังตรึงกำลังทหาร ตำรวจดูแลภาต่อหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ดูสถานการณ์การณ์ในวันนี้แล้วจะพิจารณาสั่งการ สื่อมวลชนทั้งหลายก็ได้ยินได้ฟังมาตลอดแล้วว่ากลุ่มคนเสื้อแดงประกาศชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีเดินทางไปที่ไหนเขาจะตามไปรังควาน และกระทำการอย่างนั้นจริงๆ หลายครั้งหลายหน และหลายวัน ฉะนั้น สิ่งที่ตนทำเป็นมาตรการป้องกัน เมื่อเราใช้มาตรการนี้แล้วได้ผล เราก็มาทบทวนใหม่ได้ว่าจะแก้ไขอย่างไรให้ผ่อนคลายลง
ส่วนการตั้งด่าน 7 ชั้นล้อมรอบรัฐสภาจะทำเฉพาะวันที่มีการประชุมสภา หรือจะทำตลอดไป นายสุเทพกล่าวว่า เราทำเฉพาะที่จะดูแลให้สภาทำงานได้ ไม่ได้ทำตลอดไปโดยจะลดความเดือดร้อนความไม่สะดวกของประชาชนให้มากที่สุด เมื่อถามว่าจะสามารถเปิดถนนบริเวณรอบรัฐสภาได้เมื่อไหร่ “เดี๋ยววันนี้ผมจะทบทวนดูใหม่”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีความจำเป็นต้องลดระดับความปลอดภัยลงหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้เกิดเหตุระเบิดขึ้นรายวันแล้ว นายสุเทพกล่าวว่า อย่างที่เรียนว่ามีความกังวลใจ เพราะการข่าวของเราได้บอกชัดว่าคนพวกนี้ตั้งใจที่จะก่อวินาศกรรม ก่อความไม่สงบด้วยวิธีการต่างๆ ตนจึงได้ตรึงกำลังกระจายออกไปดูแลกรุงเทพฯ แต่เขาเลือกไปปฏิบัติการในพื้นที่ที่เราไปไม่ถึง เช่นจังหวัดนนทบุรี หรือพื้นที่ฝั่งธนบุรีบางแห่ง ดังนั้นต้องปรับปรุงแผนการทำงานต่อไป จะพยายามดูแลลดโอกาสของคนที่จะก่อเหตุให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยตนคงต้องเพิ่มมาตรการให้มากขึ้น เมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค. พยายามสั่งการให้ทุกหน่วยตื่นตัวระมัดระวัง แต่คงเห็นว่าจุดที่เกิดเหตุ มันไกลเราจริงๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าเป้าหมายผู้ก่อเหตุมุ่งพื้นที่ปริมณฑล นายสุเทพกล่าวว่า เราตอบแทนเขาไม่ได้ แต่รู้ว่าเป้าหมายของเขาคือพยายามก่อวินาศกรรม เพื่อทำให้เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ตนยืนยันว่ายังมั่นใจว่าสถานการณ์นี้ยังเอาอยู่ ยังรักษาสถานการณ์ไว้ได้ให้มีความเสียหายน้อยที่สุด เมื่อถามว่า เหตุจากระเบิดรายวันจะเป็นตัวเร่งให้รัฐบาลยกระดับโดยนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาใช้ในการควบคุมการชุมนุมในวันที่ 27 มี.ค.นี้หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังไม่ถึงขนาดนั้น แต่ตนต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมทีมเร่งรัด สืบสวนและสอบสวน หาคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ บางคดีก็ได้ตัว เห็นชัดเจนแล้ว จับกุมมาได้บ้างแล้ว และกำลังจะจับกุมอยู่ ส่วนที่เหลือต้องติดตามต่อไป ประชาชนที่รู้เห็นเบาะแสก็กรุณาเป็นหูเป็นตาให้ข้อมูลด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินการชุมนุมในวันที่ 27 มี.ค.อย่างไร ท่ามกลางเสียงระเบิดขนาดนี้ นายสุเทพกล่าวว่า ยังประเมินไม่ได้ ต้องติดตามสถานการณ์ไปก่อน ส่วนจะมีประชาชนเดินทางมาร่วมชุมนุมเข้าร่วมมากน้อยแค่ไหนหากเทียบการชุมนุม 2 ครั้งที่ผ่านมาเราคงประเมินอย่างนั้นไม่ได้ แต่ก็วางมาตรการรับมือเอาไว้เป็นอย่างดี
สำหรับความคืบหน้าในการลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าไปยังกระทรวงสาธารณสุขนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าว่าใครเป็นคนยิง ส่วนกรณีที่คนร้ายลอบยิงระเบิด RPG ที่กระทรวงกลาโหมจะมีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองหรือไม่นั้น เมื่อได้ตัวมาก็จะเห็นชัดเจนว่าคนเหล่านี้เชื่อมโยงกันอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป้าหมายการลอบยิงระเบิดนอกเหนือจากศาลากลางจังหวัดแล้ว ยังมีจุดไหน จังหวัดใดเกิดขึ้นอีก นายสุเทพกล่าวว่า ตนระวังทุกจังหวัด ต่อข้อถามที่ว่า มีการตั้งข้อสังเกตุการลอบยิงระเบิด M-79 ที่กระทรวงสาธารณสุข ต้องการกลบข่าวเรื่องที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณจัดซื้อเฮลิคอร์ปเตอร์รุ่นแบล็กฮอกส์ ของกระทรวงกลาโหมจำนวน 3 ลำนั้น นายสุเทพกล่าวว่า อย่าไปคิดมาก ตนไม่ใช่เป็นคนมีชั้นเชิงอะไรมากมาย ทำอะไรตรงไปตรงมาอย่างที่เห็น
ส่วนกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยปิดถนนทางเข้าอาคารรัฐสภา รัฐบาลจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไรหรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่า มี ส.ส. เขาดำเนินการกันอยู่แล้ว เรียนว่าเขาไม่มีสิทธิไปปิดถนน ไม่มีกฎหมายไหนอนุญาตให้ทำอย่างนั้น ส่วนที่ฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อยดำเนินการอยู่นั้นมี พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในฯ อนุญาตเอาไว้ เราทำเพื่อรักษาความมั่นคงและความสงบเอาไว้ ส่วนที่เขาทำมันทำด้วยอารมณ์ ตนจะดูแก้ไขไปตามสถานการณ์โดยหลักการของตนเองคือ อะไรที่อดทนได้ ยืดหยุ่นได้ก็พยายามไม่ให้บรรยากาศนำไปสู่ความรุนแรง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไว้อย่างไร เนื่องจากล่าสุด พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยยังพยายามเดินสายอยู่ นายสุเทพกล่าวว่า “ไม่เป็นผลหรอกครับ พรรคร่วมรัฐบาลก็ยังเหนียวแน่นกันดี ช่วยกันทำงานแก้ปัญหา ทุกคนทราบดีว่าเรามีหน้าที่ดูแลแก้ปัญหาบ้านเมือง ช่วยกันรักษาแผ่นดินเอาไว้” เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาหรือไม่ เพราะได้ตอบรับนัด พล.อ.ชวลิตด้วยเหมือนกัน นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร ตนเชื่อนายบรรหารอยู่แล้ว