ในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญก็ยอมให้นายกฯ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขยายระยะเวลายื่นคำให้การในคดีการย้ายคุณถวิล เปลี่ยนศรีโดยมิชอบออกไปได้อีกตามที่ขอ โดยสิ้นสุดในวันที่ 2 พฤษภาคม คือวันศุกร์นี้
จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญจะทำการไต่สวนในวันที่ 6 ซึ่งก็ได้หมายเรียกนายกฯ มาให้การเองด้วยและในวันนั้น ก็เป็นไปได้ว่าศาลจะนัดฟังคำวินิจฉัย
ซึ่งจากคำให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ปู ก็ไม่ชัดเจนว่าเธอจะมาให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเองหรือไม่ หรือจะตั้งตัวแทนมา ซึ่งกรณีนี้ก็มีข้อสงสัยว่า การตั้งตัวแทนมาให้การในศาลเองนั้นจะทำได้หรือไม่? เพราะคดีนี้เป็นเรื่องที่นายกฯ ถูกกล่าวหาโดยตรง และการพิจารณาคดีนั้นจะต้องพิจารณาเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้อำนาจ และเจตนาในการใช้อำนาจของนายฯ ในฐานะ “บุคคลผู้ใช้อำนาจ”
แตกต่างจากคดีอื่น ที่พิจารณาการกระทำในฐานะที่เป็นรัฐบาล จึงจะให้รองนายกฯ หรือกฤษฎีกาไปศาลแทนได้
ถ้าเทียบในคดีอาญาก็เหมือนกับจำเลยถูกกล่าวหาว่าลักทรัพย์ จะให้เลขาไปศาลแล้วเบิกความแทนได้อย่างไร? ที่ผ่านมาในคดีอดีตนายกฯ นายสมัคร สุนทรเวชที่เคยพ้นตำแหน่งเพราะชิมไปบ่นไป คุณสมัครก็มาให้การต่อศาลเอง
อย่างไรก็ตาม การไม่ไปศาลเอง ก็ย่อมเป็นความเสียเปรียบส่วนตัวเอง เพราะถ้าศาลประสงค์จะทราบ “เจตนาภายใน” ของการเห็นชอบในคำสั่งย้ายคุณถวิล แต่ถ้าให้คนอื่นมาแทน ศาลก็ถามไม่ได้ และก็คงไม่ถาม เพราะไม่รู้จะถามทำไม รองนายกฯ หรือกฤษฎีกาจะรู้ไหมว่า นายกฯ คิดอะไร หรือมีเจตนา มีเหตุผลอย่างไร
ช่างเถิด เรื่องของใคร ใครกลัวศาล ใครทำอะไรเองก็ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นทำแทนตลอดแม้แต่การไปชี้แจงที่ศาลก็ช่างปะไร เสียหายก็ตกได้แก่ตัวเขาเอง
แต่หน่วยงานอย่าง ศอ.รส.ที่ตั้งขึ้นมา และใช้ภาษีของประชาชนที่ผ่านมานั้น มีผลงานอะไร และทำงานอะไรบ้าง และบทบาทที่ควรจะทำของ ศอ.รส.คืออะไร
ศอ.รส.ตั้งขึ้นมาตามกฎหมายคือพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551
วัตถุประสงค์ของการมี ศอ.รส.ตามกฎหมายดังกล่าว สรุปได้ว่า ให้เป็นหน่วยงานกลางที่ตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการประสานงาน กำหนดมาตรการระหว่างหน่วยราชการต่างๆ เพื่อการดำเนินการเพื่อป้องกัน ควบคุม แก้ไข และฟื้นฟูสถานการณ์ที่เป็นภัยหรืออาจเป็นภัยก่อให้เกิดความไม่สงบสุข ทำลาย หรือทำความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐให้กลับสู่สภาวะปกติเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือความมั่นคงของรัฐ
แต่ ศอ.รส.ได้ดำเนินการอะไรให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายนั้นแล้วหรือไม่?หากการกระทำที่ปรากฏออกมาประจักษ์ต่อประชาชน หน่วยงานนี้กลับทำเป็นเหมือนกระบอกเสียงของรัฐบาล หรือบางทีคำแถลงเกือบไม่ต่างจากบทบาทของพวก นปช.เลยด้วยซ้ำ
นอกจากการออฟไซด์ก้าวก่ายอำนาจการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ และการตรวจสอบกรณีทุจริตของคณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้ว ก็ปรากฏว่า งานของ ศอ.รส.เหมือนกับตั้งใจจะเป็นปฏิปักษ์แต่กับ กปปส. และมวลชนเสมอมา
เช่นการกล่าวหาว่า กปปส.แจ้งวัฒนะ ไปยิงระเบิดใส่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์เนื่องจากลงข่าวการปะทะกันที่แจ้งวัฒนะ
หรือความพยายามในการทำให้การตายของ “ไม้หนึ่ง ก.กุนที” กวีฝั่งเสื้อแดงที่ถูกลอบสังหารโหดในร้านอาหารย่านลาดปลาเค้า ซึ่งขนาดตำรวจยังไม่กล้าสรุปว่ามาจากเหตุใด เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นกวีเสื้อแดงที่ทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล แต่คุณไม้หนึ่งก็เป็นเหมือนฝ่ายศิลปินหรือนักเขียนของทางฝั่งเสื้อแดงที่ไม่มีบทบาทอะไรสูงนักทางการเป็นแกนนำ ดังนั้นจึงไม่น่าจะตกเป็นเป้าเพื่อลอบสังหารในทางการเมืองได้
ตำรวจจึงยังไม่อาจสรุปได้ว่าสาเหตุมาจากอะไรแน่ๆ แต่ทาง ศอ.รส.พยายามพูดอ้อมๆเสียแล้วว่า การสังหารไม้หนึ่ง จะเป็น “ชนวนเหตุที่ทำให้ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่างๆ ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จึงขอเรียกร้องให้แกนนำอย่าได้ปลุกระดมมวลชนให้เกิดความรู้สึกต่อต้านหรือเกลียดชังอีกฝ่าย และขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟังข่าวสารต่างๆ”
จริงๆ ประชาชนอาจจะมีวิจารณญาณมาก่อน ยังไม่มีใครคิดจะทำอะไร จนกระทั่ง ศอ.รส.นี่แหละไปชี้ช่องให้เสียอย่างนั้น
ส่วนกรณีที่การ์ดแจ้งวัฒนะทำร้ายนายทหารยศพันเอกได้รับบาดเจ็บนั้น หากเป็นจริง ก็ควรจะต้องมีการสอบสวนลงโทษ หรือปรับปรุงแผนการรักษาความปลอดภัยให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเข้าใจผิดกันได้อีก
ซึ่งอันนี้ทางฝ่ายกองทัพเองซึ่งอาจจะถือว่าเป็นผู้เสียหายก็เถอะ ยังไม่ได้มีการแถลงอะไรในเรื่องนี้เลย
แต่ ศอ.รส.จัดให้ก่อนแล้วด้วยการแถลงการณ์ประณาม กปปส.แจ้งวัฒนะอย่างรุนแรง ทั้งๆ ที่เมื่อวันเดียวกัน ก็เกิดระเบิดลงที่หน้าศาลปกครอง และก่อนหน้านี้ก็มีการยิงใส่บ้านปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ที่ไม่ได้ไปร่วมประชุม “สอบกำลัง” ของ ศอ.รส.ในครั้งก่อน) แต่ ศอ.รส.ก็ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวอะไรกับเรื่องนี้ นอกจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบตามเรื่อง
หรือกรณีที่กลุ่มโกตี๋ ประกาศจะยิงการ์ด กปปส. แล้วก็มีการลงมือจริงที่ทางด่วนแจ้งวัฒนะ จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ก็ยังจับใครไม่ได้
หรือกระทั่งตัวนายโกตี๋เองที่ทำเรื่องงามหน้าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นอกจากออกประกาศสั่งให้ตำรวจจับ ไปขอหมายจับกันมาแก้บนแล้ว
ตอนนี้จับโกตี๋ได้หรือยัง หรือมีเบาะแสหรือยังว่าหมอหนีไปซ่อนที่ไหน?
แล้วจะไม่ให้ประชาชนสงสัยได้อย่างไร ว่า ศอ.รส.มีหน้าที่อะไรกันแน่ มีไว้เพื่อคุ้มครองป้องกันความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศสมชื่อ หรือเป็นเพียงอีกหนึ่งองค์กรที่เอาไว้ปกป้องเป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาล
จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญจะทำการไต่สวนในวันที่ 6 ซึ่งก็ได้หมายเรียกนายกฯ มาให้การเองด้วยและในวันนั้น ก็เป็นไปได้ว่าศาลจะนัดฟังคำวินิจฉัย
ซึ่งจากคำให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ปู ก็ไม่ชัดเจนว่าเธอจะมาให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเองหรือไม่ หรือจะตั้งตัวแทนมา ซึ่งกรณีนี้ก็มีข้อสงสัยว่า การตั้งตัวแทนมาให้การในศาลเองนั้นจะทำได้หรือไม่? เพราะคดีนี้เป็นเรื่องที่นายกฯ ถูกกล่าวหาโดยตรง และการพิจารณาคดีนั้นจะต้องพิจารณาเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้อำนาจ และเจตนาในการใช้อำนาจของนายฯ ในฐานะ “บุคคลผู้ใช้อำนาจ”
แตกต่างจากคดีอื่น ที่พิจารณาการกระทำในฐานะที่เป็นรัฐบาล จึงจะให้รองนายกฯ หรือกฤษฎีกาไปศาลแทนได้
ถ้าเทียบในคดีอาญาก็เหมือนกับจำเลยถูกกล่าวหาว่าลักทรัพย์ จะให้เลขาไปศาลแล้วเบิกความแทนได้อย่างไร? ที่ผ่านมาในคดีอดีตนายกฯ นายสมัคร สุนทรเวชที่เคยพ้นตำแหน่งเพราะชิมไปบ่นไป คุณสมัครก็มาให้การต่อศาลเอง
อย่างไรก็ตาม การไม่ไปศาลเอง ก็ย่อมเป็นความเสียเปรียบส่วนตัวเอง เพราะถ้าศาลประสงค์จะทราบ “เจตนาภายใน” ของการเห็นชอบในคำสั่งย้ายคุณถวิล แต่ถ้าให้คนอื่นมาแทน ศาลก็ถามไม่ได้ และก็คงไม่ถาม เพราะไม่รู้จะถามทำไม รองนายกฯ หรือกฤษฎีกาจะรู้ไหมว่า นายกฯ คิดอะไร หรือมีเจตนา มีเหตุผลอย่างไร
ช่างเถิด เรื่องของใคร ใครกลัวศาล ใครทำอะไรเองก็ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นทำแทนตลอดแม้แต่การไปชี้แจงที่ศาลก็ช่างปะไร เสียหายก็ตกได้แก่ตัวเขาเอง
แต่หน่วยงานอย่าง ศอ.รส.ที่ตั้งขึ้นมา และใช้ภาษีของประชาชนที่ผ่านมานั้น มีผลงานอะไร และทำงานอะไรบ้าง และบทบาทที่ควรจะทำของ ศอ.รส.คืออะไร
ศอ.รส.ตั้งขึ้นมาตามกฎหมายคือพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551
วัตถุประสงค์ของการมี ศอ.รส.ตามกฎหมายดังกล่าว สรุปได้ว่า ให้เป็นหน่วยงานกลางที่ตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการประสานงาน กำหนดมาตรการระหว่างหน่วยราชการต่างๆ เพื่อการดำเนินการเพื่อป้องกัน ควบคุม แก้ไข และฟื้นฟูสถานการณ์ที่เป็นภัยหรืออาจเป็นภัยก่อให้เกิดความไม่สงบสุข ทำลาย หรือทำความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐให้กลับสู่สภาวะปกติเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือความมั่นคงของรัฐ
แต่ ศอ.รส.ได้ดำเนินการอะไรให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายนั้นแล้วหรือไม่?หากการกระทำที่ปรากฏออกมาประจักษ์ต่อประชาชน หน่วยงานนี้กลับทำเป็นเหมือนกระบอกเสียงของรัฐบาล หรือบางทีคำแถลงเกือบไม่ต่างจากบทบาทของพวก นปช.เลยด้วยซ้ำ
นอกจากการออฟไซด์ก้าวก่ายอำนาจการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ และการตรวจสอบกรณีทุจริตของคณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้ว ก็ปรากฏว่า งานของ ศอ.รส.เหมือนกับตั้งใจจะเป็นปฏิปักษ์แต่กับ กปปส. และมวลชนเสมอมา
เช่นการกล่าวหาว่า กปปส.แจ้งวัฒนะ ไปยิงระเบิดใส่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์เนื่องจากลงข่าวการปะทะกันที่แจ้งวัฒนะ
หรือความพยายามในการทำให้การตายของ “ไม้หนึ่ง ก.กุนที” กวีฝั่งเสื้อแดงที่ถูกลอบสังหารโหดในร้านอาหารย่านลาดปลาเค้า ซึ่งขนาดตำรวจยังไม่กล้าสรุปว่ามาจากเหตุใด เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นกวีเสื้อแดงที่ทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล แต่คุณไม้หนึ่งก็เป็นเหมือนฝ่ายศิลปินหรือนักเขียนของทางฝั่งเสื้อแดงที่ไม่มีบทบาทอะไรสูงนักทางการเป็นแกนนำ ดังนั้นจึงไม่น่าจะตกเป็นเป้าเพื่อลอบสังหารในทางการเมืองได้
ตำรวจจึงยังไม่อาจสรุปได้ว่าสาเหตุมาจากอะไรแน่ๆ แต่ทาง ศอ.รส.พยายามพูดอ้อมๆเสียแล้วว่า การสังหารไม้หนึ่ง จะเป็น “ชนวนเหตุที่ทำให้ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่างๆ ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จึงขอเรียกร้องให้แกนนำอย่าได้ปลุกระดมมวลชนให้เกิดความรู้สึกต่อต้านหรือเกลียดชังอีกฝ่าย และขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟังข่าวสารต่างๆ”
จริงๆ ประชาชนอาจจะมีวิจารณญาณมาก่อน ยังไม่มีใครคิดจะทำอะไร จนกระทั่ง ศอ.รส.นี่แหละไปชี้ช่องให้เสียอย่างนั้น
ส่วนกรณีที่การ์ดแจ้งวัฒนะทำร้ายนายทหารยศพันเอกได้รับบาดเจ็บนั้น หากเป็นจริง ก็ควรจะต้องมีการสอบสวนลงโทษ หรือปรับปรุงแผนการรักษาความปลอดภัยให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเข้าใจผิดกันได้อีก
ซึ่งอันนี้ทางฝ่ายกองทัพเองซึ่งอาจจะถือว่าเป็นผู้เสียหายก็เถอะ ยังไม่ได้มีการแถลงอะไรในเรื่องนี้เลย
แต่ ศอ.รส.จัดให้ก่อนแล้วด้วยการแถลงการณ์ประณาม กปปส.แจ้งวัฒนะอย่างรุนแรง ทั้งๆ ที่เมื่อวันเดียวกัน ก็เกิดระเบิดลงที่หน้าศาลปกครอง และก่อนหน้านี้ก็มีการยิงใส่บ้านปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ที่ไม่ได้ไปร่วมประชุม “สอบกำลัง” ของ ศอ.รส.ในครั้งก่อน) แต่ ศอ.รส.ก็ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวอะไรกับเรื่องนี้ นอกจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบตามเรื่อง
หรือกรณีที่กลุ่มโกตี๋ ประกาศจะยิงการ์ด กปปส. แล้วก็มีการลงมือจริงที่ทางด่วนแจ้งวัฒนะ จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ก็ยังจับใครไม่ได้
หรือกระทั่งตัวนายโกตี๋เองที่ทำเรื่องงามหน้าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นอกจากออกประกาศสั่งให้ตำรวจจับ ไปขอหมายจับกันมาแก้บนแล้ว
ตอนนี้จับโกตี๋ได้หรือยัง หรือมีเบาะแสหรือยังว่าหมอหนีไปซ่อนที่ไหน?
แล้วจะไม่ให้ประชาชนสงสัยได้อย่างไร ว่า ศอ.รส.มีหน้าที่อะไรกันแน่ มีไว้เพื่อคุ้มครองป้องกันความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศสมชื่อ หรือเป็นเพียงอีกหนึ่งองค์กรที่เอาไว้ปกป้องเป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาล