“สุรพงษ์” หวั่นมือที่สามป่วนชุมนุมแก๊งเสื้อแดง สั่ง “วรพงษ์” ใช้ ฮ.ตรวจสถานการณ์อ้างอยู่ใกล้เขตพระราชทาน หวั่ง กปปส.-นปช.ไม่เผชิญหน้า ยันนายกฯเกาะติดสถานการณ์ตลอด เย้ย “สุเทพ” ยิ่งชุมนุมคนยิ่งน้อยควรเลิกได้แล้ว เพื่อความสงบสุขของประเทศชาติ เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็ว
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.และ นปช.ว่า จากการติดตาม นปช.มีการเคลื่อนไหวกลุ่มคนเข้ามาจำนวนมาก โดย นปช.มีการจัดเตรียมสถานที่การชุมนุมได้เป็นระเบียบเรียบร้อย คิดว่าเหตุการณ์ร้ายคงไม่เกิดขึ้น ล่าสุดได้รับรายงานกลุ่มผู้ชุมนุมที่นำโดยหลวงปูพุทธะอิสระ ได้นำมวลชนประมาณ 550 คน เดินทางปิดถนนตั้งแต่ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยปิดช่องทางการจราจร 1 ช่องทาง ซึ่งไม่ทราบว่าจะทำอะไรกัน แต่หวังว่าจะไม่เกิดการปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองกลุ่ม
ทั้งนี้ห่วงมือที่สามที่อาจเข้ามาก่อเหตุการณ์ หวังว่าทางทหาร ตำรวจ จะดูแลความเรียบร้อย โดยได้กำชับ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจ หากเป็นไปได้อาจต้องใช้เฮลิคอปเตอร์บินตรวจและดูแลสถานการณ์ เพราะบริเวณดังกล่าวใกล้เขตพระราชฐาน หากเกิดเหตุอะไรขึ้นมาจะได้ดูแลรักษาความปลอดภัยได้ทันเหตุการณ์ แต่หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นและคิดว่าการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่ประกาศใช้เวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 5-7 เม.ย.นี้ คงจะสงบลงได้
ส่วนการที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ประกาศจะนำมวลชนอยู่ในที่ตั้ง 5-6 เม.ย.นี้ จะทำให้การดูแลสถานการณ์ง่ายขึ้นหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ง่ายขึ้น เป็นสิ่งที่ดี หากนายสุเทพ จะชุมนุมอยู่ในที่ตั้ง ตนไม่อยากเห็นการเผชิญหน้าระหว่างกัน ยิ่งอยู่ห่างไกลกันเท่าไรยิ่งดี สะดวกต่อการดูแล และตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรที่ผิดปกติ ซึ่งทาง ศอ.รส.จะดูการรายงานอย่างใกล้ชิด และตนจะรายงานสถานการณ์ให้นายกฯรับทราบ ซึ่งนายกฯได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยก่อนหน้านี้นายกฯได้กำชับให้ ศอ.รส.ให้ใช้มาตรฐานเดียวกันในการดูแลรักษาความปลอดภัยต่อสองฝ่าย ต้องให้ความเป็นธรรม ไม่ให้เกิดความวุ่นวายหรือความรุนแรง ไม่ให้เลือกปฏิบัติ ซึ่งตนได้กำชับทางตำรวจ-ทหารไปแล้ว และทั้งสามวันนี้จะมีวอร์รูมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลได้มีการติดตามการเคลื่อนไหวของนายสุเทพ ที่ระบุว่าสองวันนี้จะเป็นการประชุมหารือเพื่อเคลื่อนไหวกดดันนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นายสุเทพ พยายามเรียกร้องให้เกิดการชุมนุมใหญ่ ซึ่งก็ทำมาหลายครั้งแล้ว แต่ละครั้งคนลดน้อยลง ซึ่งเราไม่กังวลต่อสิ่งที่นายสุเทพจะมาเรียกร้องหรือประท้วงอะไร เพราะไม่ได้อยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ไม่มีรัฐธรรมนูญรองรับ วันนี้สังคมเห็นสิ่งที่นายสุเทพเรียกร้องเป็นไปไม่ได้ที่จะดำเนินการตามนั้น และแนวทางการปฏิรูปของนายสุเทพ ที่ทำกันขึ้นมาถือเป็นความคิดของคนกลุ่มเดียว ซึ่งแนวทางการปฏิรูปที่แท้จะต้องมีความเห็นจากหลายฝ่าย และเป็นความต้องการที่ตรงกันของประชาชนทั้งประเทศไม่ใช่มวลมหาประชาชนที่นายสุเทพคิด และวันนี้มวลมหาประชาชนที่ว่านี้เหลือแค่ 30,000 คน
“ขอให้ประชาชนที่เป็นกลางไม่มาร่วมชุมนุม ไม่ควรเข้ามาใกล้สถานที่ชุมนุม ขอให้รับฟังข้อมูลทั้งสองด้าน โดยใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลต่างๆ ด้วยใจที่เป็นกลาง คำนึงถึงความสงบของประเทศชาติ ที่ควรจะเกิดได้แล้ว หากยังชุมนุมต่อไปอีกกว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่ ประเทศชาติจะเสียหายมาก รัฐบาลใหม่ที่มาจะทำงานลำบากในการสร้างความเชื่อมั่นและฟื้นคืนเศรษฐกิจ ดังนั้นอยากจะเรียกร้องให้ทุกคนในประเทศหันหน้าหากันได้แล้ว หมดเวลาการชุมนุมของนายสุเทพ ที่จะยืดเยื้ออีกต่อไป เพราะผ่านมา 5 เดือนไม่ประสบความสำเร็จ อาจจะสำเร็จในความคิดของนายสุเทพ แต่ประเทศชาติไม่ได้อะไรจากการชุมนุมประท้วงของนายสุเทพเลย ถ้านายสุเทพ ยุติการชุมนุมเศรษฐกิจประเทศจะได้ฟื้นคืนมา และทันทีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้มีการเลือกตั้งจะเป็นอีกแรงในการผลักดันให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็วเช่นกัน”
