“สมพงษ์” เข้าเยี่ยม “ชลอ เกิดเทศ” ในเรือนจำกลางคลองเปรม ขอบคุณที่ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อคดีเพชรซาอุฯ ระบุส่วนตัวและครอบครับสนิทสนมกันดี บอกเร็วนี้จะหารือกับอุปทูตซาอุฯ เพื่อคลี่คลายคดีต่างๆ และกินข้าวหมกไก่ร่วมกัน ด้าน “ป๋าลอ” โอดครวญชีวิตเหมือนตายแล้ว ดวงจันทร์หน้าตาเช่นไรนึกภาพไม่ออก ย้ำไม่เคยได้รับอภิสิทธิ์เหนือนักโทษรายอื่น ยันถ้าได้ออกจากคุกจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการเมือง-ราชการตำรวจ แต่จะไปทำไร่ยางพาราที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
วันนี้ (3 เม.ย.) เวลา 09.15 น.ที่เรือนจำกลางคลองเปรม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ และหัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีการหายตัวของนายอัลลู ไวรี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าพบ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีการหายตัวของนักธุรกิจชาวซาอุฯ โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำตัว พล.ต.ท.ชลอ จำเลยในคดีฆ่า 2 แม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ และคดียักยอกของกลางคดีเพชรซาอุฯ ออกจากแดน 4 ซึ่งเป็นแดนควบคุมตัวนักโทษสูงอายุออกมายังห้องผู้อำนวยการส่วนควบคุม เพื่อพูดคุยกับคณะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ภายหลังการพูดคุยกับ พล.ต.ท.ชลอ ประมาณ 20 นาที นายสมพงษ์ให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่ได้ร่วมเป็นพนักงานสอบสวนคดีในความรับผิดชอบของดีเอสไอ แต่ต้องการเข้าพบ พล.ต.ท.ชลอเพื่อขอบคุณในน้ำใจ ที่ช่วยให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนคดีเกี่ยวกับประเทศซาอุฯหลายคดี นอกจากนี้ ตนและพล.ต.ท.ชลอสนิทสนมกันดีเพราะ พล.ต.อ.สวัสดิ์พี่ชายของตนเป็นรุ่นพี่ของ พล.ต.ท.ชลอ จึงเคยพบปะกันมาตลอด
ทั้งนี้ การแก้ปัญหาความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ มีมาหลายรัฐบาล ตนจึงอยากทำให้เห็นถึงความจริงใจของฝ่ายไทยในการแก้ไขปัญหาคดีซาอุฯที่ยืดเยื้อมากว่า 18 ปี คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะในการหาหลักฐานใหม่เพิ่มเติม เพื่อส่งให้อัยการพิจารณาสำนวนจากนั้นจะเจรจาให้ซาอุฯ เห็นถึงความจริงใจของเรา และจะดูจิตใจของเขาว่าจะฟื้นความสัมพันธ์ด้านการค้ากับเราอย่างไร
“รายละเอียดที่เป็นหลักฐานใหม่ ซึ่งได้รับจาก พล.ต.ท.ชลอ ถือเป็นรายละเอียดในสำนวนคดี ผมยังเปิดเผยไม่ได้ เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องอาจเข้าไปทำลายหลักฐาน ซึ่งจะทำให้ยากต่อการดำเนินคดี” นายสมพงษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ระดับใด นายสมพงษ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของคดี จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะฟื้นความสัมพันธ์ได้ระดับใด โดยเร็วๆนี้ตนจะนัดหารือไม่เป็นทางการกับอุปทูตซาอุฯ และจะรับประทานข้าวหมกไก่ร่วมกัน
ต่อข้อถามที่ว่า ก่อนหน้านี้เคยหารือไม่เป็นทางการกับอุปทูตซาอุฯ มาแล้ว ทางซาอุฯ ระบุชัดหรือไม่ว่าต้องการให้ฝ่ายไทยดำเนินการอย่างไร นายสมพงษ์ กล่าวว่า ซาอุฯ ไม่เคยบอกว่าเราต้องทำอะไร เพียงแต่สอบถามถึงความคืบหน้าในแต่ละคดี ตนก็เข้าใจดีเพราะนักธุรกิจที่หายไป มีภรรยาเป็นพระญาติของกษัตริย์ซาอุฯ ทำให้กษัตริย์ซาอุฯ เองก็ถูกทวงถามถึงความคืบหน้าของคดีอยู่เช่นกัน ซึ่งประเด็นการหายตัวไปของคนในครอบครัวมีประเด็นทางศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้อง ดังนั้น การทำคดีของฝ่ายไทยจะสำเร็จหรือไม่ก็ต้องแจ้งรายละเอียดให้เข้ารับรู้
ทางด้าน พล.ต.ท.ชลอ ให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมเป็นพยานให้ข้อมูลเพื่อคลี่คลาย 2 คดี เนื่องจากมีความมั่นใจในรัฐบาลชุดนี้ และผูกพันมานานกับครอบครัวของนายสมพงษ์ ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ยืนยันไม่มีข้อแลกเปลี่ยนหรือข้อเรียกร้องในการลดโทษ เพียงแต่ต้องการช่วยชาติให้ 2 คดีได้ข้อยุติ
พล.ต.ท.ชลอ กล่าวถึงความเป็นอยู่ในเรือนจำว่า วันนี้เป็นครั้งแรกหลังจากติดคุกมา 14 ปี ทำให้ตนรู้สึกเหมือนบรรยากาศเก่าๆ สำหรับตนใช้ชีวิตเหมือนนักโทษรายอื่น ไม่ได้อยู่ห้องแอร์ มีแต่แอร์กี่ และไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆ ดวงจันทร์หน้าตาเป็นอย่างไรยังนึกภาพไม่ได้ เพราะต้องเข้าเรือนนอนตั้งแต่บ่าย ออกมาอีกครั้งก็เช้าแล้ว ตอนนี้ย้ายมาอยู่แดนชราเพราะอายุมาก ได้รับผ่อนผันไม่ต้องทำงาน แต่มีโรคประจำตัวเรื่องข้อเข่าเสื่อม โรคหัวใจ และความดันสูง สภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำสบายดีตามอัตภาพ อยู่ร่วมเรือนนอนกับลูกน้องอดีตตำรวจที่ต้องโทษคุมขังอีก 2 คน หากมีโอกาสออกจากคุกจะไปทำไร่ยางพาราที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งตนซื้อที่ดินไว้กว่า 500 ไร่ จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชการ ตำรวจ หรือการเมืองอีก ยืนยันว่าตนไม่มีอภิสิทธิ์ในเรือนจำ สำหรับนักโทษซึ่งเคยตนถูกจับกุมตัวดำเนินคดีและถูกคุมขังในเรือนจำก็ได้อโหสิกันไปแล้ว
“สำหรับคุ้มพระลอที่ จ.ตาก ไม่เกี่ยวข้องกับวงการตำรวจ ได้โอนให้ลูกไปแล้ว โดยลูกของผมไม่อยู่ในวงการตำรวจหรือราชการ เป็นผู้รับเหมา ไม่มีอิทธิพลใดๆ อีกแล้ว ที่ผ่านมามีข่าวว่า คนเห็นผมออกไปนั่งในบาร์ ภรรยานั่งรถแท็กซี่มาด่าถึงในเรือนจำ นึกว่าหนีไปเที่ยว” พล.ต.ท.ชลอกล่าว
พล.ต.ท.ชลอ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของรายละเอียดในคดีความนั้น ตนได้ให้ข้อมูลกับดีเอสไอไปหมดแล้ว ที่ผ่านมาตนไม่แน่ใจในความจริงใจของรัฐบาล จึงไม่กล้าให้ข้อมูล แต่รัฐบาลนี้นายสมพงษ์มีความจริงใจและกระตือรือร้นมาก และเป็นครั้งแรกที่รมว.ยุติธรรมมาเยี่ยมตนถึงในคุก ส่วนเรื่องความปลอดภัยในเรือนจำนั้น คงไม่มีอะไรต้องห่วง ตอนนี้ตนก็เหมือนคนตายแล้ว ไม่มีอะไรต้องกลัว อีกทั้งกรมราชทัณฑ์ให้การดูแลเป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีฆ่านักการทูตซาอุฯ 4 ราย และคดีการหายตัวของนักธุรกิจซาอุฯ เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2531-2533 โดยดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษสมัยที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จากนั้นมีความพยายามจะรื้อฟื้นคดีอีกหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ซึ่งคดีฆ่านักการทูตศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง ส่วนคดีการหายตัวของนักธุรกิจซาอุฯ ซึ่งเกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ของฝ่ายไทยนั้น อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี ทำให้การรื้อฟื้นคดีจะทำได้ต่อเมื่อมีหลักฐานใหม่
วันนี้ (3 เม.ย.) เวลา 09.15 น.ที่เรือนจำกลางคลองเปรม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ และหัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีการหายตัวของนายอัลลู ไวรี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าพบ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีการหายตัวของนักธุรกิจชาวซาอุฯ โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำตัว พล.ต.ท.ชลอ จำเลยในคดีฆ่า 2 แม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ และคดียักยอกของกลางคดีเพชรซาอุฯ ออกจากแดน 4 ซึ่งเป็นแดนควบคุมตัวนักโทษสูงอายุออกมายังห้องผู้อำนวยการส่วนควบคุม เพื่อพูดคุยกับคณะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ภายหลังการพูดคุยกับ พล.ต.ท.ชลอ ประมาณ 20 นาที นายสมพงษ์ให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่ได้ร่วมเป็นพนักงานสอบสวนคดีในความรับผิดชอบของดีเอสไอ แต่ต้องการเข้าพบ พล.ต.ท.ชลอเพื่อขอบคุณในน้ำใจ ที่ช่วยให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนคดีเกี่ยวกับประเทศซาอุฯหลายคดี นอกจากนี้ ตนและพล.ต.ท.ชลอสนิทสนมกันดีเพราะ พล.ต.อ.สวัสดิ์พี่ชายของตนเป็นรุ่นพี่ของ พล.ต.ท.ชลอ จึงเคยพบปะกันมาตลอด
ทั้งนี้ การแก้ปัญหาความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ มีมาหลายรัฐบาล ตนจึงอยากทำให้เห็นถึงความจริงใจของฝ่ายไทยในการแก้ไขปัญหาคดีซาอุฯที่ยืดเยื้อมากว่า 18 ปี คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะในการหาหลักฐานใหม่เพิ่มเติม เพื่อส่งให้อัยการพิจารณาสำนวนจากนั้นจะเจรจาให้ซาอุฯ เห็นถึงความจริงใจของเรา และจะดูจิตใจของเขาว่าจะฟื้นความสัมพันธ์ด้านการค้ากับเราอย่างไร
“รายละเอียดที่เป็นหลักฐานใหม่ ซึ่งได้รับจาก พล.ต.ท.ชลอ ถือเป็นรายละเอียดในสำนวนคดี ผมยังเปิดเผยไม่ได้ เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องอาจเข้าไปทำลายหลักฐาน ซึ่งจะทำให้ยากต่อการดำเนินคดี” นายสมพงษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ระดับใด นายสมพงษ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของคดี จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะฟื้นความสัมพันธ์ได้ระดับใด โดยเร็วๆนี้ตนจะนัดหารือไม่เป็นทางการกับอุปทูตซาอุฯ และจะรับประทานข้าวหมกไก่ร่วมกัน
ต่อข้อถามที่ว่า ก่อนหน้านี้เคยหารือไม่เป็นทางการกับอุปทูตซาอุฯ มาแล้ว ทางซาอุฯ ระบุชัดหรือไม่ว่าต้องการให้ฝ่ายไทยดำเนินการอย่างไร นายสมพงษ์ กล่าวว่า ซาอุฯ ไม่เคยบอกว่าเราต้องทำอะไร เพียงแต่สอบถามถึงความคืบหน้าในแต่ละคดี ตนก็เข้าใจดีเพราะนักธุรกิจที่หายไป มีภรรยาเป็นพระญาติของกษัตริย์ซาอุฯ ทำให้กษัตริย์ซาอุฯ เองก็ถูกทวงถามถึงความคืบหน้าของคดีอยู่เช่นกัน ซึ่งประเด็นการหายตัวไปของคนในครอบครัวมีประเด็นทางศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้อง ดังนั้น การทำคดีของฝ่ายไทยจะสำเร็จหรือไม่ก็ต้องแจ้งรายละเอียดให้เข้ารับรู้
ทางด้าน พล.ต.ท.ชลอ ให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมเป็นพยานให้ข้อมูลเพื่อคลี่คลาย 2 คดี เนื่องจากมีความมั่นใจในรัฐบาลชุดนี้ และผูกพันมานานกับครอบครัวของนายสมพงษ์ ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ยืนยันไม่มีข้อแลกเปลี่ยนหรือข้อเรียกร้องในการลดโทษ เพียงแต่ต้องการช่วยชาติให้ 2 คดีได้ข้อยุติ
พล.ต.ท.ชลอ กล่าวถึงความเป็นอยู่ในเรือนจำว่า วันนี้เป็นครั้งแรกหลังจากติดคุกมา 14 ปี ทำให้ตนรู้สึกเหมือนบรรยากาศเก่าๆ สำหรับตนใช้ชีวิตเหมือนนักโทษรายอื่น ไม่ได้อยู่ห้องแอร์ มีแต่แอร์กี่ และไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆ ดวงจันทร์หน้าตาเป็นอย่างไรยังนึกภาพไม่ได้ เพราะต้องเข้าเรือนนอนตั้งแต่บ่าย ออกมาอีกครั้งก็เช้าแล้ว ตอนนี้ย้ายมาอยู่แดนชราเพราะอายุมาก ได้รับผ่อนผันไม่ต้องทำงาน แต่มีโรคประจำตัวเรื่องข้อเข่าเสื่อม โรคหัวใจ และความดันสูง สภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำสบายดีตามอัตภาพ อยู่ร่วมเรือนนอนกับลูกน้องอดีตตำรวจที่ต้องโทษคุมขังอีก 2 คน หากมีโอกาสออกจากคุกจะไปทำไร่ยางพาราที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งตนซื้อที่ดินไว้กว่า 500 ไร่ จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชการ ตำรวจ หรือการเมืองอีก ยืนยันว่าตนไม่มีอภิสิทธิ์ในเรือนจำ สำหรับนักโทษซึ่งเคยตนถูกจับกุมตัวดำเนินคดีและถูกคุมขังในเรือนจำก็ได้อโหสิกันไปแล้ว
“สำหรับคุ้มพระลอที่ จ.ตาก ไม่เกี่ยวข้องกับวงการตำรวจ ได้โอนให้ลูกไปแล้ว โดยลูกของผมไม่อยู่ในวงการตำรวจหรือราชการ เป็นผู้รับเหมา ไม่มีอิทธิพลใดๆ อีกแล้ว ที่ผ่านมามีข่าวว่า คนเห็นผมออกไปนั่งในบาร์ ภรรยานั่งรถแท็กซี่มาด่าถึงในเรือนจำ นึกว่าหนีไปเที่ยว” พล.ต.ท.ชลอกล่าว
พล.ต.ท.ชลอ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของรายละเอียดในคดีความนั้น ตนได้ให้ข้อมูลกับดีเอสไอไปหมดแล้ว ที่ผ่านมาตนไม่แน่ใจในความจริงใจของรัฐบาล จึงไม่กล้าให้ข้อมูล แต่รัฐบาลนี้นายสมพงษ์มีความจริงใจและกระตือรือร้นมาก และเป็นครั้งแรกที่รมว.ยุติธรรมมาเยี่ยมตนถึงในคุก ส่วนเรื่องความปลอดภัยในเรือนจำนั้น คงไม่มีอะไรต้องห่วง ตอนนี้ตนก็เหมือนคนตายแล้ว ไม่มีอะไรต้องกลัว อีกทั้งกรมราชทัณฑ์ให้การดูแลเป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีฆ่านักการทูตซาอุฯ 4 ราย และคดีการหายตัวของนักธุรกิจซาอุฯ เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2531-2533 โดยดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษสมัยที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จากนั้นมีความพยายามจะรื้อฟื้นคดีอีกหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ซึ่งคดีฆ่านักการทูตศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง ส่วนคดีการหายตัวของนักธุรกิจซาอุฯ ซึ่งเกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ของฝ่ายไทยนั้น อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี ทำให้การรื้อฟื้นคดีจะทำได้ต่อเมื่อมีหลักฐานใหม่