ทีมงาน ศอ.รส.เผยผลประชุม ยันให้ความสำคัญเลือกตั้ง มโนยุติขัดแย้ง ทั่วโลกยอมรับ ปชต. แจงบังคับใช้ กม.จริงจังขวางเลือกตั้ง รวม 371 คดี ขุดเหตุ กปปส.เป็นฝ่ายกระทำ มาขยี้ซ้ำ เพื่อเตือน ปชช.อย่าร่วมชุมนุม สั่งผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ป้องกันความเสียหาย พนง.ร่วมม็อบ ขู่ระบบสาธารณูปโภคเสียหายต้องรับโทษ ขอบคุณคืนที่ มท.-แจ้งวัฒนะ
วันนี้ (6 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) น.ส.สิริมา สุนาวิน คณะทำงานศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงผลการประชุม ศอ.รส.ว่า ศอ.รส.ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เนื่องจากการเลือกตั้งจะทำให้ความขัดแย้งของมวลชนกลุ่มต่างๆ ยุติลง และนำมาซึ่งความสงบเรียบร้อยของประเทศ อีกทั้งการเลือกตั้งยังเป็นหลักสากลอันเป็นที่ยอมทั่วโลกในวิถีทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และ ศอ.รส.มีนโยบายในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับผู้กระทำผิดฐานขัดขวางการเลือกตั้ง โดยวันนี้ (6 พ.ค.) ศอ.รส.ได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า คดีที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งอันเกิดจากการกระทำของแกนนำ กปปส.กับพวก เมื่อการเลือกตั้งวันที่ 2 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1. คดี กปปส.ขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 191 คดี แยกเป็นคดีที่เกิดในกรุงเทพมหานคร 51 คดี และคดีที่เกิดในต่างจังหวัด 140 คดี 2. คดีเจ้าหน้าที่ กกต.จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้ง รวมทั้งสิ้น 180 คดี แยกเป็นคดีที่เกิดในกรุงเทพมหานคร 66 คดี และคดีที่เกิดในต่างจังหวัด 114 คดี รวมคดีที่เกี่ยวกับการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งทั้งสิ้น 371 คดี โดยศาลได้ออกหมายจับให้ 203 หมาย ได้ตัวมาสอบสวนแล้ว 280 คน ทั้งนี้เฉพาะเจ้าหน้าที่ กกต.จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้งมีจำนวนถึง 1,713 คน
น.ส.สิริมากล่าวต่อว่า ศอ.รส.ขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบถึงความรุนแรงของกลุ่ม กปปส.ที่ได้กระทำการขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อครั้งที่ผ่านมา โดยในวันเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ประชาชนรายหนึ่งได้ถูกกลุ่ม กปปส.ยิงได้รับบาดเจ็บที่หน่วยเลือกตั้งวัดเสมียนนารี จนต้องพักรักษาตัวนานถึง 4 เดือน ศอ.รส.ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัดแล้ว ทั้งนี้ ศอ.รส.ขอเตือนพี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อการชักจูงของแกนนำ กปปส.ที่ให้กระทำการขัดขวางการเลือกตั้งซ้ำอีก เพราะหากมีการกระทำผิดในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นอีก ผู้กระทำผิดทุกคนจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย
น.ส.สิริมากล่าวว่า ตามที่ ศอ.รส.ได้รับข้อมูลว่ากลุ่ม กปปส.จะใช้พนักงาน และเจ้าหน้าที่ของรัฐวิสาหกิจหลายแห่งเข้าร่วมดำเนินการให้เกิดความเสียหาย และเดือดร้อนแก่ระบบสาธารณูปโภค หรือกิจการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อเป็นการสนับสนุนหรือช่วยเหลือการกระทำผิดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวกนั้น ศอ.รส.ได้มีหนังสือถึงผู้บริหาร และประธานกรรมการบริหารของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เพื่อสั่งการให้ดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อป้องกันและแก้ไขเหตุดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 12 พ.ค.นี้ นอกจากนี้ ศอ.รส.ยังได้เตรียมการรับมือเหตุดังกล่าวเพื่อป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอีกด้วย ทั้งนี้ ศอ.รส.ขอเตือนว่าผู้ที่ร่วมกระทำการให้เกิดความเสียหาย และเดือดร้อน แก่ระบบสาธารณูปโภคทุกคนจะต้องรับผิดตามกฎหมายโดยไม่มีการละเว้น
นอกจากนี้ ศอ.รส.ขอชื่นชมฝ่ายทหารและตำรวจที่ได้ดำเนินการเจรจากับกลุ่ม กปปส.เพื่อขอคืนพื้นที่บริเวณกระทรวงมหาดไทยได้สำเร็จโดยไม่มีความรุนแรงใดๆ และศอ.รส.ขอขอบคุณแกนนำ กปปส.ที่ยอมคืนพื้นที่ดังกล่าว และย้ายผู้ชุมนุมไปยังสวนลุมพินี ซึ่งจะทำให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยสามารถเข้าทำงานได้ตามปกติเพื่อประโยชน์ของทางราชการ รวมถึงขอขอบคุณพระพุทธอิสระ ที่ได้ประกาศว่าจะคืนพื้นที่การชุมนุมบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ โดยจะย้ายไปชุมนุมที่บริเวณหน้าอาคารบี ในศูนย์ราชการแทน การย้ายพื้นที่ชุมนุมดังกล่าวจะช่วยแก้ไขปัญหาจราจรและลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุรุนแรงต่างๆ ได้