xs
xsm
sm
md
lg

ก่อนความฝันจะล่มสลาย….กับแสตมป์ อภิวัชร์

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย


สถานการณ์ทางการเมืองกำลังร้อนระอุ ไม่รู้จะจบลงเช่นไร อย่างไร และ ก็ได้แต่เกาะติดสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด และลุ้นระทึกตามไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชุมนุมภายใต้การนำของหลวงปู่พุทธอิสระ ที่เวที กปปส. แจ้งวัฒนะ ที่ดูจะเข้มข้นกว่าเวทีอื่นๆการตามข่าวบ้านเมืองในช่วงนี้เป็นอะไรที่ต้องลุ้นกันตลอดเวลา

แต่ทว่าการตามข่าวมากๆ บางครั้งอาจจะเกิดความเครียดขึ้นมาได้โดนไม่รู้ตัว วันนี้ผมขอหยิบเรื่องเบาๆ มาเขียน เป็นเรื่องของชายหนุ่มที่มีชื่อว่า แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข นักร้องนักแต่งเพลงคนดังแห่ง ค่ายเลิฟอีส (Love is)

ประวัติแสตมป์โดยย่อ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข (ชื่อเล่น "แสตมป์") เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมพ.ศ. 2525 เป็นนักร้อง นักดนตรี และนักแต่ง เป็นชาวกรุงเทพมหานคร สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สนใจด้านดนตรีตั้งแต่วัยเยาว์ เล่นคีย์บอร์ดและกีตาร์ ในระหว่างการเรียนในมหาวิทยาลัย เขาได้มีโอกาสประพันธ์เพลงประกอบละคอนถาปัดร่วมกับเพื่อนตั้งเป็นวงดนตรี และส่งไปทางสถานีวิทยุคลื่น 104.5 (แฟตเรดิโอ) เขาจึงพลิกผันเข้าสู่วงการดนตรีนับแต่นั้น และได้ร่วมวงกล้วยไทยวงแนวนูเมทัลในตำแหน่งมือกีต้าร์ ต่อมาได้ย้ายไปอยู่วงเซเว่นธ์ซีนในฐานะนักร้องนำ สังกัดค่ายเลิฟอีส และออกอัลบั้มแรกในชื่อเดียวกับวง ในปี พ.ศ. 2548

นอกจากงานด้านการร้องเพลงและเล่นดนตรีแล้ว อภิวัชร์ยังมีความสามารถในด้านการแต่งเพลง โดยแต่งเพลงให้กับนักร้องและโฆษณาหลายรายการ มีผลงานอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกคือ มิลเลียนเวส์ทูไรท์พาร์ต 1 ออกจำหน่ายในปี พ.ศ. 2551 และได้จัดคอนเสิร์ต แสตมป์เกรียนเดย์ ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2556 อีกด้วย

สำหรับคนรุ่นใหม่คงรู้จักผลงานด้านคนตรีและเพลงของชายคนนี้ดีอยู่แล้ว แสตมป์ยังมีงานเขียนหนังสือชื่อ” ก่อนความฝันจะล่มสลาย” ตีพิมพ์เมื่อปีที่ ทำให้ได้รู้จักตัวตนของชายคนนี้มากขึ้น

สิ่งสำคัญที่เห็นได้ชัดจากหนังสือเล่มนี้คือ ชายที่มีความมุ่งมั่นเดินตามความฝันอย่างไม่ท้อถอย แม้มันจะเหนื่อยยากและลำบากมากขนาดไหน เขาเป็นคนมีความตั้งใจสูง

หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่มีฝันแล้วอาจจะท้อในการเดินตามความฝัน หรือใครที่อยากมีไฟในการใช้ชีวิตก็ลองไปซื้อมาอ่านได้ครับ เป็นงานเขียนที่มีเนื้อหาถ้อยคำลีลาอ่านเพลินทีเดียวครับ

ในหนังสือยังพูดถึงเบื้องหลังเพลงต่างๆของเขา ว่าได้รับแรงบันดาลใจยังไง ทำไมทำออกมาแบนั้น ถ้าจะให้ดีลองเปิดเพลงของเขาฟังตามไปด้วยขณะอ่านครับ รับรองว่าอินมากแน่ๆ ผมชอบหลายเพลงของเขา

เพลงโปรดเช่นเพลง แอนนิเมชั่น อ่านชื่อเพลงแล้วหลายคนอาจจะคิดถึงเรื่องของหนังการ์ตูนหรือแอนนิเมชั่นอะไรพวกนั้น แต่จริงๆแล้วเพลงนี้พูดถึงความเปลี่ยนแปลงเหมือนภาพเคลื่อนไหว ทุกอย่างเปลี่ยนไปทุกวัน อย่างความสวยงามของสาวๆ พอแก่ไปก็เหี่ยวไปตามกาลเวลาไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน เพลงนี้ผมว่ามันเตือนสติให้เห็นสัจธรรมของการเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรคงที่หยุดนิ่ง ผมเคยตั้งเป็นริงโทนมือถือตัวเองอยู่พักนึงเลยทีเดียว

เพลงความคิด เพลงนี้ทำแสตมป์ดังระเบิด เพราะได้มาประกอบภาพยนตร์ A moment in June ความหมายของเพลงก็เจ๋งอีกด้วย พูดถึงความรักที่ต้องเก็บเอาไว้อยู่ในความคิดของเรา แถมแสตมป์ยังเอาทำนองเพลงนี้ไปใช้ทำเพลงแปลงเพลงล้อเลียนมากมายในเวลาต่อมา

อีกเพลงหนึ่งที่ผมชอบมากคือเพลงที่ชื่อว่า 20,000 ซึ่งมาจากจำนวนวันที่คนเราจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ แล้วเราจะใช้มันไปอย่างสูญเปล่า หรือ อย่างมีคุณค่าต่อคนรอบข้าง อันนี้ก็อยู่ที่ตัวเราแล้วละครับว่าจะใช้ชีวิตของเรายังไง

เพลงอย่าง ชายกลาง จากอัลบั้มล่าสุดก็เป็นอีกเพลงที่ทำออกมาได้เจ๋งมาก เนื้อหาว่าด้วยเรื่องของความรักในมุมที่ต่างออกไป คือการถามคุณผู้หญิงว่าคุณจะรักผู้ชายกลางๆได้ไหม ผู้ชายที่อาจจะไม่รวยมาก ไม่หล่อเหมือนดารา ก็แค่ผู้ชายกลางๆ

เพลงที่ผมชอบสุดของแสตมป์ก็คือเพลงที่มีชื่อว่าโอมจงเงย พูดถึงคนในสมัยนี้ที่เอาแต่กดมือถือ นั่งขำนั่งหัวเราะคนเดียว จนบางทีการนัดกันมาเดทหรือมาทานข้าวกัน แต่กลับไม่ได้พูดคุยสนทนากัน จนต้องพนมมือตั้งจิตภาวนาขอให้เธอช่วยเงยหน้ามาคุยกับฉันสักหน่อย

พูดถึงชายคนนี้และผลงานของเขาแล้ว สิ่งที่เขาสื่อสารออกมาถึงผู้ฟัง ทำให้อดอมยิ้มไม่ได้ ต้องขอขอบคุณแสตมป์มากที่ทำเพลงออกมาได้ดีน่าสุขใจมาก สมกับความคิดของแสตมป์ที่ว่า ดนตรีมันมีเสน่ห์มันขยับเขยื้อนโลกได้ และต้องขอบคุณไปยังคุณบอยด์ โกสิยพงษ์ ที่ดึงชายคนนี้เข้าสู่วงการนักร้องนักแต่งเพลง ทำให้ผมได้ฟังเพลงที่เต็มไปด้วยสีสัน

แสตมป์ดังเป็นพลุแตก เมื่อเป็นโค้ช ในรายการเดอะว้อยซ์ไทยแลนด์ ด้วยรอยยิ้มจริงใจและทัศนะความคิดมุมมองที่เป็นบวก การใช้ถ้อยคำภาษาที่ตกผลึกงดงาม เขาทำหน้าที่ได้โดนใจจริงๆครับ

สำหรับนักฟังเพลง โปรดซื้อแผ่นจริงมาฟัง การที่เราสนับสนุนศิลปินคนนั้นจริงๆ อย่าคิดเพียงเอาสะดวกโดยไม่คิดถึงคนอื่น ศิลปินเองก็ต้องกินต้องใช้เหมือนเรา การซื้อแผ่นจริงเรื่องลิขสิทธ์เป็นเรื่องสำคัญมาก กว่าจะได้ผลงานมาในแต่ละเพลงมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ ไงก็ขอให้กำลังใจคนวงการเพลงตรงส่วนนี้ด้วยครับ



กำลังโหลดความคิดเห็น