เสริมดวงรับปี “หนูเดี้ยง”

เชื่อว่าขณะนี้ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอรับปีใหม่ พ.ศ.2551 กันอย่างใจจดใจจ่อ เพราะนอกจากจะมีกินเลี้ยงเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสย่างเข้าสู่ศักราชใหม่และการซื้อของขวัญให้ตัวเองหรือคนที่รักแล้ว หลายๆ คนที่นิยมการดูดวง การทำนายสถานการณ์ความเป็นไปในปีหน้า ตลอดจนการเสริมดวงให้ชีวิตในปีหน้าเจริญรุ่งเรือง ต่างก็สอดส่ายสายตาหาหนังสือพยากรณ์หลากหลายรูปแบบตามแผงหนังสือบ้าง ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ในแขนงต่างๆ บ้าง

โดยเฉพาะกระแสการทำนายสถานการณ์ในปีหน้านี้ ค่อนข้างจะเป็นไปในเชิงลบ จนโหรหลายคนถึงกับตั้งสมญาปีหน้าเอาไว้ว่า “ปีหนูเดี้ยง” แต่โหรใหญ่อย่าง อ.ธนากร สินเกษม นายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และกูรูฮวงจุ้ย อย่าง อ.มาศ เคหาสน์ธรรม ก็ได้ให้คำแนะนำให้การแก้เคล็ด เสริมดวง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือปีหนูเดี้ยงด้วย

นายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวในเบื้องต้นก่อนจะแนะนำวิธีการแก้เคล็ดเสริมดวงว่า มนุษย์ทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง ไม่มีใครหลีกหนีพ้นกรรมไปได้ มีกรรมเป็นเครื่องกำหนดชีวิต 80% แต่อีก 20% ทุกคนจะต้องแสวงหาเอาเอง เช่นการเสริมชะตาด้วยสีเสื้อผ้า หรือการเลือกใส่อัญมณีที่เสริมดวงของเรา เป็นต้น

เสื้อผ้าสีมงคล-เครื่องประดับเสริมดวง
สำหรับ พ.ศ.2551 นี้ อ.ธนากรก็ได้แนะนำสีมงคลในการเลือกเสื้อผ้าและเครื่องประดับเพื่อการแต่งกาายและเสริมให้ผู้สวมใส่มีอำนาจวาสนาบารมีและเป็นสิริมงคลว่า สำหรับผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ในปีนี้ควรสวมเสื้อสีชมพู และเขียว สวมโกเมน, มรกต และหยกเป็นเครื่องเสริมดวง ผู้ที่เกิดวันจันทร์ ควรสวมเสื้อสีเขียว, ดำ, ม่วงและสวมมรกต, หยก, นิล เป็นอัญมณีเสริมดวง,
ผู้ที่เกิดวันอังคาร สวมเสื้อสีดำ, ม่วง,เ หลืองแก่, แสด, ส้ม จะเสริมบารมีแก่ตัวเอง ส่วนเครื่องประดับควรเป็นนิล และบุษราคัม ผู้ที่เกิดวันพุธ(กลางวัน) ควรสวมสีเหลืองแก่, แสด, ส้ม, น้ำตาล, เทา และสวมบุษราคัม หรือไพฑูรย์แล้วจะดี ผู้ที่เกิดพุธ (กลางคืน) สีนำโชคคือแดง, เลือดหมู, ขาวนวล, เหลืองอ่อน และมีทับทิม, ไข่มุกและเครื่องเงินเป็นเครื่องเสริมดวง
ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี สีฟ้า, คราม, น้ำเงินทะเล, แดง, เลือดหมู เป็นสีเสริมดวง ส่วนอัญมณีควรใช้ไพลิน และทับทิม ผู้ที่เกิดวันศุกร์ ควรสวมเสื้อผ้าสีขาวนวล, เหลืองอ่อน, ชมพู ส่วนเครื่องประดับควรใช้ไข่มุก, เครื่องเงิน, โกเมน และผู้ที่เกิดวันเสาร์ ควรสวมเสื้อผ้าสีน้ำตาล, เทา, ฟ้าคราม, น้ำเงิน, น้ำทะเล และสวมไพฑูรย์ และไพลินเป็นอัญมณีเสริมดวง

สิ่งของแก้เคล็ด-เสริมดวง
นอกจากสีเสื้อผ้าและอัญมณีที่จะสวมใส่ติดกายเพื่อเสริมดวงเสริมบารมีแล้ว ของประดับในบ้านก็มีส่วนช่วยแก้เคล็ดและเสริมดวงในด้านต่างๆ เช่นกัน อ.ธนากรก็ได้ให้คำแนะนำในการใช้สิ่งมงคลตกแต่งบ้านเสริมดวงผู้อยู่อาศัยเอาไว้หลายอย่าง เช่น กระดิ่ง – แขวนกระดิ่งเซรามิกหน้าบ้าน ทำให้กิจการต่างๆ ดีขึ้น,ยันต์แปดทิศ-ยันต์สิงห์คาบดาบ ใช้ติดหน้าบ้านสลายพลังร้าย เช่น ที่ทางสามแพร่ง เหลี่ยมคมของตึก เสาไฟฟ้า หรือทางลมพิฆาต (คือลมที่ลอดระหว่างบ้านหรือตึกสองหลัง) หรือการตกแต่งบ้านด้วยสัตว์สวรรค์ทั้งสี่ (มังกร กิเลน หงส์ เต่า) วางในบ้านหรือสำนักงาน จะเป็นภาพเขียน ฉากกั้น รูปปั้น เครื่องดินเผา เครื่องเคลือบ ไม้ หยก ก็ได้ ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยมีสุขภาพดี อายุยืน นำความราบรื่นมาสู่อาชีพ นอกจากนี้ก็มีสัตว์มงคลอื่นๆ เช่นกวางและนกกระเรียน หากมีไว้ในบ้านก็จะดีอีกด้วย

ของแต่งบ้านประเภทสัตว์คุ้มครอง เช่น เสือ ม้า สิงโต ควรนำภาพหรือรูปปั้นมาวางไว้ จะคุ้มครองผู้ที่อยู่อาศัย สัตว์ที่นำความสุขมาให้ เช่น ไก่ฟ้า (โชคลาภ),นกยูง (ความงามและศักดิ์ศรี), เป็ดแมนดาริน (ความซื่อสัตย์ต่อกัน),ไก่ตัวผู้ (ความอาจหาญ ป้องกันไฟไหม้และภูตผี) ส่วนผู้ที่ชอบสีเขียวและความร่มรื่นของต้นไม้ ก็มีต้นไม้มงคลสำหรับประดับบ้านเช่นกัน เช่น ต้นไผ่และต้นสน ที่มีความหมายไปในทางเดียวกันคือความยั่งยืนและอายุวัฒนะ หรือดอกไม้มงคล เช่นโบตั๋น ที่เป็นต้นไม้แห่งความมั่งคั่งและเกียรติยศ, เบญจมาศ เป็นเครื่องหมายของการใช้ชีวิตอย่างปล่อยวางตามสบาย, ดอกบัว เป็นเครื่องหมายของความผุดผ่อง
ด้านเกจิฮวงจุ้ยอย่างอ.มาส ผู้ขนานนามสมญานักษัตรปีนี้ว่า “หนูเดี้ยง” นั้น ระบุว่า เศรษฐกิจเมืองไทยในปีหน้านี้ยังคงแย่เหมือนเดิม เพราะปีชวดเป็นพลังน้ำ พลังธาตุดินในปีนี้จึงพิฆาตชวด น้ำคือความลื่นไหล พอมีอุปสรรคก็ไม่ลื่นไหล ปีนี้เป็นปีที่หนูถูกพิฆาต การเงินไม่คล่อง เศรษฐกิจชะงักงัน แต่ก็ยังมีทางแก้เคล็ดเสริมดวงด้านฮวงจุ้ยที่สามารถทำง่ายๆ ได้เองในบ้าน ซึ่งอ.มาศแนะนำว่า

ฮวงจุ้ยทิศในปีนี้
ด้านทิศตะวันออกของบ้าน ในปีนี้ควรแขวนโคมแดงหรือโคมสีชมพู หรือใช้หลอดประหยัดไฟสีหรือโคมกระดาษสีก็ยังได้ ปีนี้ประตูหน้าบ้านไหนหันทิศตะวันออก จะรับทรัพย์มาก,ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ควรตั้งต้นไม้สดให้ดูมีชีวิตชีวา จะเสริมชื่อเสียง เพิ่มความยินดี ฝ่ายตรวจสอบ การข่าว สรรพากร นั่งทำงานทิศนี้จะดีต่อการงาน,ทิศใต้ เป็นทิศที่ร้ายที่สุดในปีนี้ เป็นวิบัติทิศ ห้ามมีพัดลม ห้ามมีของเคลื่อนไหวในบริเวณทิศนี้ หากมีประตูบ้านอยู่ด้านนี้จะเคราะห์ร้ายตลอดปี แต่ก็สามารถแก้ได้ด้วยการแขวนกระดิ่ง 6 ข้อ ในทิศนี้ หรือตั้งวัตถุทรงกลมโลหะ เช่น ถังขยะสเตนเลสสองใบตั้งคู่กันไว้หน้าบ้าน
สำหรับทิศตะวันตกเฉียงใต้นั้น จะมีพลังของความแตกหัก โจรขโมย ของหาย ไม่ควรวางของมีค่าที่มุมนี้ หากนั่งทำงานในทิศนี้ ปีนี้จะไม่รุ่งเรือง มีโอกาสทะเลาะเบาะแว้ง จะหงุดหงิดง่าย วิธีแก้คือตั้งอ่างบัว หรืออ่างน้ำใบโตๆ ในทิศนี้ หรือหากไม่สะดวกก็สามารถใช่พรมสีน้ำเงิน ฟ้า แก้แทนก็ได้
ทิศตะวันตก เป็นทิศแห่งการนินทาว่าร้าย เสียชื่อเสียง และแทงข้างหลัง วิธีแก้คือควรหาคริสตัลหรือหินธรรมชาติทรงสูงปลายแหลมวางไว้ในทิศนี้ หรือจะจุดเทียนหรือตะเกียงหอมอโรมาเทอราปีในทิศนี้ก็ได้ ส่วนทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นทิศที่เกี่ยวกับความเจ็บป่วย ภูตผีวิญญาณ อาจจะมีการเห็นวิญญาณแวบๆ ในทิศนี้ แก้ได้ด้วยการตั้งโลหะวาวๆ ที่สะท้อนแสงได้
สำหรับทิศเหนือ เป็นทิศแห่งอำนาจ หากคนทำงานต้องการความก้าวหน้า ให้กระตุ้นทางทิศเหนือ ด้วยโลหะที่เคลื่อนที่ได้ เช่น ตั้งนาฬิกาลูกตุ้มโลหะ หรือพัดลมทองเหลือง ไว้ในทิศนั้นก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเจริญรุ่งเรืองในการทำงานและเลื่อนตำแหน่ง
“สำหรับทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นทิศแห่งเสน่ห์ หากต้องการประสบความสำเร็จเรื่องความรักให้นำต้นไม้แช่น้ำ เช่น ไผ่กวนอิม มาตั้งไว้ในทิศนี้ของห้อง หรือหากต้องการให้ลูกหลานประสบความสำเร็จด้านการศึกษาก็ควรให้นั่งอ่านหนังสือในทิศนี้” อ.มาศทิ้งท้าย