ผู้เสียหายแชร์ท่องเที่ยวอันดามันร้องดีเอสไอถูกหลอกให้ซื้อหุ้นโรงแรมแล้วปิดบริษัทหนีภายในเวลาเพียง 1 เดือน คาดมีผู้เสียหายกว่า 100 ราย สูญเงินรวมกว่า 20 ล้านบาท ด้านแชร์ข้าวสารพบมีการขู่พยานไม่ให้แจ้งความ ดีเอสไอเล็งออกหมายจับเพิ่ม
วันนี้ (9 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายศักดิ์ดา แซ่ลี้ พร้อมพวกกว่า 30 คนเดินทางเข้าพบ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดีเอสไอดำเนินคดีต่อบริษัท อันดามัน แฟรนไชส์ จำกัด ซึ่งฉ้อโกงประชาชนในรูปแบบแชร์ลูกโซ่ ด้วยการชักชวนให้นำเงินมาซื้อหุ้นร่วมลงทุนกับบริษัทที่ทำธุรกิจท่องเที่ยว รับจองโรงแรมที่พัก รีสอร์ท โดยเปิดให้สมาชิกซื้อหุ้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2550 หุ้นละ 600 บาท หลังซื้อหุ้น 20 วัน จะได้รับเงินปันผลงวดแรกหุ้นละ 400 บาท ต่อมาอีก 30 วัน จะได้รับเงินปันผลอีก 1,200 บาท นอกจากนี้ บริษัทยังแจกคูปองชิงโชคทองคำในแต่ละหุ้นด้วย ทั้งนี้ในช่วงแรกๆ บริษัทจ่ายเงินปันผลตรงเวลา แต่เริ่มมีปัญหาและปิดบริษัทหนีเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 คาดว่าการเปิดบริษัทแชร์ท่องเที่ยวอันดามันในช่วงระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน จะมีประชาชนถูกฉ้อโกงไปแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท เพราะผู้เสียหายบางรายหลงเชื่อนำเงินไปลงทุนเกือบ 1 ล้านบาท อีกทั้งแชร์ท่องเที่ยวนี้ยังมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับบริษัทท่องเที่ยวหลายแห่งในภาคใต้ ซึ่งมีวิธีระดมทุนคล้ายๆกัน
สำหรับบริษัท อันดามันแฟรนไชส์ จำกัด ตั้งอยู่ที่โรงแรมอันดามันบูติก ถนนรามคำแหง 93 เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จดทะเบียบตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2550 ด้วยทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท ทำธุรกิจให้บริการทางด้านการจัดทัวร์ จองโรงแรม รีสอร์ต สถานที่พักผ่อน ศูนย์สุขภาพ จองห้องพักและจัดสัมมนาทุกประเภทเกี่ยวกับการให้บริการ โดยบริษัททำสัญญาเช่าพื้นที่ของโรงแรมอันดามันบูติกเป็นรายเดือน และทำสัญญาเช่าไว้เพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น จากการตรวจยังพบว่า กลุ่มผู้บริหารบริษัท อันดามันแฟรนไชส์ ได้เปิดบริษัทในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายแห่ง และได้ปิดตัวลงในช่วงสั้นๆ จากนั้นก็จะเปิดบริษัทใหม่ในพื้นที่อื่น
พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า ผู้เสียหายได้นำรายชื่อสมาชิกกว่า 100 ราย เข้าร้องทุกข์กับดีเอสไอ ในเบื้องต้นจะเร่งสอบปากคำและรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการกับผู้บริหารของบริษัทที่ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากไม่มีการประกอบธุรกิจจริง แต่ใช้วิธีเช่าสถานที่ของโรงแรมแห่งหนึ่งเพื่อหลอกลวงประชาชนว่าจะนำเงินลงทุนมาพัฒนาโรงแรมและขยายกิจการท่องเที่ยวไปในต่างประเทศ โดยเจ้าของโรงแรมที่ให้เช่าพื้นที่ไม่รู้เห็นถึงโครงการดังกล่าวเลย ในส่วนของเรือสำราญที่นำไปโฆษณาระดมทุนก็ไม่มีจริง ทั้งนี้ ขอฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระวังบริษัทที่ตั้งขึ้นเพื่อหลอกลวง โดยจะใช้เวลาระดมทุนแค่ 1-2 เดือนแล้วจะปิดบริษัทหนี จึงอยากให้พิจารณาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในช่วงสั้นๆ ซึ่งต้องระมัดระวังให้มาก
สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนคดีแชร์ข้าวสารของบริษัท อีซี่เน็ตเวิร์ค มาร์เก็ตติ้ง จำกัด พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า การสอบสวนพบว่าหลายจังหวัดประชาชนที่เป็นสมาชิกแชร์อีซี่ถูกข่มขู่ ไม่ให้แจ้งความต่อดีเอสไอโดยขู่ว่าจะไม่ได้รับเงินปันผล จึงขอชี้แจงให้ประชาชนรับทราบว่าบริษัท อีซี่ ถูกเพิกถอนใบประกอบธุรกิจแล้ว หากประชาชนไม่เข้าแจ้งความก็จะไม่มีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนคืน นอกจากนี้ หากตรวจสอบพบว่ามีการข่มขู่หรือเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานอีก ดีเอสไอจะออกหมายจับทันที ในส่วนของพนักงานบริษัท อีซี่ฯ หากยังไม่เข้าให้การกับพนักงานสอบตามหมายเรียกครั้งที่ 2 ดีเอสไอก็จะออกหมายจับเช่นกัน สำหรับการป้องกันความเสียหายไม่ให้เกิดขึ้นกับประชาชนนั้น ดีเอสไอจะเชิญสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคและฝ่ายป้องปรามธุรกิจเงินนอกระบบ กระทรวงการคลัง มาหารือเพื่อวางมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทาง
วันนี้ (9 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายศักดิ์ดา แซ่ลี้ พร้อมพวกกว่า 30 คนเดินทางเข้าพบ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดีเอสไอดำเนินคดีต่อบริษัท อันดามัน แฟรนไชส์ จำกัด ซึ่งฉ้อโกงประชาชนในรูปแบบแชร์ลูกโซ่ ด้วยการชักชวนให้นำเงินมาซื้อหุ้นร่วมลงทุนกับบริษัทที่ทำธุรกิจท่องเที่ยว รับจองโรงแรมที่พัก รีสอร์ท โดยเปิดให้สมาชิกซื้อหุ้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2550 หุ้นละ 600 บาท หลังซื้อหุ้น 20 วัน จะได้รับเงินปันผลงวดแรกหุ้นละ 400 บาท ต่อมาอีก 30 วัน จะได้รับเงินปันผลอีก 1,200 บาท นอกจากนี้ บริษัทยังแจกคูปองชิงโชคทองคำในแต่ละหุ้นด้วย ทั้งนี้ในช่วงแรกๆ บริษัทจ่ายเงินปันผลตรงเวลา แต่เริ่มมีปัญหาและปิดบริษัทหนีเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 คาดว่าการเปิดบริษัทแชร์ท่องเที่ยวอันดามันในช่วงระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน จะมีประชาชนถูกฉ้อโกงไปแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท เพราะผู้เสียหายบางรายหลงเชื่อนำเงินไปลงทุนเกือบ 1 ล้านบาท อีกทั้งแชร์ท่องเที่ยวนี้ยังมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับบริษัทท่องเที่ยวหลายแห่งในภาคใต้ ซึ่งมีวิธีระดมทุนคล้ายๆกัน
สำหรับบริษัท อันดามันแฟรนไชส์ จำกัด ตั้งอยู่ที่โรงแรมอันดามันบูติก ถนนรามคำแหง 93 เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จดทะเบียบตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2550 ด้วยทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท ทำธุรกิจให้บริการทางด้านการจัดทัวร์ จองโรงแรม รีสอร์ต สถานที่พักผ่อน ศูนย์สุขภาพ จองห้องพักและจัดสัมมนาทุกประเภทเกี่ยวกับการให้บริการ โดยบริษัททำสัญญาเช่าพื้นที่ของโรงแรมอันดามันบูติกเป็นรายเดือน และทำสัญญาเช่าไว้เพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น จากการตรวจยังพบว่า กลุ่มผู้บริหารบริษัท อันดามันแฟรนไชส์ ได้เปิดบริษัทในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายแห่ง และได้ปิดตัวลงในช่วงสั้นๆ จากนั้นก็จะเปิดบริษัทใหม่ในพื้นที่อื่น
พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า ผู้เสียหายได้นำรายชื่อสมาชิกกว่า 100 ราย เข้าร้องทุกข์กับดีเอสไอ ในเบื้องต้นจะเร่งสอบปากคำและรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการกับผู้บริหารของบริษัทที่ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากไม่มีการประกอบธุรกิจจริง แต่ใช้วิธีเช่าสถานที่ของโรงแรมแห่งหนึ่งเพื่อหลอกลวงประชาชนว่าจะนำเงินลงทุนมาพัฒนาโรงแรมและขยายกิจการท่องเที่ยวไปในต่างประเทศ โดยเจ้าของโรงแรมที่ให้เช่าพื้นที่ไม่รู้เห็นถึงโครงการดังกล่าวเลย ในส่วนของเรือสำราญที่นำไปโฆษณาระดมทุนก็ไม่มีจริง ทั้งนี้ ขอฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระวังบริษัทที่ตั้งขึ้นเพื่อหลอกลวง โดยจะใช้เวลาระดมทุนแค่ 1-2 เดือนแล้วจะปิดบริษัทหนี จึงอยากให้พิจารณาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในช่วงสั้นๆ ซึ่งต้องระมัดระวังให้มาก
สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนคดีแชร์ข้าวสารของบริษัท อีซี่เน็ตเวิร์ค มาร์เก็ตติ้ง จำกัด พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า การสอบสวนพบว่าหลายจังหวัดประชาชนที่เป็นสมาชิกแชร์อีซี่ถูกข่มขู่ ไม่ให้แจ้งความต่อดีเอสไอโดยขู่ว่าจะไม่ได้รับเงินปันผล จึงขอชี้แจงให้ประชาชนรับทราบว่าบริษัท อีซี่ ถูกเพิกถอนใบประกอบธุรกิจแล้ว หากประชาชนไม่เข้าแจ้งความก็จะไม่มีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนคืน นอกจากนี้ หากตรวจสอบพบว่ามีการข่มขู่หรือเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานอีก ดีเอสไอจะออกหมายจับทันที ในส่วนของพนักงานบริษัท อีซี่ฯ หากยังไม่เข้าให้การกับพนักงานสอบตามหมายเรียกครั้งที่ 2 ดีเอสไอก็จะออกหมายจับเช่นกัน สำหรับการป้องกันความเสียหายไม่ให้เกิดขึ้นกับประชาชนนั้น ดีเอสไอจะเชิญสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคและฝ่ายป้องปรามธุรกิจเงินนอกระบบ กระทรวงการคลัง มาหารือเพื่อวางมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทาง