xs
xsm
sm
md
lg

ก.ตร."หมัก" เปิดทางโล่งรับ "พี่เมียแม้ว"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตามคาด ก.ตร.อนุมัติเปิดตำแหน่ง รองรับพี่เมียแม้ว "เพรียวพันธ์-ชลอ" กลับรอง ผบ.ตร.- ผู้ช่วย ผบ.ตร.รวมถึงนายเวร ผู้ช่วยนายเวร พร้อมตั้งคณะทำงานตรวจสอบและแก้ไขคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายของ ”เสรีพิศุทธ์” 26 คำสั่งชอบ-ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

วานนี้ (11 มี.ค.) เวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เดินทางเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการผู้บัญชาการตำนวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รอง ผบ.ตร. และ ก.ตร.เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง ใช้เวลาการประชุมประมาณ 1 ชม.

พล.ต.อ.พัชรวาท เปิดเผยว่า การประชุมมีวาระสำคัญ 2 วาระ วาระแรกคือเปิดตำแหน่งรอง ผบ.ตร.และ ผช.ผบ.ตร.ฝ่ายบริหาร 2 ตำแหน่ง เนื่องจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ได้เปิดหน้างานเพิ่มทำให้ฝ่ายบริหารมีหน้าที่มาก จึงจำเป็นต้องมีตำแหน่งเพิ่ม ยืนยันว่าไม่ได้กำหนดตัวบุคคล ไม่มีทั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ และ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ แต่อย่างใด

ส่วนขั้นตอนต่อไป ก็ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ หรือ (ก.ต.ช.) ซึ่งไม่รู้ว่า ก.ต.ช.จะเห็นชอบหรือไม่ เมื่อถามว่าเปิดตำแหน่งให้ พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผช.ผบ.ตร. หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวยืนยันว่าไม่ได้เปิดให้ใครไม่ได้พูดถึงตัวบุคคล ส่วนอีกวาระเป็นเรื่องการตรวจสอบความถูกต้องของคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ที่ผ่านมา

ด้าน พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผช.ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงว่า การประชุมก.ตร.มีวาระการขอเปิดตำแหน่ง รองผบ.ตร. และผช.ผบ.ตร.ฝ่ายบริหารรวมทั้งนายเวร ผู้ช่วยนายเวร อีก 4 ตำแหน่ง รวม 6 ตำแหน่ง ซึ่งตำแหน่งรองผบ.ตร.และผช.ผบ.ตร. เพื่อมาทำหน้าที่ช่วยงานบริหาร แม้เดิมที ตร.จะมีรองผบ.ตร.และผช.ผบ.ตร.ดูแลงานด้านบริหารอยู่แล้วแต่เนื่องจากภาระงานมีมาก และกำลังพลตำรวจมีถึง 2.1 แสนคน ขณะที่งบประมาณมีมากถึง 5.8 หมื่นล้านบาท จึงได้ขออนุมัติต่อที่ประชุม ก.ตร.เพิ่มตำแหน่งขั้นตอนทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายหลังผ่านมติ ก.ตร. ก็ต้องเสนอให้ กตช.เห็นชอบ เมื่อ ก.ต.ช.เห็นชอบการเปิดตำแหน่งก็มีผลสมบูรณ์

พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ส่วนอีกวาระ ก.ตร.ได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 176/2551 โดยมี พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผบช.สทส. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ลงวันที่ 6 มี.ค. เพื่อไปตรวจสอบคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในสังกัด บช.ก. บช.ส. และจเรตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.51 รวม 26 คำสั่ง เนื่องจากได้มีการร้องเรียนว่า คำสั่งดังกล่าวอาจมิชอบหรือไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย ทำให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะไม่มีกฎระเบียบที่ออกมารองรับอย่างถูกต้อง ซึ่งคณะกรรมการอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอ ก.ตร.ต่อไป

"นายกรัฐมนตรีรับทราบปัญหาเรื่องนี้ ซึ่งก็ต้องมีการตรวจสอบในเบื้องต้น ก.ตร.ทุกท่านก็รับทราบ คงต้องรอผลการสอบสวนว่าเป็นอย่างไร ชอบหรือไม่ชอบอย่างไร หากมิชอบจะมีแนวทางแก้ไขอย่างให้ คณะกรรมการจะต้องเสนอมา คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ตรวจสอบเรื่องนี้มีความเหลื่อมซ้อนกับคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ให้สอบสวนวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ซึ่งคงต้องมีการทำงานขนานกันไป เพื่อให้เกิดความชัดเจนเร็วขึ้น เมื่อผลการสอบสวนของตร.ออกมาก็เชื่อว่าชุดคณะกรรมการสอบสวนตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีจะนำไปประกอบการพิจารณาด้วย แต่จะเห็นด้วยหรือไม่ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการชุดคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี"

สำหรับคำสั่งทั้ง 26 คำสั่งที่ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมาระหว่างนี้ให้ถือว่าเป็นคำสั่งที่แต่งตั้งโดยชอบไปก่อน ตำรวจที่มีชื่อในคำสั่งนี้ก็ทำงานไปตามปกติ แต่เมื่อมีข้อโต้แย้งว่ามีเหตุว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบก็ว่ากันไป

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สั่งเร่งรัดให้ทำอย่างเร็วที่สุด เพราะนอกจากกระทบกับตำรวจแล้วยังกระทบต่อการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนที่เข้ามาใช้บริการของตำรวจด้วย ถ้าผลการสอบออกมาว่าคำสั่งออกมาไม่ชอบด้วยกฎหมายทางคณะกรรมการจะต้องมีแนวทางแก้ไขมาด้วยว่าจะดำเนินการอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าผลออกมาว่า คำสั่งออกโดยมิชอบจะเอาผิดผู้ลงนามหรือไม่ พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการฯจะต้องพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามว่าการทำงานของคณะกรรมการฯจะยึดหลักกฎหมายหรือหลักประนีประนอม โฆษ ก.ตร. กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจน เนื่องจากมีประเด็นปัญหาโดยเฉพาะหน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวน ซึ่งหากไม่มีอำนาจในการดำเนินการสอบสวนด้านการอำนวยการความยุติธรรมก็จะมีปัญหา คณะกรรมการจะต้องทำอย่างจริงจังตามหลักระเบียบกฎหมายและมีแนวทางแก้ปัญหามาด้วย เพราะถ้าคำสั่งเป็นโมฆะสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง

ต่อข้อถามว่าการประชุม มีวาระแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ผบช.หรือไม่ พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ที่ประชุมไม่มีการพูดถึงการแต่งตั้งโยกย้ายในตำแหน่งอื่น นอกจากการกำหนดตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.และ ผช.ผบ.ตร. 2 ตำแหน่ง และนายเวร ผู้ช่วยนายเวร อีก 4 ตำแหน่ง

รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.และผช.ผบ.ตร.ที่ ก.ตร.ขออนุมัติเปิดตำแหน่งครั้งนี้ก็เพื่อรองรับการกลับเข้ามารับราชการตำรวจของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ และ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งขั้นตอนเป็นเช่นเดียวกับกรณีที่ ก.ตร.เปิดตำแหน่งให้ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย กลับมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10)

ขณะที่มีรายงานว่า คณะทำงานชุดนี้ได้ศึกษา ตรวจสอบคำสั่งทั้ง 26 คำสั่งและรายงานต่อ ก.ตร.แล้วว่า ตำแหน่งที่กำหนดในคำสั่งนี้ไม่มีผลตามกฎหมาย เนื่องจากไม่มีประกาศเป็นกฎกระทรวงและไม่มีประกาศเขตอำนาจหน้าที่ตามตำแหน่ง ซึ่งทั้งกฎกระทรวงและประกาศกำหนดอำนาจหน้าที่นั้น จำเป็นต้องให้นายกรัฐมนตรีลงนามด้วย เพราะฉะนั้นคำสั่งดังกล่าวจึงไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย จึงจำเป็นที่ ตร.ต้องแก้ปัญหานี้ต่อไป

มีรายงานว่า ในการประชุม ก.ตร.ครั้งนี้นายปรีชา วัชราภัย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หนึ่งใน ก.ตร.ได้ออกความเห็นถึงกรณีนี้ว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มักเปิดตำแหน่งใหม่ โดยไม่มีการกลั่นกรองอย่างรอบคอบ แล้วชอบที่จะรีบเสนอให้ ก.ตร.พิจารณา ซึ่งครั้งต่อไปต้องทำอย่างรอบคอบ

มีรายงานว่าคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นมา นั้นมีทั้งสิ้น 26 คำสั่ง อาทิ คำสั่ง ตร.ที่ 60/2551 ออกเมื่อวันที่ 22 ม.ค.มีผล 5 ก.พ. ส่วนใหญ่ในสังกัด บช.ส. 248 ตำแหน่ง คำสั่ง ตร.ที่ 78/2551 ลงวันที่ 30 ม.ค.มีผล 15 ก.พ.เป็นคำสั่งแต่งตั้ง ผกก.-สว.ใน บช.ก. 513 ตำแหน่ง ทั้งนี้ รวมทั้ง 26 คำสั่งที่อาจจะมีผลไม่ชอบด้วยกฎหมายและส่อเค้าเป็นโมฆะ ตั้งแต่ระดับรอง ผบก.-ประทวนกว่า 7,000 ตำแหน่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น