คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน เสนอ รัฐบาล และ ดีเอสไอ แสดงความจริงใจสอบสวนคดี"อุ้มทนายสมชาย"อย่างเป็นธรรม กล้าลงโทษ ตร.ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และให้ออกหมายเรียก "แม้ว" มาสอบปากคำและให้การเป็นพยาน พร้อมเรียกร้องรัฐบาลลงนามให้สัตยบรรณอนุสัญญาคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหายขององค์การสหประชาชาติปปี 49 เพื่อเป็นหลักประกันคุ้มครองคนไทย
วันนี้(12 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.50 น.ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.)ได้จัดเวทีแถลงข้อเสนอต่อรัฐบาลในหัวข้อ"4 ปีอุ้มหายทนายสมชาย นีละไพจิตร กับความรับผิดชอบของรัฐบาลไทย" เนื่องในวาระครบรอบ 4 ปี ที่ทนายสมชายถูกอุ้มหายตัวไป
โดยก่อนการแถลงข่าวเวทีดังกล่าวได้เปิดวีดีโอภาพในอดีตที่ทนายสมชายเคยเสวนาเรื่องสิทธิมนุษยชนใน 3 จังหวัดภาคใต้กับชาวมุสลิม ที่ศูนย์สันติชน ม.ราม เมื่อ 27 ก.พ.47 และได้เปิดสกู๊ปการหายตัวไปของนายสมชาย จากนั้น นางสาวประทับจิต นีละไพจิตร บุตรสาวของทนายสมชาย ได้อ่านถ้อยแถลงที่นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาทนายสมชาย ได้เขียนไว้และเป็นฉบับเดียวกันกับที่นางอังคณาได้นำไปยื่นต่อองค์การสหประชาชาติ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อให้ยูเอ็นติดตาม ตรวจสอบ กรณีคนหายในภาคใต้ และให้ยูเอ็นกระตุ้นรัฐบาลไทยให้เร่งคลี่คลายคดีการอุ้มฆ่าสมชาย โดยนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ โดยถ้อยแถลงดังกล่าวได้เรียกร้องต่อรัฐบาลและกรมสอบสวนคดีพิเศษ แสดงความจริงใจในการสอบสวนคดีอย่างโปร่งใสเป็นธรรม มีความยุติธรรมในขบวนการสอบสวน และกล้าลงโทษตำรวจระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากพบว่ามีพยานหลักฐานว่าบุคคลนั้นมีความผิดจริง และขอให้ดีเอสไอกล้าที่จะออกหมายเรียก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาสอบปากคำและให้การเป็นพยานกรณีที่มีคนใกล้ชิดเข้าไปค้นข้อมูลทะเบียนราษฎร์ที่มีรูปถ่ายหน้าตรงของทนายสมชายไปโดยไม่แจ้งเหตุผล และขอเรียกร้องให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการอธิบดีดีเอสไอ เร่งสะสางคดีทนายสมชายให้ความจริงปรากฏ และให้ดีเอสไอทำงานอย่างรัดกุม หาหลักฐานให้เพียงพอ เพื่อลงโทษคนผิดที่แท้จริง โดยไม่ต้องเร่งรีบนำเรื่องฟ้องร้อง โดยปราศจากพยานหลักฐานที่ชัดเจน ที่สำคัญเรียกร้องขอให้รัฐบาลลงนามให้สัตยบรรณอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหายขององค์การสหประชาชาติปปี 49 เพื่อเป็นหลักประกันคุ้มครองคนไทยไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการบังคับให้สูญหาย โดยการกระทำหรือรู้เห็นเป็นใจของเจ้าหน้าที่รัฐอีกต่อไป
ทางด้านนายสมชาย หอมลออ ประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน ได้กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะ ปปช. ให้เร่งคลี่คลายคดีอุ้มฆ่าและจับกุมตัวสิบนายตำรวจกองปราบที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้มาลงโทษ และเจ้าหน้าจะต้องทำงานให้โปร่งใส ไม่ใช่ตกอยู่ในความมืดเป็นองค์กรม่านเหล็ก