“หลวงปู่พุทธะอิสระ” รับแอบลุ้นข้อเสนอ “มาร์ค” ว่าจะมีทางออกใหม่เพื่อลดความสูญเสีย สุดท้ายก็เป็นแนวทางเดิมของ กปปส. เชื่อทางออกเดียวคือ มาตรา 3 ถวายคืนพระราชอำนาจ เผยหลังเดินทางกลับจากหัวหินจะคืนถนนแจ้งวัฒนะให้ประชาชน ถอนมวลชนเข้าไปอยู่ในศูนย์ราชการ
หลวงปู่พระพุทธะอิสระ แกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) เวทีศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ กล่าวถึงข้อเสนอ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอทางออกประเทศ 4 ข้อ เพื่อยุติปัญหาขัดแย้งทางการเมืองว่า ข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นแนวทางเดิมของ กปปส. ซึ่งมีเป้าหมายคือ ต้องมีการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ที่ผ่านมา ลุ้นมาตลอดว่า นายอภิสิทธิ์ อาจจะมีทางออกใหม่ๆ เพื่อไม่เกิดการเผชิญหน้าระหว่าง กปปส.และ นปช.หรือแม้แต่การเสียสละตัวเอง และถอยจากการเมือง แต่แล้วก็เป็นข้อเสนอเดิมของ กปปส. ดังนั้น ทุกเวทีควรต้องมีทางลง หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดว่า นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีมีความผิดโดยยังออก พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งไม่ทัน เหลือแต่วุฒิสภา หากจะทำงานโดยเสนอชื่อบุคคลเพื่อเป็นนายกฯ คนเสื้อแดงก็ไม่ยอม ข้อเสนอรัฏฐาธิปัตย์รัฐบาลก็ไม่ยอม ทหารหรือตำรวจก็ไม่เอา
“ถึงวันนี้จึงไม่ควรมาสร้างเงื่อนไขเพิ่มขึ้น แต่ควรหันหน้ามาพูดคุยเพื่อหาทางร่วมกันนั่นคือ การใช้มาตรา 3 ถวายคืนพระราชอำนาจ ซึ่งเป็นทางออกเดียวที่จะลดความสูญเสีย จึงอยากเชิญไปยังแกนนำคนเสื้อแดงให้ออกมาร่วมกันเพื่อจะไม่ต้องเกิดความสูญเสียหากมีการเผชิญหน้ากันระหว่างคน 2 กลุ่ม”
หลวงปู่พุทธะอิสระ ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเคลื่อนมวลชนไปถวายฎีกาตามมาตรา 3 ว่า เบื้องต้นได้ส่งการ์ดไปสำรวจเส้นทาง และจะประสานไปยังสถานีตำรวจ ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ที่จะเป็นเส้นทางผ่านของมวลชนเพื่อร่วมกันวางมาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่มวลชน โดยหลังจากกลับจากเดินทางถวายพระราชอำนาจแล้วจะคืนถนนแจ้งวัฒนะให้ประชาชนเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจร โดยจะย้ายเวทีเข้าด้านในศูนย์ราชการ
ส่วนที่ครอบครัวของ พ.อ.วิทวัส วัฒนกุล รอง ผอ.กองวิเทศสัมพันธ์ สำนักวิเทศสัมพันธ์ กรมข่าวทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เตรียมแถลงรายละเอียดที่ พ.อ.วิทวัส ถูกการ์ดแจ้งวัฒนะทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ และแจ้งความไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะที่ผ่านมา มีการพบปะพูดคุยกับผู้บังคับบัญชา และขอขมาไปล้ว และผู้บังคับบัญชาของนายทหารคนดังกล่าวก็ไม่ติดใจ ดังนั้น จึงต้องรอดูว่าครอบครัวจะแจ้งความดำเนินคดีข้อหาใดบ้าง
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของการ์ด เราก็พร้อมรับผิดชอบ ส่วนครอบครัวผู้เสียหายจะนำหลักฐานวงจรปิดมาเปิดเผยด้วยนั้น เวทีแจ้งวัฒนะไม่มีภาพวงจรปิดขณะที่มีการทำร้ายร่างกายมีเพียงกล้องที่จับภาพรื้อบังเกอร์ได้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตั้งข้อสังเกตว่ามีความพยายามในการนำประเด็นดังกล่าวมาสร้างสถานการณ์เพื่อลดความน่าเชื่อถือของเวทีแจ้งวัฒนะ และสกัดกั้นการเคลื่อนขบวนไปถวายคืนพระราชอำนาจ”