สวนสยามเสนอตัวไกล่เกลี่ย ถูกฟ้องแพ่ง 3 ล้าน ตัดใจยอมจ่าย 7 แสนให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตล่องแก่งมรณะ รวมทั้งรับปากจะส่งเสียบุตรให้เรียนจนจบปริญญาตรีด้วย
วันนี้ (24 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ นายชูเดช อรรถฮาด, น.ส.สุพัชรี อรรถฮาด และ ด.ญ.สุภากร อรรถฮาด ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายศุภลักษณ์ ทัดทอง, นาสยทศพล มากอุตสาห์, บริษัท อมรพันธุ์นคร-สวนสยาม จำกัด และ บริษัท กรุงเทพประกันภัยจำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1-4 เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหายจำนวน 3,036,000 บาท จากกรณีที่ นางพชฎาพร คงกระเรียน ภรรยาของนายชูเดช และเป็นมารดาของ น.ส.สุพัชรี และ ด.ญ.สุภากร เสียชีวิตจากการเล่นเครื่องเล่น อินเดียน่า ร็อค หรือล่องแก่ง เนื่องจากเครื่องเล่นขัดข้อง โดยมีจำเลยที่ 1-2 เป็นผู้ควบคุมเครื่องเล่น เหตุเกิดที่สวนสยาม เมื่อวันที่ 23 ต.ค.50 ที่ผ่านมา
นายเอนก คำชุ่ม ทนายจำเลยที่ 1-3 ได้แถลงต่อศาลว่า จำเลยมีความประสงค์จะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่เนื่องจากโจทก์ได้เรียกค่าเสียหายไว้สูง จึงอยากจะขอเจรจาไกล่เกลี่ย โดยจำเลยยินดีจะส่งเสียค่าเล่าเรียนบุตรสาวทั้ง 2 คน ของโจทก์จนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี และพร้อมจะชดใช้ค่าเสียหายให้ประมาณ 6-7 แสนบาท ขณะที่ นายวสันต์ กุลสุวรรณ ทนายโจทก์ แถลงว่าหากจำเลยชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวจริงก็ยอมรับได้ และยินดีจะถอดฟ้อง โดยนายเอนก รับว่าจะนำข้อตกลงดังกล่าวไปเสนอผู้บริหารของ บริษัท อมรพันธุ์ฯ เพื่อพิจารณา พร้อมจะนำตัวโจทก์ และผู้เกี่ยวข้องเข้าพบกับผู้บริหารของ บริษัท อมรพันธุ์ เพื่อทำการเจรจาค่าเสียหายด้วย
จากนั้น ศาลได้อ่านกระบวนการพิจารณาความว่า จากการไกล่เกลี่ยในเบื้องต้น ฝ่ายจำเลยยินยอมรับผิดชอบค่าเสียหายจำนวน 6-7 แสนบาท และส่งเสียบุตรของโจทก์ให้เรียนจบในระดับปริญญาตรี ฝ่ายโจทก์ยอมรับได้ โดยทนายจำเลยที่ 1-3 พร้อมนำฝ่ายโจทก์ไปเจรจาตกลงกับผู้บริษัทบริษัท อมรพันธุ์ฯ น่าเชื่อว่าจะสามารถตกลงกันได้ จึงเห็นควรให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากันก่อน พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าค่าเสียหายที่โจทก์เรียกนั้นได้ลดลงมามากแล้ว สมควรให้คู่ความได้เจรจากันเอง จึงให้เลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องออกไปเป็นวันที่ 21 เม.ย.51 เวลา 09.00 น.
ภายหลัง นายชูเดช กล่าวว่า สำหรับขอเสนอของฝ่ายจำเลยนั้นตนยอมรับได้ แต่ที่ผ่านมานั้นยังไม่มีการพูดคุยกันกับฝ่ายผู้บริหารสวนสยาม จึงต้องนำคดีมาฟ้องศาล ทั้งนี้ หากการเจรจาปรากฏว่ายังไม่สามารถตกลงกันได้ ก็ต้องกลับมาขอให้ศาลช่วยตัดสินอีกครั้ง
ด้าน นายเอนก คำชุ่ม ทนายความฝ่ายสวนสยาม กล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ควรจะจบตั้งแต่วันแรกๆ ในช่วงเกิดเหตุแล้ว แต่เนื่องจากเพิ่งทราบภายหลังการตายของนางพชฎาพรว่ามีนายชูเดชเป็นสามีเก่า และลูกสาวอีก 2 คนจึงทำให้เกิดความสับสน ซึ่งในวันนี้สามารถตกลงเจรจาชดใช้ค่าเสียหายในเบื้องต้นได้ ตนจะนัดให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากัน และนัดให้มารดาฝ่ายผู้ตายเข้าเจรจา ด้วยเพื่อให้ทุกฝ่ายรับรู้อีกด้วย สำหรับ น.ส.สุพัชรี หรือกุ้ง เรียนอยู่ชั้น ปวช.ปี 3 แผนกการบัญชี โรงเรียนเทคนิควิมลบริหารธุรกิจ ส่วน ด.ญ.สุภากร หรือน้องเบียร์ เรียนอยู่ชั้น ป.1 โรงเรียนประชาอุปถัมภ์
เหยื่อ “อินเดียนาร็อค” ฟ้อง “สวนสยาม” เรียกชดเชย 3 ล้าน
หนูน้อยเหยื่อล่องแก่งสวนสยามปลอดภัยแล้ว
สวนสยามยันชดใช้ไร้เงื่อนไข - “เอกพัน” โผล่พาลูกสาวเที่ยว
สวนสยามมอบทอง-บัตรฟรีตลอดชีพรับขวัญเหยื่อล่องแก่ง
ญาติร่ำไห้! รับศพเหยื่อล่องแก่งสวนสยาม - เรียกค่าเสียหาย 6 แสน
“ล่องแก่ง” สวนสยามสุดสยอง น้ำลดวูบเกยตื้นกระแทกดับ 1
เครื่องล่องแก่งสวนสยามหลุด เจ็บรวม 7 คนสาหัส 1 ราย
วันนี้ (24 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ นายชูเดช อรรถฮาด, น.ส.สุพัชรี อรรถฮาด และ ด.ญ.สุภากร อรรถฮาด ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายศุภลักษณ์ ทัดทอง, นาสยทศพล มากอุตสาห์, บริษัท อมรพันธุ์นคร-สวนสยาม จำกัด และ บริษัท กรุงเทพประกันภัยจำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1-4 เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหายจำนวน 3,036,000 บาท จากกรณีที่ นางพชฎาพร คงกระเรียน ภรรยาของนายชูเดช และเป็นมารดาของ น.ส.สุพัชรี และ ด.ญ.สุภากร เสียชีวิตจากการเล่นเครื่องเล่น อินเดียน่า ร็อค หรือล่องแก่ง เนื่องจากเครื่องเล่นขัดข้อง โดยมีจำเลยที่ 1-2 เป็นผู้ควบคุมเครื่องเล่น เหตุเกิดที่สวนสยาม เมื่อวันที่ 23 ต.ค.50 ที่ผ่านมา
นายเอนก คำชุ่ม ทนายจำเลยที่ 1-3 ได้แถลงต่อศาลว่า จำเลยมีความประสงค์จะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่เนื่องจากโจทก์ได้เรียกค่าเสียหายไว้สูง จึงอยากจะขอเจรจาไกล่เกลี่ย โดยจำเลยยินดีจะส่งเสียค่าเล่าเรียนบุตรสาวทั้ง 2 คน ของโจทก์จนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี และพร้อมจะชดใช้ค่าเสียหายให้ประมาณ 6-7 แสนบาท ขณะที่ นายวสันต์ กุลสุวรรณ ทนายโจทก์ แถลงว่าหากจำเลยชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวจริงก็ยอมรับได้ และยินดีจะถอดฟ้อง โดยนายเอนก รับว่าจะนำข้อตกลงดังกล่าวไปเสนอผู้บริหารของ บริษัท อมรพันธุ์ฯ เพื่อพิจารณา พร้อมจะนำตัวโจทก์ และผู้เกี่ยวข้องเข้าพบกับผู้บริหารของ บริษัท อมรพันธุ์ เพื่อทำการเจรจาค่าเสียหายด้วย
จากนั้น ศาลได้อ่านกระบวนการพิจารณาความว่า จากการไกล่เกลี่ยในเบื้องต้น ฝ่ายจำเลยยินยอมรับผิดชอบค่าเสียหายจำนวน 6-7 แสนบาท และส่งเสียบุตรของโจทก์ให้เรียนจบในระดับปริญญาตรี ฝ่ายโจทก์ยอมรับได้ โดยทนายจำเลยที่ 1-3 พร้อมนำฝ่ายโจทก์ไปเจรจาตกลงกับผู้บริษัทบริษัท อมรพันธุ์ฯ น่าเชื่อว่าจะสามารถตกลงกันได้ จึงเห็นควรให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากันก่อน พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าค่าเสียหายที่โจทก์เรียกนั้นได้ลดลงมามากแล้ว สมควรให้คู่ความได้เจรจากันเอง จึงให้เลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องออกไปเป็นวันที่ 21 เม.ย.51 เวลา 09.00 น.
ภายหลัง นายชูเดช กล่าวว่า สำหรับขอเสนอของฝ่ายจำเลยนั้นตนยอมรับได้ แต่ที่ผ่านมานั้นยังไม่มีการพูดคุยกันกับฝ่ายผู้บริหารสวนสยาม จึงต้องนำคดีมาฟ้องศาล ทั้งนี้ หากการเจรจาปรากฏว่ายังไม่สามารถตกลงกันได้ ก็ต้องกลับมาขอให้ศาลช่วยตัดสินอีกครั้ง
ด้าน นายเอนก คำชุ่ม ทนายความฝ่ายสวนสยาม กล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ควรจะจบตั้งแต่วันแรกๆ ในช่วงเกิดเหตุแล้ว แต่เนื่องจากเพิ่งทราบภายหลังการตายของนางพชฎาพรว่ามีนายชูเดชเป็นสามีเก่า และลูกสาวอีก 2 คนจึงทำให้เกิดความสับสน ซึ่งในวันนี้สามารถตกลงเจรจาชดใช้ค่าเสียหายในเบื้องต้นได้ ตนจะนัดให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากัน และนัดให้มารดาฝ่ายผู้ตายเข้าเจรจา ด้วยเพื่อให้ทุกฝ่ายรับรู้อีกด้วย สำหรับ น.ส.สุพัชรี หรือกุ้ง เรียนอยู่ชั้น ปวช.ปี 3 แผนกการบัญชี โรงเรียนเทคนิควิมลบริหารธุรกิจ ส่วน ด.ญ.สุภากร หรือน้องเบียร์ เรียนอยู่ชั้น ป.1 โรงเรียนประชาอุปถัมภ์
เหยื่อ “อินเดียนาร็อค” ฟ้อง “สวนสยาม” เรียกชดเชย 3 ล้าน
หนูน้อยเหยื่อล่องแก่งสวนสยามปลอดภัยแล้ว
สวนสยามยันชดใช้ไร้เงื่อนไข - “เอกพัน” โผล่พาลูกสาวเที่ยว
สวนสยามมอบทอง-บัตรฟรีตลอดชีพรับขวัญเหยื่อล่องแก่ง
ญาติร่ำไห้! รับศพเหยื่อล่องแก่งสวนสยาม - เรียกค่าเสียหาย 6 แสน
“ล่องแก่ง” สวนสยามสุดสยอง น้ำลดวูบเกยตื้นกระแทกดับ 1
เครื่องล่องแก่งสวนสยามหลุด เจ็บรวม 7 คนสาหัส 1 ราย