กรมควบคุมโรคพบชายอายุ 72 ปี เข้าข่ายเฝ้าระวังโรคเมอร์ส-โควี แล้ว 1 ราย หลังเดินทางไปซาอุดีอาระเบีย ล่าสุดยังอยู่ห้องแยกเชื้อ ด้าน สธ. ยันมีระบบเฝ้าระวังเข้ม หากพบผู้ป่วยเข้าข่ายส่งตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการ ระบุขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าว
วันนี้ (24 เม.ย.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีแนวโน้มพบผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ 2012 หรือ เมอร์ส-โควี ใน 13 ประเทศ รวมถึงมาเลเซียและฟิลิปปินส์ ว่า สธ. จัดระบบเฝ้าระวังทุกจังหวัด ในกลุ่มผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด และผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลัน และผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ และมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเข้าข่ายสงสัย หากพบจะปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันควบคุมการแพร่กระจายเชื้อในสถานพยาบาลในระดับสูงสุดเช่นเดียวกับโรคซาร์ส และมอบให้กรมควบคุมโรค (คร.) วางแผนการเฝ้าระวัง สอบสวนและควบคุมโรคอย่างเข้มข้น และส่งสารคัดหลั่งและเลือดเพื่อตรวจยืนยันเชื้อทางห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทุกราย
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเมอร์ส-โควี ส่วนผู้ป่วยปอดบวมที่พบเกิดจากติดเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรียทั่วๆ ไป แต่ต้องขอความร่วมมือประชาชนทุกคนที่เดินทางไปหรือมาจากประเทศตะวันออกกลาง หลังจากเดินทางถึงไทย 30 วัน หากป่วยมีไข้ ไอ เจ็บคอ ให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดูแลและควบคุมป้องกันโรค
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดี คร. กล่าวว่า ขณะนี้ คร. พบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าข่ายเฝ้าระวังเชื้อเมอร์ส-โควี จำนวน 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 72 ปี ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยวิธีการตรวจแยกสายพันธุกรรม หรือพีซีอาร์ พบว่า เป็นโรคไข้หวัดใหญ่เทียม โดยรายนี้มีโรคประจำตัว ได้แก่ เบาหวาน ความดัน และโรคหัวใจ มีประวัติเดินทางไปซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 15 - 19 เม.ย. 2557 ป่วยเป็นไข้หวัดก่อนเดินทาง และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในซาอุดีอาระเบียด้วยอาการหัวใจเต้นผิดปกติ หลังเดินทางกลับไทย วันที่ 19 เม.ย. มีอาการขาบวม เหนื่อยมากขึ้น และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แล้วถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐตามต้นสังกัด อาการหลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล มีไข้สูง 38.6 องศาเซลเซียส เหนื่อยมาก และมีอาการบวม ปัจจุบันอยู่ในห้องแยกเชื้อ และอาการทั่วไปปกติ
วันนี้ (24 เม.ย.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีแนวโน้มพบผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ 2012 หรือ เมอร์ส-โควี ใน 13 ประเทศ รวมถึงมาเลเซียและฟิลิปปินส์ ว่า สธ. จัดระบบเฝ้าระวังทุกจังหวัด ในกลุ่มผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด และผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลัน และผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ และมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเข้าข่ายสงสัย หากพบจะปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันควบคุมการแพร่กระจายเชื้อในสถานพยาบาลในระดับสูงสุดเช่นเดียวกับโรคซาร์ส และมอบให้กรมควบคุมโรค (คร.) วางแผนการเฝ้าระวัง สอบสวนและควบคุมโรคอย่างเข้มข้น และส่งสารคัดหลั่งและเลือดเพื่อตรวจยืนยันเชื้อทางห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทุกราย
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเมอร์ส-โควี ส่วนผู้ป่วยปอดบวมที่พบเกิดจากติดเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรียทั่วๆ ไป แต่ต้องขอความร่วมมือประชาชนทุกคนที่เดินทางไปหรือมาจากประเทศตะวันออกกลาง หลังจากเดินทางถึงไทย 30 วัน หากป่วยมีไข้ ไอ เจ็บคอ ให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดูแลและควบคุมป้องกันโรค
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดี คร. กล่าวว่า ขณะนี้ คร. พบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าข่ายเฝ้าระวังเชื้อเมอร์ส-โควี จำนวน 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 72 ปี ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยวิธีการตรวจแยกสายพันธุกรรม หรือพีซีอาร์ พบว่า เป็นโรคไข้หวัดใหญ่เทียม โดยรายนี้มีโรคประจำตัว ได้แก่ เบาหวาน ความดัน และโรคหัวใจ มีประวัติเดินทางไปซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 15 - 19 เม.ย. 2557 ป่วยเป็นไข้หวัดก่อนเดินทาง และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในซาอุดีอาระเบียด้วยอาการหัวใจเต้นผิดปกติ หลังเดินทางกลับไทย วันที่ 19 เม.ย. มีอาการขาบวม เหนื่อยมากขึ้น และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แล้วถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐตามต้นสังกัด อาการหลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล มีไข้สูง 38.6 องศาเซลเซียส เหนื่อยมาก และมีอาการบวม ปัจจุบันอยู่ในห้องแยกเชื้อ และอาการทั่วไปปกติ
