“ปตท.” รายได้ 7 แสนล้าน แต่กำไรไตรมาส 1 วูบ 8.3 พันล้าน หรือ 23% จากการบริโภค และการลงทุนที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมหดตัว 52% โดยเฉพาะภาคธุรกิจปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์ที่โอเวอร์ซัปพลาย หลังกำลังผลิตใหม่จากจีน และซาอุดีอาระเบียล้นตลาด
บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) (PTT) รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงถึงผลดำเนินงานไตรมาส 1/2557 ว่า บริษัท และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิลดลง 8,356 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.3 จากกำไรสุทธิ 35,804 ล้านบาทในไตรมาส 1/56 หรือคิดเป็น 12.52 บาทต่อหุ้น โดยเป็นกำไรสุทธิ 27,448 ล้านบาทในไตรมาส 1/57 หรือคิดเป็น 9.60 บาทต่อหุ้น
ภาพรวมไตรมาส 1/57 ปตท. และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจำนวน 716,571 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/56 จำนวน 16,707 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.4 โดยส่วนใหญ่มาจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจน้ำมัน และกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ แม้ว่าราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบดูไบ ลดลงจาก 108.2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลใน ไตรมาส 1/56 เป็น 104.5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในไตรมาส 1/57
ขณะที่กำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น และรายได้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน (EBITDA) เพิ่มขึ้นจำนวน 7,157 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.5 มาจากผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ จาก Feed cost ที่ปรับลดลง และกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศจากกำไรที่เพิ่มขึ้นจากคอนเดนเสท
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้กำไรไตรมาส 1/57 ของ ปตท.ลดลงนั้น มาจากการบริโภค และการลงทุนที่ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนี้ รายได้จากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมในไตรมาส 1/57 จำนวน 4,583 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 1/2556 จำนวน 4,985 ล้านบาท หรือร้อยละ 52.1 จากผลการดำเนินงานที่ลดลงของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและกลุ่มธุรกิจการกลั่น
โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์ลดลงจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ (Spread Margin) ของ Palaxylene ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากไตรมาส 1/56 เนื่องจากภาวะอุปทานส่วนเกินของ Palaxylene ที่อยู่ในระดับสูง จากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นในจีน และซาอุดีอาระเบีย ประกอบกับความต้องการ Palaxylene เริ่มชะลอตัวลงตามอุปสงค์ที่ลดลงของสาร PTA
อีกทั้งผลการดำเนินงานสายโอเลฟินส์ลดลงเช่นกัน เนื่องจากในระหว่างไตรมาส 1/57 โรงโอเลฟินส์ และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องมีการหยุดผลิตจากการปิดซ่อมตามแผนของโรงโอเลฟินส์ I-1 และการปิดซ่อมฉุกเฉินของโรงโอเลฟินส์ I4-1 ของ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) รวมทั้งผลกระทบจากอุบัติเหตุฟ้าผ่าของโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 5 ของปตท. ส่งผลให้ปริมาณผลิต และปริมาณขายลดลง แม้ว่า Spread Margin จะปรับเพิ่มขึ้นก็ตาม
ส่วนด้านธุรกิจการกลั่นมีผลการดำเนินงานที่ลดลง จาก Spread Margin ของน้ำมันสำเร็จรูปทุกผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของจีน และความต้องการนำเข้าน้ำมันของประเทศในแถบเอเชียเหนือ และยุโรปลดลงจากฤดูหนาวที่อบอุ่นขึ้น ประกอบกับผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 1/57 ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 2,690 ล้านบาท ลดลง 4,329 ล้านบาท จาก 7,019 ล้านบาทในไตรมาส 1/56 หรือร้อยละ 61.7 เนื่องจากในไตรมาส 1/57 ค่าเงินบาทเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นในสัดส่วนที่น้อยกว่าไตรมาส 1/56 นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/57 ปตท. และบริษัทย่อยมีภาษีเงินได้ จานวน 13,067 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/56 จำนวน 3,557 ล้านบาท หรือร้อยละ 37.4
โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 57 ปตท. และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 1,779,380 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 932,929 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 846,451 ล้านบาท
