xs
xsm
sm
md
lg

หลักฐานอ่อน! ยกฟ้อง “ศิโรตม์” เลี่ยงเก็บภาษี “หญิงอ้อ”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง “ศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์” อดีตอธิบดีสรรพากร กับพวก 5 คน คดีละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่เก็บภาษี “พจมาน” โอนหุ้นชินคอร์ป มูลค่า 738 ล้านให้ “บรรณพจน์” เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่

วันนี้ (26 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีดำหมายเลขที่ อ.2953/2550 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อายุ 59 ปี อดีตอธิบดีกรมสรรพากร นายวิชัย จึงรักเกียรติ อายุ 58 ปี อดีต ผอ.สำนักงานกฎหมาย กรมสรรพากร น.ส.สุจินดา แสงชมพู อายุ 57 ปี อดีตนิติกร 9 ชช. น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อายุ 49 ปี อดีตนิติกร 8 ว. และ น.ส.กุลฤดี แสงสายัณห์ อายุ 44 ปี อดีตนิติกร 7 ว. เป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่เรียกเก็บ หรือตรวจสอบภาษีอากร ร่วมกันละเว้นไม่เรียกเก็บภาษีอากรฯ และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลอาญา 154, 157 กรณีงดเว้นการคำนวณภาษีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ภริยา ในการโอนหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 4.5 ล้านหุ้น มูลค่า 738 ล้านบาท ให้กับนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายต่างมารดาของคุณหญิงพจมาน และกลุ่มคนรับใช้ ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญามีคำพิพากษาให้ยกฟ้องคดีที่อัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอว่าจำเลยทั้ง 5 คน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่เห็นปฏิบัติตามหน้าที่โดยชอบ โดยได้ใช้ความรอบคอบเพียงพอแล้ว ซึ่งจำเลยทั้ง 5 ไม่ได้มีหน้าที่เรียกเก็บภาษีโดยตรง แต่เป็นปฏิบัติตามหน้าที่พิจารณาความเห็นข้อกฎหมายเท่านั้น

ทั้งนี้ สำหรับเหตุผลที่ศาลยกฟ้องนั้น เห็นว่าไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่าจำเลยมีเจตนาช่วยเหลือคุณหญิงพจมานและนายบรรณพจน์ในการหลีกเลี่ยงภาษี แต่เป็นการใช้อำนาจในการพิจารณาข้อกฎหมายที่มีการเสนอขึ้นมาตามลำดับจากสำนักกฎหมาย นอกจากนั้น จำเลยยังไม่มีอำนาจในการเก็บภาษีดังกล่าว แม้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะชี้มูลว่าจำเลยมีความทั้งวินัยและอาญาก็เป็นดุลพินิจของ ป.ป.ช. ศาลไม่จำเป็นต้องพิพากษาให้เป็นไปตามนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2549 ว่า นายศิโรตม์และพวกรวม 5 คนเป็นเจ้าพนักงาน ละเว้นการไม่เก็บภาษี และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.154, 157 และมีความผิดวินัยร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 ม.82 วรรค 3, ม.85 วรรค 2 และ ม.98 วรรค 2 ซึ่ง ป.ป.ช.พบข้อเท็จจริงเรื่องการโอนหุ้นชินฯระหว่างนายบรรณพจน์ กับ น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี คนรับใช้ จำนวน 4.5 ล้านหุ้น มูลค่า 738 ล้านบาท ผ่านตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งการซื้อขายหุ้นดังกล่าว ผู้ซื้อและผู้ขาย ได้เสียค่าธรรมเนียมแก่โบรกเกอร์ เป็นเงิน 7.38 ล้านบาท
นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อายุ 59 ปี(ถือมือถือ) อดีตอธิบดีกรมสรรพากร
นายวิชัย จึงรักเกียรติ อายุ 58 ปี อดีต ผอ.สำนักงานกฎหมาย กรมสรรพากร
น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อายุ 49 ปี อดีตนิติกร 8 ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น