ตร.ประชุมโครงสร้างใหม่ สตช. ,นครบาล ,ภ.1 - 9 เห็นด้วยยกฐานะหัวหน้าศูนย์สืบสวนเป็น พล.ต.ต. เทียบเท่ากองบังคับการ แต่คัดค้านการตั้งกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ
วันนี้(16 มิ.ย.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีหนังสือมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการแต่งตั้งโยกย้าย (26 คำสั่ง) ที่เป็นหนึ่งในเรื่องคดีวินัยร้ายแรงของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. เนื่องจากคำสั่งแต่งตั้งดังกล่าวนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีพิจารณาและเห็นว่าเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมการข้าราชการตำรวจได้มีมติเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2551 ส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความข้อกฎหมายและสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะทำงานมาหนึ่งชุดเพื่อศึกษาแก้ไขปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายขึ้นมา 1 คณะด้วย ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาจิณ โชติวงศ์ รองผบช.ภ.7 (อดีตรองผบช.กฎหมายและสอบสวน )และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปชี้แจงกับคณะกรรมการกฤษฎีกาในวันพฤหัสที่ 19 มิ.ย.เวลา10.00 น. คาดว่าเมื่อมีการชี้แจงจากตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว คณะกรรมการกฤษฎีกาจะสรุปความเห็นทางกฎหมายส่งให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับโครงสร้างใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติคณะกรรมการที่มี พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผช.ผบ.ตร.เป็นประธานได้ประชุมหน่วยงานระดับกองบัญชาการเมื่อวันอังคารที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมาโดยมี กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 เข้าประชุมพร้อมชี้แจงข้อเสนอโครงสร้างของแต่ละหน่วยพอสรุปได้ดังนี้
กองบัญชาการตำรวจนครบาลภาครวมโครงสร้างปัจจุบันมีการแบ่งส่วนราชการระดับกองบังคับการ 12 กองบังคับการ หน่วยขึ้นตรง 3 หน่วยงาน แบ่งเป็นหน่วยเทียบเท่ากองบังคับการ (รองผบก.เป็นหัวหน้าหน่วย) คือศูนย์สืบสวน หน่วยระดับกองกำกับการจำนวน 2 หน่วย ซึ่งโครงสร้างใหม่ที่บช.น.เสนอ จะมีการเพิ่มกองบังคับการตำรวจปราบปรามจลาจลและต่อต้านการก่อการร้าย กองบังคับการตำรวจอารักขาและรักษาความปลอดภัย ยกระดับศูนย์สืบสวนเป็นกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน ยกระดับกองกำกับการตำรวจสวัดิภาพเด็กเยาวชนและสตรีเป็นกองบังคับการ และกำหนดให้มีศูนย์ฝึกอบรมเป็นหน่วยขึ้นตรง
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด กลุ่มงานสืบสวน กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ศูนย์สืบสวนสอบสวน โครงสร้างใหม่เห็นควรยกฐานะศูนย์สืบสวนสอบสวนเป็นกองบังคับการ ควรเพิ่มให้มีหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะโดยมีหัวหน้าหน่วยเป็นผู้กำกับการ กลุ่มงานสืบสวนของภูธรจังหวัดเดิมมีรองผกก.เป็นหัวหน้าเห็นควรปรับเป็นระดับ ผกก. กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศเดิมมีรองสว.เป็นหัวหน้า เห็นควรปรับให้มีรองผกก.เป็นหัวหน้าโดยมีคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งด้านอำนวยการ
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด ศูนย์สืบสวน โครงสร้างใหม่มีความเห็นให้ยกศูนย์สืบสวนเป็นกองบังคับการ
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด ศูนย์สืบสวนภาค 3 โครงสร้างใหม่มีความเห็นให้ยกศูนย์สืบสวนเป็นกองบังคับการ ไม่เห็นด้วยในการเปลี่ยนชื่อจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเป็นกองตำรวจภูธรจังหวัด สถานีตำรวจภูธรควรเปลี่ยนเป็นกองกำกับการตำรวจภูธร กองตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดควรยกฐานะจากรองผบก.เป็นหัวหน้าเป็นผบก.เป็นหัวหน้า กองตำรวจสวัสดิภาพเด็กและเยาวชน ควรยกฐานะหัวหน้าจากสว.เป็นผกก.
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด โครงสร้างเดิมสำนักงานผู้บัญชาการไม่มีหัวหน้าสำนักงานเห็นควรให้มีตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานเป็น ผกก. ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศเดิมขึ้นตรงกองบัญชาการ โครงสร้างใหม่ควรนำไปขึ้นตรงต่อกองบังคับการอำนวยการ สำนักงานผู้บังคับการภูธรจังหวัด โครงสร้างใหม่เห็นควรปรับระดับนายเวรจากรองสว.เป็นสว. เห็นควรยกศูนย์สืบสวนจากรองผบก.เป็นหัวหน้าเป็นผบก.เป็นหัวหน้า เห็นควรจัดสรรค์ตำแหน่งพนักงานสอบสวนระดับสบ.1-3 ขึ้นตรงต่อศูนย์สืบสวน
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด เห็นควรยกฐานะศูนย์สืบสวนจากตำแหน่ง รองผบก.เป็นหัวหน้า เป็นตำแหน่ง ผบก.เป็นหัวหน้า เห็นควรให้มีการปรับระกับหัวหน้าสำนักงานผบก.ภ.จว.เป็นผกก. และกองสวัสดิภาพเด็กเยวชนและสตรีเห็นควรยกระดับหัวหน้าเป็นรองผบก. กลุ่มงานสืบสวน กลุ่มงานสอบสวน ศูนย์การจราจร ควรปรับหัวหน้าหน่วยจากเดิมรองผกก.เป็นผกก. กลุ่มงานชุมชนมวลชนสัมพันธ์ควรมีรองผกก.เป็นหัวหน้าหน่วย ไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งกองบัญชาการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติดังต่อไปนี้ 1.สำนักข่าวกรองเพราะมีลักษณะงานซ้ำซ้อนกับกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานสอบสวนและคดีและสำนักงานวิทยาการและกฎหมาย เพราะมีลักษณะงานใกล้เครียงกับงานจเรตำรวจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบัญชาการการตำรวจสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ไม่เห็นควรแยกเป็น 2 กองบัญชาการควรเป็นกองบัญชาการสอบสวนกลางเหมือนเดิม
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด กองบังคับการอำนวยการ ศูนย์สืบสวนสอบสวน ศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ โครงสร้างใหม่เพิ่มฝ่ายการข่าวเป็นหน่วยงานระดังกองกำกับการในสังกัด กองบังคับการอำนวยการ ปรับระกับหัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนเป็นผู้บังคับการ หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนในแต่ละจังหวัดให้เป็นผกก. ข้อเสนอโครงสร้างใหม่ของตร. ภาค 6 เสนอควรให้มีหน่วยงานระดับกองบัญชาการ เพื่อรับผิดชอบงานด้านการสอบสวนเป็นการเฉพาะเพื่อให้เกิดการพัฒนาและส่งเสริมการปฏิบัติงานด้านคดีต่างๆ ภายในอำนวจตลอดจนเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดนโยบายแนวทางการปฏิบัติและควบคุมจรรยาบรรณของพนักงานสอบสวนให้เกิดความโปร่งใสให้สอดคล้องกับสภาพสังคมและระบบงานยุติธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด กองบังคับการอำนวยการ ศูนย์สืบสวนสอบสวน ศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ โครงสร้างใหม่เห็นควรให้ยกฐานะหัวหน้าศูนย์สืบสวนเป็นผบก. กองกำกับการอารักขาและรักษาความปลอดภัย เห็นควรแยกออกจากศูนย์สืบสวนสอบสวนมาขึ้นตรงกับกองบัญชาการ เห็นควรเพิ่มตำแหน่งสารวัตรอำนวยการจากเดิม 4 ตำแหน่งเป็น 8 ตำแหน่ง ตามลักษณะงาน 8 ด้านในส่วนของกองบังคับการภูธรจังหวัด เห็นควรปรับระดับสถานีตำรวจที่มีหัวหน้าสถานีระดับสารวัตรใหญ่ในพื้นที่ที่มีเขตพื้นที่ประชาชนและสถิติคดีปริมาณมากให้เป็นผกก. ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 ควรยกระดับหัวหน้าศูนย์เป็นระดับผบก.เนื่องจากข้าราชการตำรวจในภูธรภาค 7 มีจำนวน 1.2 หมื่นคนจึงเห็นควรให้หมุนเวียนเข้ารับการอบรมทั้งด้ายยุธวิธีและวิชาการอย่างต่อเนื่อง
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด กองบังคับการอำนวยการ ศูนย์สืบสวนสอบสวน ศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ เห็นควรปรับระกับหัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนเป็นผู้บังคับการ ฝ่ายอำนวยภารภูธรจังหวัดให้รับผิดชอบงานชุมชนและมวลชนสัมพันธ์ ยกระดับหัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนแต่ละจังหวัดให้เป็นระดับผกก. ไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งสำนักงานข่าวกรอง ไม่เห็นด้วยกับการยุบกองบังคับการอำนวยการภาค ไม่ควรจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมเป็ฯหน่วยงานระดับกองบังคับการ ให้เพิ่มการแก้ไขอำนาจสั่งคดี สั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องและคดีสำคัญให้เป็นอำนาจของผบก.ภ.จว.
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด กองบังคับการอำนวยการ ศูนย์ความมั่นคง ศูนย์สืบสวนสอบสวน ศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ โครงสร้างใหม่มีการเพิ่มกองบังคับการ 4 กองบังคับการประกอบด้วย กองบังคับการส่งกำลังบำรุงและสนับสนุน กองบังคับการความมั่นคง กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือประชาชน ความเห็นเกี่ยวกับโครงสร้างของตร.นั้นไม่เห็นด้วยในการจัดให้มีหน่วยงานระดับกองบัญชาการจำนวน 12 กองบัญชาการ ขึ้นตรงต่อสำนักงานผบ.ตร.ไม่ควรจัดตั้งสำนักงานข่าวกรอง ไม่ควรจัดตั้งตำรวจสอบสวนคดีพิเศษเป็นหน่วยงานระกับกองบัญชาการ
ผู้สื่ข่าวรายงานข้อเสนอทั้งหมดจะประชุมพิจารณาอีกครั้งในวันอังคารที่ 17 มิ.ย.นี้ ก่อนจะเสนอผบ.ตร.เข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติต่อไป
วันนี้(16 มิ.ย.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีหนังสือมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการแต่งตั้งโยกย้าย (26 คำสั่ง) ที่เป็นหนึ่งในเรื่องคดีวินัยร้ายแรงของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. เนื่องจากคำสั่งแต่งตั้งดังกล่าวนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีพิจารณาและเห็นว่าเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมการข้าราชการตำรวจได้มีมติเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2551 ส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความข้อกฎหมายและสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะทำงานมาหนึ่งชุดเพื่อศึกษาแก้ไขปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายขึ้นมา 1 คณะด้วย ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาจิณ โชติวงศ์ รองผบช.ภ.7 (อดีตรองผบช.กฎหมายและสอบสวน )และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปชี้แจงกับคณะกรรมการกฤษฎีกาในวันพฤหัสที่ 19 มิ.ย.เวลา10.00 น. คาดว่าเมื่อมีการชี้แจงจากตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว คณะกรรมการกฤษฎีกาจะสรุปความเห็นทางกฎหมายส่งให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับโครงสร้างใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติคณะกรรมการที่มี พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผช.ผบ.ตร.เป็นประธานได้ประชุมหน่วยงานระดับกองบัญชาการเมื่อวันอังคารที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมาโดยมี กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 เข้าประชุมพร้อมชี้แจงข้อเสนอโครงสร้างของแต่ละหน่วยพอสรุปได้ดังนี้
กองบัญชาการตำรวจนครบาลภาครวมโครงสร้างปัจจุบันมีการแบ่งส่วนราชการระดับกองบังคับการ 12 กองบังคับการ หน่วยขึ้นตรง 3 หน่วยงาน แบ่งเป็นหน่วยเทียบเท่ากองบังคับการ (รองผบก.เป็นหัวหน้าหน่วย) คือศูนย์สืบสวน หน่วยระดับกองกำกับการจำนวน 2 หน่วย ซึ่งโครงสร้างใหม่ที่บช.น.เสนอ จะมีการเพิ่มกองบังคับการตำรวจปราบปรามจลาจลและต่อต้านการก่อการร้าย กองบังคับการตำรวจอารักขาและรักษาความปลอดภัย ยกระดับศูนย์สืบสวนเป็นกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน ยกระดับกองกำกับการตำรวจสวัดิภาพเด็กเยาวชนและสตรีเป็นกองบังคับการ และกำหนดให้มีศูนย์ฝึกอบรมเป็นหน่วยขึ้นตรง
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด กลุ่มงานสืบสวน กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ศูนย์สืบสวนสอบสวน โครงสร้างใหม่เห็นควรยกฐานะศูนย์สืบสวนสอบสวนเป็นกองบังคับการ ควรเพิ่มให้มีหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะโดยมีหัวหน้าหน่วยเป็นผู้กำกับการ กลุ่มงานสืบสวนของภูธรจังหวัดเดิมมีรองผกก.เป็นหัวหน้าเห็นควรปรับเป็นระดับ ผกก. กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศเดิมมีรองสว.เป็นหัวหน้า เห็นควรปรับให้มีรองผกก.เป็นหัวหน้าโดยมีคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งด้านอำนวยการ
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด ศูนย์สืบสวน โครงสร้างใหม่มีความเห็นให้ยกศูนย์สืบสวนเป็นกองบังคับการ
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด ศูนย์สืบสวนภาค 3 โครงสร้างใหม่มีความเห็นให้ยกศูนย์สืบสวนเป็นกองบังคับการ ไม่เห็นด้วยในการเปลี่ยนชื่อจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเป็นกองตำรวจภูธรจังหวัด สถานีตำรวจภูธรควรเปลี่ยนเป็นกองกำกับการตำรวจภูธร กองตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดควรยกฐานะจากรองผบก.เป็นหัวหน้าเป็นผบก.เป็นหัวหน้า กองตำรวจสวัสดิภาพเด็กและเยาวชน ควรยกฐานะหัวหน้าจากสว.เป็นผกก.
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด โครงสร้างเดิมสำนักงานผู้บัญชาการไม่มีหัวหน้าสำนักงานเห็นควรให้มีตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานเป็น ผกก. ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศเดิมขึ้นตรงกองบัญชาการ โครงสร้างใหม่ควรนำไปขึ้นตรงต่อกองบังคับการอำนวยการ สำนักงานผู้บังคับการภูธรจังหวัด โครงสร้างใหม่เห็นควรปรับระดับนายเวรจากรองสว.เป็นสว. เห็นควรยกศูนย์สืบสวนจากรองผบก.เป็นหัวหน้าเป็นผบก.เป็นหัวหน้า เห็นควรจัดสรรค์ตำแหน่งพนักงานสอบสวนระดับสบ.1-3 ขึ้นตรงต่อศูนย์สืบสวน
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด เห็นควรยกฐานะศูนย์สืบสวนจากตำแหน่ง รองผบก.เป็นหัวหน้า เป็นตำแหน่ง ผบก.เป็นหัวหน้า เห็นควรให้มีการปรับระกับหัวหน้าสำนักงานผบก.ภ.จว.เป็นผกก. และกองสวัสดิภาพเด็กเยวชนและสตรีเห็นควรยกระดับหัวหน้าเป็นรองผบก. กลุ่มงานสืบสวน กลุ่มงานสอบสวน ศูนย์การจราจร ควรปรับหัวหน้าหน่วยจากเดิมรองผกก.เป็นผกก. กลุ่มงานชุมชนมวลชนสัมพันธ์ควรมีรองผกก.เป็นหัวหน้าหน่วย ไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งกองบัญชาการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติดังต่อไปนี้ 1.สำนักข่าวกรองเพราะมีลักษณะงานซ้ำซ้อนกับกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานสอบสวนและคดีและสำนักงานวิทยาการและกฎหมาย เพราะมีลักษณะงานใกล้เครียงกับงานจเรตำรวจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบัญชาการการตำรวจสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ไม่เห็นควรแยกเป็น 2 กองบัญชาการควรเป็นกองบัญชาการสอบสวนกลางเหมือนเดิม
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด กองบังคับการอำนวยการ ศูนย์สืบสวนสอบสวน ศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ โครงสร้างใหม่เพิ่มฝ่ายการข่าวเป็นหน่วยงานระดังกองกำกับการในสังกัด กองบังคับการอำนวยการ ปรับระกับหัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนเป็นผู้บังคับการ หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนในแต่ละจังหวัดให้เป็นผกก. ข้อเสนอโครงสร้างใหม่ของตร. ภาค 6 เสนอควรให้มีหน่วยงานระดับกองบัญชาการ เพื่อรับผิดชอบงานด้านการสอบสวนเป็นการเฉพาะเพื่อให้เกิดการพัฒนาและส่งเสริมการปฏิบัติงานด้านคดีต่างๆ ภายในอำนวจตลอดจนเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดนโยบายแนวทางการปฏิบัติและควบคุมจรรยาบรรณของพนักงานสอบสวนให้เกิดความโปร่งใสให้สอดคล้องกับสภาพสังคมและระบบงานยุติธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด กองบังคับการอำนวยการ ศูนย์สืบสวนสอบสวน ศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ โครงสร้างใหม่เห็นควรให้ยกฐานะหัวหน้าศูนย์สืบสวนเป็นผบก. กองกำกับการอารักขาและรักษาความปลอดภัย เห็นควรแยกออกจากศูนย์สืบสวนสอบสวนมาขึ้นตรงกับกองบัญชาการ เห็นควรเพิ่มตำแหน่งสารวัตรอำนวยการจากเดิม 4 ตำแหน่งเป็น 8 ตำแหน่ง ตามลักษณะงาน 8 ด้านในส่วนของกองบังคับการภูธรจังหวัด เห็นควรปรับระดับสถานีตำรวจที่มีหัวหน้าสถานีระดับสารวัตรใหญ่ในพื้นที่ที่มีเขตพื้นที่ประชาชนและสถิติคดีปริมาณมากให้เป็นผกก. ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 ควรยกระดับหัวหน้าศูนย์เป็นระดับผบก.เนื่องจากข้าราชการตำรวจในภูธรภาค 7 มีจำนวน 1.2 หมื่นคนจึงเห็นควรให้หมุนเวียนเข้ารับการอบรมทั้งด้ายยุธวิธีและวิชาการอย่างต่อเนื่อง
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด กองบังคับการอำนวยการ ศูนย์สืบสวนสอบสวน ศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ เห็นควรปรับระกับหัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนเป็นผู้บังคับการ ฝ่ายอำนวยภารภูธรจังหวัดให้รับผิดชอบงานชุมชนและมวลชนสัมพันธ์ ยกระดับหัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนแต่ละจังหวัดให้เป็นระดับผกก. ไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งสำนักงานข่าวกรอง ไม่เห็นด้วยกับการยุบกองบังคับการอำนวยการภาค ไม่ควรจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมเป็ฯหน่วยงานระดับกองบังคับการ ให้เพิ่มการแก้ไขอำนาจสั่งคดี สั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องและคดีสำคัญให้เป็นอำนาจของผบก.ภ.จว.
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ภาพรวมโครงสร้างปัจจุบัน มีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด กองบังคับการอำนวยการ ศูนย์ความมั่นคง ศูนย์สืบสวนสอบสวน ศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ โครงสร้างใหม่มีการเพิ่มกองบังคับการ 4 กองบังคับการประกอบด้วย กองบังคับการส่งกำลังบำรุงและสนับสนุน กองบังคับการความมั่นคง กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือประชาชน ความเห็นเกี่ยวกับโครงสร้างของตร.นั้นไม่เห็นด้วยในการจัดให้มีหน่วยงานระดับกองบัญชาการจำนวน 12 กองบัญชาการ ขึ้นตรงต่อสำนักงานผบ.ตร.ไม่ควรจัดตั้งสำนักงานข่าวกรอง ไม่ควรจัดตั้งตำรวจสอบสวนคดีพิเศษเป็นหน่วยงานระกับกองบัญชาการ
ผู้สื่ข่าวรายงานข้อเสนอทั้งหมดจะประชุมพิจารณาอีกครั้งในวันอังคารที่ 17 มิ.ย.นี้ ก่อนจะเสนอผบ.ตร.เข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติต่อไป