ศาลฎีการับฟ้องคดีที่ 3 “ทักษิณ ” ทุจริตสั่งเอ็กซิมแบงค์ปล่อยกู้รัฐบาลพม่า 4 พันล้าน อนุญาต ป.ป.ช. เป็นโจทก์แทน คตส. ที่หมดอายุ สั่งส่งหมายเรียกให้จำเลยภายใน 15 วัน นัดพิจารณาคดีครั้งแรก 16 ก.ย.นี้ 10.00 น. “ทนาย คตส.” ระบุ เป็นปัญหาจริยธรรมของนักกฎหมาย หากอัยการต้องเป็นทนายแก้ต่างคดีให้จำเลยคดีหวย เผย สัปดาห์หน้านัดเจ้าน้าที่ศาลส่งหมายให้จำเลยคดีหวย – เอ็กซิมแบงค์
วันนี้(30 ก.ค.)เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายปัญญา สุทธิบดี ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีดำหมายเลข อม.3/2551 ทุจริต เอ็กซิมแบงก์ ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐาน ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการดูแลกิจการเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152, 157 กรณีที่มีการอนุมัติเงินกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยให้แก่รัฐบาลพม่า จำนวน 4,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการจัดซื้ออุปกรณ์กิจการโทรคมนาคมจากบริษัทในเครือ ชิน คอร์ปอเรชั่น จจำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นทุจริตของครอบครัว
องค์คณะพิจารณาคำฟ้องแล้วเห็นว่า คำฟ้องที่เสนอต่อศาลเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มาตรา 9 (1) พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 และคำฟ้องถูกต้องตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2543 ข้อ 8 จึงมีคำสั่งให้ประทับรับคำฟ้อง
สำหรับคำร้องของจำเลยลงวันที่ 23 ก.ค.2551 ที่โต้แย้งอำนาจ คตส. ในการตรวจสอบไต่สวนและยื่นฟ้องคดีนี้ ศาลเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวในคำพิพากษาและไม่จำต้องมีคำสั่งในคำร้องดังกล่าวอีก
ส่วนคำร้องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ลงวันที่ 25 ก.ค.51 ขอเข้าเป็นโจทก์แทน คตส. ศาลเห็นว่า ป.ป.ช. มีอำนาจเป็นโจทก์แทน คตส. ซึ่งสิ้นสุดหน้าที่ไปหลังจากวันที่ 30 มิ.ย.51 ตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 30 เรื่องการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ลงวันที่ 30 ก.ย.49 จึงอนุญาตให้ ป.ป.ช. เข้าเป็นโจทก์แทน คตส.
โดยให้โจทก์นำเจ้าหน้าที่ศาลนำส่งหมายเรียก สำเนาคำฟ้อง สำเนาคำร้องขอเป็นโจทก์แทนที่ คตส. ให้จำเลยภายใน 15 วัน หากการส่งหมายไม่พบตัวจำเลยหรือผู้แทนรับหมายศาลให้ปิดหมาย โดยศาลนัดพิจารณาคดีครั้งแรกในวันที่ 16 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น.
ภายหลังนายสิทธิโชค ศรีเจริญ ทนายความ คตส. กล่าวถึงกรณีที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้สำนักงานอัยการสูงสุด แต่งตั้งอัยการแก้ต่างให้กับรัฐมนตรี และข้าราชการ จำเลย คดีทุจริตโครงการออกสลากเลขท้ายพิเศษ 2 และ 3 ตัว ( หวยบนดิน ) ว่า ถือเป็นเรื่องของอัยการ ซึ่งตนไม่สามารถพูดเรื่องนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับอัยการได้ เพราะไม่ทราบว่าอัยการมีระเบียบปฏิบัติอย่างไรบ้าง แต่ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับจริยธรรมของนักกฎหมาย ซึ่งจะเป็นการไม่เหมาะสม หากอัยการที่เคยทำคดีนี้ต้องไปทำหน้าที่แก้ต่างให้จำเลย โดยตนคิดว่าหากอัยการจะต้องดำเนินการเรื่องนี้จริง สำนักงานอัยการสูงสุด จะเลือกอัยการที่ไม่เคยทำและไม่เคยอ่านสำนวนคดีนี้ในชั้นไต่สวนของ คตส. มาก่อน มาแก้ต่างให้กับจำเลยคดีนี้
“เรื่องนี้น่าจะเป็นปัญหาจริยธรรมของนักกฎหมาย ว่าควร หรือไม่ควรในฐานะที่เป็นนักกฎหมาย ซึ่งผมตอบแทนอัยการไม่ได้ แต่หากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับทนายความว่าเคยอ่านสำนวนแล้วเข้าไปเป็นทนายความฝ่ายตรงข้ามก็จะทำไม่ได้ ” นายสิทธิโชคกล่าวและว่า ส่วนความเป็นห่วงเรื่องที่อัยการจะเข้ามาแก้ต่างให้จำเลย ก็มีอยู่บ้างว่า คตส. จะต้องสู้คดีกันเองกับอัยการ แต่ทั้งนี้ตนในฐานะทนายความโจทก์ก็ยังมีความมั่นใจในการฟ้องคดี อย่างไรก็ดีที่อัยการอาจจะต้องเข้ามาแก้ต่างคดีให้จำเลย ตนคงจะไม่ต้องนำเรื่องเข้าหารือกับ ป.ป.ช. ที่จะเป็นโจทก์ แทน คตส.
ทั้งนี้นายสิทธิโชค ทนายความ ยังกล่าวถึงการส่งหมายเรียกให้จำเลยคดีหวยบนดิน และเอ็กซิมแบงค์ ว่า ขณะนี้ได้นัดหมายกับเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ศาลพร้อมจะเดินทางไปส่งหมายภายในสัปดาห์หน้า ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป โดยจะมีการแบ่งสายส่งหมายให้จำเลยทั้งที่มีภูมิลำเนาใน กทม.และต่างจังหวัดพร้อมกัน