สองนิสิตจุฬาฯ ซวยขับรถเบนซ์-ฟอร์ด เทียร่า จอดริมถนนถูกมือดีทุบกระจกรถแตกละเอียด ลักทรัพย์เกือบ 3 หมื่น กล้องดิจิตอล-เครื่องเล่นเกมพีเอสพี ทรัพย์สินอื่นถูกกวาดเรียบ ตร.โรงพักปทุมวันกำลังเร่งตามจับตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ (15 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ร.ต.ท.ธรากร สกุลปิยะเทวัญ พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.ปทุมวัน รับแจ้งมีเหตุคนร้ายทุบกระจกรถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนพญาไท ติดกับคณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบรถเก๋งยี่ห้อฟอร์ด เลเซอร์ เทียร่า สีแดงเลือดหมู หมายเลขทะเบียน ศล-5937 กทม.และรถเบนซ์ 230 อี สีดำ หมายเลขทะเบียน 5 ช-5687 กทม.จอดอยู่ติดกันในสภาพกระจกข้างซ้ายด้านหลังถูกทุบแตกจนละเอียดทั้ง 2 คัน
จากการสอบสวนนายศราพงษ์ อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา อายุ 26 ปี อยู่บ้านลขที่ 359/563 หมู่ 5 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เป็นอาจารย์โรงเรียนอำนวยศิลป์ และนิสิตชั้นปริญญาโท คณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเจ้าของรถเก๋งฟอร์ดให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถคันดังกล่าวมาจอดไว้ที่จุดเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ก่อนจะเข้าไปเรียนตามปกติ จนกระทั่งช่วงเที่ยงออกมาก็พบว่ากระจกรถตนถูกทุบจนแตกทั้งบาน โดยทรัพย์สินประกอบด้วยกล้องดิจิตอล ยี่ห้อคาสิโอ เครื่องเล่นเกมพีเอสพี ของใช้ส่วนตัว ซึ่งเก็บไว้ในกระเป๋าสีส้มดำ รวมมูลค่า 20,000 บาท ถูกคนร้ายขโมยไป ทั้งนี้ตามปกติแล้วตนจะไม่เอารถมาจอดไว้ที่ริมถนน แต่จะนั่งรถแท็กซี่มาเรียนเนื่องจากเคยได้ยินว่าบริเวณริมถนนมีรถถูกทุบกระจกเอาทรัพย์สินไปบ่อยครั้ง
ด้าน นายพชรกุล จังสกุล อายุ 25 ปี นิสิตปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ เอกภาพยนตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของรถเบนซ์คันดังกล่าวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจอดไว้ตรงจุดเกิดเหตุในเวลาประมาณ 09.30 น.เช่นเดียวกัน จากนั้นก็เข้าไปเรียนที่คณะ จนช่วงเที่ยงก็เดินกลับออกมาที่รถก็พบว่ากระจกถูกทุบแตกไปเช่นกัน ส่วนทรัพย์สินที่หายไปก็มีกล้องดิจิตอล 1 ตัว รองเท้าสตั๊ด และรองเท้าผ้าใบอย่างละ 1 คู่ รวมทั้งหนังสือและเอกสารอีกจำนวนหนึ่งที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเป้สีดำ รวมมูลค่าประมาณ 8,000 บาท ถูกคนร้ายขโมยไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้เสียหายทั้งสองรายไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ปทุมวัน ก่อนจะประสานให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน มาตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงที่รถของผู้เสียหายทั้งสองคัน เพื่อนำไปเปรียบเทียบที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป
วันนี้ (15 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ร.ต.ท.ธรากร สกุลปิยะเทวัญ พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.ปทุมวัน รับแจ้งมีเหตุคนร้ายทุบกระจกรถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนพญาไท ติดกับคณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบรถเก๋งยี่ห้อฟอร์ด เลเซอร์ เทียร่า สีแดงเลือดหมู หมายเลขทะเบียน ศล-5937 กทม.และรถเบนซ์ 230 อี สีดำ หมายเลขทะเบียน 5 ช-5687 กทม.จอดอยู่ติดกันในสภาพกระจกข้างซ้ายด้านหลังถูกทุบแตกจนละเอียดทั้ง 2 คัน
จากการสอบสวนนายศราพงษ์ อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา อายุ 26 ปี อยู่บ้านลขที่ 359/563 หมู่ 5 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เป็นอาจารย์โรงเรียนอำนวยศิลป์ และนิสิตชั้นปริญญาโท คณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเจ้าของรถเก๋งฟอร์ดให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถคันดังกล่าวมาจอดไว้ที่จุดเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ก่อนจะเข้าไปเรียนตามปกติ จนกระทั่งช่วงเที่ยงออกมาก็พบว่ากระจกรถตนถูกทุบจนแตกทั้งบาน โดยทรัพย์สินประกอบด้วยกล้องดิจิตอล ยี่ห้อคาสิโอ เครื่องเล่นเกมพีเอสพี ของใช้ส่วนตัว ซึ่งเก็บไว้ในกระเป๋าสีส้มดำ รวมมูลค่า 20,000 บาท ถูกคนร้ายขโมยไป ทั้งนี้ตามปกติแล้วตนจะไม่เอารถมาจอดไว้ที่ริมถนน แต่จะนั่งรถแท็กซี่มาเรียนเนื่องจากเคยได้ยินว่าบริเวณริมถนนมีรถถูกทุบกระจกเอาทรัพย์สินไปบ่อยครั้ง
ด้าน นายพชรกุล จังสกุล อายุ 25 ปี นิสิตปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ เอกภาพยนตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของรถเบนซ์คันดังกล่าวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจอดไว้ตรงจุดเกิดเหตุในเวลาประมาณ 09.30 น.เช่นเดียวกัน จากนั้นก็เข้าไปเรียนที่คณะ จนช่วงเที่ยงก็เดินกลับออกมาที่รถก็พบว่ากระจกถูกทุบแตกไปเช่นกัน ส่วนทรัพย์สินที่หายไปก็มีกล้องดิจิตอล 1 ตัว รองเท้าสตั๊ด และรองเท้าผ้าใบอย่างละ 1 คู่ รวมทั้งหนังสือและเอกสารอีกจำนวนหนึ่งที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเป้สีดำ รวมมูลค่าประมาณ 8,000 บาท ถูกคนร้ายขโมยไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้เสียหายทั้งสองรายไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ปทุมวัน ก่อนจะประสานให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน มาตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงที่รถของผู้เสียหายทั้งสองคัน เพื่อนำไปเปรียบเทียบที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป
