xs
xsm
sm
md
lg

จี้ “พัลลภ” เปิดอกทิ้ง “พันธมิตรฯ” แฉ “แม้ว” สู้ตาย-จ่อเปิดศึกครั้งใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
“สุริยะใส” จี้ “พัลลภ” เร่งเปิดใจทิ้ง “พันธมิตรฯ” ซุกอก “น.ช.แม้ว” เชื่อ “ชายชาติทหาร” ไม่กลับคำ หลังเคยประกาศ “ทักษิณ” เป็นภัยต่อระบอบประชาธิปไตย ชี้อาจเกิดความเข้าใจผิดเพราะ “สื่อ” จับแพะชนแกะ ก่อนชำแหละแผน “อดีตนายกฯ” เดินเกมหย่าหวังนำทัพสู้ตายเต็มรูปแบบ

วานนี้ (17 พ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าววิเคราะห์สถานการณ์เฉพาะหน้าถึงการชุมนุมของพันธมิตรฯ ในช่วง 3-4 วัน ที่น้อมส่งเสด็จสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ว่า พวกเราร่วมมือร่วมใจกันชุมนุมอย่างเป็นเอกภาพ แต่ฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้โศกเศร้า หรือแสดงอาการอย่างที่คนไทยควรทำกัน โดยไม่ได้งดการเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือหยุดภารกิจทางการเมืองเอาไว้ก่อน แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมีข่าวใหญ่ออกมาคือ การหย่ากับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ส่วนข่าวที่ 2 คือ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ซึ่งเดินทางกลับจากประเทศจีน พร้อมระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จงรักภักดี ส่วนเรื่องที่ 3 คือ การต่ออายุของรัฐบาลมีกี่วิธี และทำไปถึงไหน อย่างไรบ้าง

ส่วนกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า บทบาทของ พล.อ.พัลลภ พวกเราเชื่อว่าจะยืนอยู่ตรงข้ามกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะคนที่อยู่ข้างพันธมิตรฯ ไม่จำเป็นที่จะต้องมาเข้าร่วมชุมนุม เพราะคนเราอาจจะมีเงื่อนไขต่างกัน และถ้า พล.อ.พัลลภ มีจุดยืนเหมือนเรา อยู่ตรงไหนก็รักชาติ ไม่จำเป็นต้องเป็นแกนนำพันธมิตรฯ อีกทั้งตนเชื่อว่า พล.อ.พัลลภ ไม่ได้อยากที่จะได้ตำแหน่งอะไร แต่ตนเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า เมื่อเห็นพันธมิตรฯ ถูกคุกคามจากอำนาจรัฐ พล.อ.พัลลภ จึงอยากที่จะมาช่วยนำมวลชน ฉะนั้นต้องคารวะในจิตใจอันหาญหล้าของ พล.อ.พัลลภ

“พล.อ.พัลลภ เป็นชายชาติทหาร พอไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จงรักภักดีนั้น ถามว่า ท่านจะเปลี่ยนความเชื่อพวกเราได้อย่างไร แต่กรณีที่เกิดขึ้น อาจจะเกิดจากสื่อมวลชนจับแพะชนแกะก็เป็นไปได้ ที่สำคัญถ้าเรายังไม่ได้ยินจากปากของ พล.อ.พัลลภ ว่าเปลี่ยนไปแล้ว หรือรังเกียจพันธมิตรฯ แล้ว ดังนั้น เราจึงไม่มีทางที่จะเชื่อข่าวที่ปรากฏ เราต้องยืนหลักนี้ และที่ผมระบุออกมาอย่างนี้ขอยืนยันว่าไม่ได้รับใบสั่งให้ใครให้ปกป้องชื่อเสียง พล.อ.พัลลภ” นายสุริยะใส กล่าว

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า เมื่อย้อนไปในปี 2549 ทันทีที่ข่าวคาร์บอมเกิดขึ้น พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งปลดสายฟ้าแลบให้ พล.อ.พัลลภ ออกจากตำแหน่ง ผอ.กอ.รมน.ทันที โดยขณะนั้น พล.อ.พัลลภ ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยเสียงสั่นเครือ และคับแค้นข้องใจว่า ถ้าคนที่ชื่อ พล.อ.พัลลภ เป็นคนทำคาร์บอมบ์จริง พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่หรอก และคงไม่เหลือแม้แต่กระดูก หลังจากนั้นมา พล.อ.พัลลภ ก็ประกาศอย่างชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

“ผมเป็นคนให้โอกาสคน ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้คนอายุป่านนี้เปลี่ยนไป เพราะเห็นเพียงแค่ตำแหน่งผู้ช่วย ผอ.กอ.รมน. ซึ่งพวกเราคงไม่เชื่อ แต่ไม่ว่าแกนนำพันธมิตรฯ หรือผมออกมาพูด ก็คงไม่มีความหมาย ถ้า พล.อ.พัลลภ ไม่ออกมาพูด ดังนั้น ความจริงจากนี้ไป พล.อ.พัลลภ ต้องออกมาแก้ และต้องชี้แจงว่า สิ่งที่พวกเราได้ยินมานั้นเป็นการจับแพะชนแกะ แต่ถ้าไม่ใช่อย่างที่ผมคิด ก็ถือว่าวิเคราะห์ผิดอย่างสิ้นเชิง แต่ผม และพันธมิตรฯ ไม่เคยกลัวความจริง เพราะพวกเราถูกทางแล้ว จึงได้แต่หวังว่าซุ่มเสียงของผมจะไปถึง พล.อ.พัลลภ และหวังว่าท่านจะออกมาเปิดใจกับสังคม ที่สำคัญท่านแน่ใจแล้วหรือ ที่จะไปเป็นผู้ช่วย ผอ.กอ.รมน ของคนที่ชื่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ ที่ได้เราเพิ่งประณามหยามเหยียดว่าเป็นฆาตกร ปราบปรามประชาชน ดังนั้นอย่าประเมิน พล.อ.พัลลภ ต่ำเกินไป และท่านจะเป็นคนพิสูจน์ตัวเอง” นายสุริยะใส ระบุ

ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ หย่ากับคุณหญิงพจมาน ว่ามีการตีความของนักกฎหมาย 2 ทาง คือ ทางหนึ่งระบุว่า ต่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หย่าไปแล้วก็ไม่มีผลในคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระหว่างการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งศาลฎีการับฟ้องจาก ป.ป.ช. และอัยการสูงสุด จนมีการตั้งคณะกรรมการร่วม และส่งฟ้องไปแล้ว โดยศาลรับฟ้อง และมีการไต่สวนไปแล้ว แต่ว่ากันว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ หย่ากับคุณหญิงพจมาน นั้น เป็นเพราะต้องการที่จะทำให้ทรัพย์สินบางส่วน กลับคืนไปเป็นของตระกูลชินวัตร ซึ่งในแง่กฎหมายนั้น ทั้ง คตส. และอัยการสูงสุด ออกมายืนยันว่า ไม่มีผล เพราะย้อนหลังไม่ได้ และนี่คือมุมที่ปิดประตูว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเอาเกมของครอบครัวมาทำเป็นลับลวงพรางไม่ได้อีกแล้ว เพราะคดีความเกิดขึ้นแล้ว

ส่วนการตีความอีกทางหนึ่งของนักกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า นักกฎหมายระบุว่ามีโอกาสเหมือนกันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะยกการหย่ามาเป็นข้ออ้างหากถูกยึดทรัพย์ ซึ่งจะทำให้การยึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาทนั้น ทรัพย์ไหนควรถูกยึด หรือทรัพย์ไหนควรที่จะให้คืนกับเจ้าของ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง แต่ทั้งนี้ความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดขึ้นแล้ว จึงไม่น่าที่จะมีผล เพราะไม่เช่นนั้น ในอนาคตคนก็จะให้วิธีเดียวกันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ กฎหมายก็จะไม่สามารถผดุงความเป็นธรรมได้

“อีกข้อสันนิษฐานหนึ่ง คือ เกมหย่าครั้งนี้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการที่จะเป็นผู้นำทัพเอง โดยเขาต้องการเก็บครอบครัว เก็บลูก เก็บเมียเอาไว้ แล้วออกมานำหน้าเองโดยส่งสัญญาณรบรอบใหม่ ซึ่งว่ากันว่า อาจจะรุนแรงกว่าการโฟนอินเมื่อครั้งที่แล้ว โดยเฉพาะหลังงานพระราชพิธี โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ขอตายเพียงคนเดียว และจะต้องกลับเข้าประเทศไทยในเร็วๆ นี้ อีกทั้งยังมีการท้าทายว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ลงจากสนามบิน แล้วตำรวจที่ไหนจะไปกล้าจับ แต่ถ้าตำรวจไม่จับ เราพันธมิตรฯ จะถือหมายจับไปจับเอง ดังนั้น เราอย่าไปสนใจเรื่องการหย่า หรือไม่อย่า ผมก็ได้แต่หวังว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะไม่มีลับ ลวง พราง และขอให้สู้กันในกติกา” นายสุริยะใส กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น