xs
xsm
sm
md
lg

กะหรี่กับหญิงชั่ว...มันต่างกัน

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย

ต้องขอย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ก่อนโน้น หลายคนคงได้ดู ได้ฟัง ได้อ่าน ที่คุณสนธิพูดในรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิไปแล้ว โดยเฉพาะประเด็นเรื่องของไซซี หญิงสาวผู้เสียสละต่อชาติบ้านเมือง ในขณะที่บ้านเมืองเรามีเรื่องคุณชัย ราชวัตร พูดถึงเรื่องกะหรี่ขายตัว หญิงคนชั่วเร่ขายชาติ จนเป็นเรื่องพูดคุยแสดงความคิดเห็นกันในโซเชียลเน็ตเวิร์กต่อเนื่องกันมาหลายวัน

ที่เขียนเรื่องนี้ช้าเพราะสัปดาห์ก่อนผมเขียนเรื่องการศึกษาไปเสียก่อนแล้ว ในประเด็นเรื่องของการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ก็เลยต้องเก็บเรื่องนี้ไว้นำมาเขียนในสัปดาห์นี้แทน

สืบเนื่องจากเรื่องของแม่นางไซซีนี้ ในวงสนทนาผมก็ได้พูดคุยกับคุณอาท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้รอบรู้ด้านภาษาอังกฤษ ท่านยกวลีของนักคิดนักเขียนตะวันตกที่พูดถึงสถานะของกะหรี่อย่าง Bertrand Russell ที่ว่า Prostitute is a side pillar of society แปลว่า โสเภณีนั้นเป็นเสาค้ำสังคม เป็นวลีที่ให้ความสำคัญกับอาชีพหญิงขายบริการ

ผมได้พูดคุยและถกกับคุณอาท่านนี้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมว่าอาชีพหญิงขายบริการเป็นความเป็นจริงที่ดำรงอยู่ในสังคม และเป็นอาชีพหนึ่งที่คงอยู่ในสังคมมา เป็น ทั้งอดีตและปัจจุบันของสังคมมนุษย์ทั่วโลก

โสเภณี หรือกระหรี่นั้นจริงๆแล้วก็เป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่งที่ใช้ร่างกายมาเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับสิ่งตอบแทนบางอย่างไม่ว่าจะเงิน หน้าที่การงาน หรืออะไรก็ตามที่เธอตกลงกับชายคนที่เธอหลับนอนด้วย

ในหลายสังคมรวมทั้งกรณีเมืองไทย คนส่วนมากมักมองภาพหญิงขายบริการไม่ค่อยดีนัก แต่สำหรับบางประเทศเรื่องนี้ถูกกฏหมาย ถือเป็นสิทธิส่วนตัวของหญิงที่เลือกหรือจำเป็นต้องทำอาชีพนี้ เมื่อมีผู้ซื้อบริการทางเพศ ก็ยังมีผู้ขายบริการทางเพศ และเมื่อมันถูกกฏหมาย ก็ทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาๆไป

หลายครั้งที่มีการถกกันเรื่องการมีโสเภณีในสังคม มักจะมีผู้ลงความเห็นว่า มันก็ทำให้เกิดการถ่วงดุลสังคมไว้ ทำให้ประเทศนั้นๆมีคดีข่มขืนน้อยลง มีการตรวจตราหรือดูแลโสเภณีอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะการตรวจสุขภาพให้พวกเธอ การดูและสถานที่ให้บริการที่ต้องสะอาดสะอ้านพร้อมรับแขก เพื่อป้องกันคดีอาชญากรรมทางเพศ การบังคับขืนใจผู้หญิงมาขายบริการของพวกแมงดาแม่เล้า และป้องกันการแพร่เชื้อโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ร้ายแรง เช่นโรคเอดส์

ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่จัดว่ามีโสเภณีจำนวนมาก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มองประเทศเราเป็นแหล่งท่องเที่ยวขายบริการทางเพศกันเกร่อทั่วไป ทุกครั้งที่มีใครพูดถึงประเทศไทยในแง่มุมนี้ ผมว่าคนไทยอย่างผมอย่างคุณผู้อ่านส่วนใหญ่ ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ทุกครั้งก็ฟังอย่างไม่สบายใจนักหรอก เราอยากเป็นเมืองที่น่าเที่ยวน่าอยู่ด้วยจุดเด่นทางวัฒนธรรม ธรรมชาติที่สวยงาม มากกว่าจะเป็นแหล่งอบายมุข แต่เมื่อมันเป็นความจริง ก็ต้องพูดกันแบบไม่หลอกตัวเอง

ประเทศเราเทียบกับเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย ก่อนหน้านี้เราได้เห็นข่าวนักศึกษาสาวคนนึงถูกรุมโทรม ล่วงละเมิดทางเพศ ประเทศเขามีผู้หญิงถูกกระทำแบบนี้คนแทบทั้งประเทศลุกขึ้นมาประท้วงเป็นกรณีตัวอย่างเพื่อปกป้องผู้หญิง แตกต่างกับประเทศไทยลิบลับ

ผมว่าอาชีพโสเภณีจะมีจำนวนน้อยลง ถ้าหญิงเหล่านั้นมีทางเลือกในการประกอบอาฃีพอื่นเลี้ยงชีวิต มีการศึกษาที่จะเป็นรากฐานในการทำมาหาเลี้ยงชีพและใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ มีสำนึกในเกียรติศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ไม่ยอมขายร่างกาย แลกเงินทองหรือตกเป็นทาสอยากมีอยากได้วัตถุสิ่งของในกระแสสังคมบริโภค และยังเชื่อมโยงกับศีลธรรมจริยธรรมคุณธรรมของคนในสังคมทั้งเพศหญิงและเพศชาย

จะว่าไปแล้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผู้หญิงคือเพศที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของบ้านเมืองไม่แพ้เพศชาย หญิงที่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาความขัดแย้ง บางครั้งก็เป็นวิรสตรี บางครั้งก็กลายเป็นตัวปัญหา หรือแม้ต้นตอของปัญหา

อย่างในสามก๊กเตียวเสี้ยน ก็เป็นผู้หญิงที่อ้องอุ้นส่งไปเพื่อทำให้ลิโป้ทะเลาะกับตั้งโต๊ะ และทำให้สองคนนี้ต้องพบจุดจบ

แบบนี้จะเรียกว่าโสเภณีก็คงจะได้ แต่ก็เป็นการทำไปตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย และทำเพื่อส่วนร่วมด้วย

ตัวละครหญิงอีกคนนึงที่อยู่ในสามก๊กอย่างเสียวเกี้ยว ภรรยาจิวยี่ ที่ตัดสินใจเอาตัวเป็นเหยื่อล่อให้โจโฉตายใจจนลมเปลี่ยนทิศ เธออาจจะไม่ได้สำส่ออน อาจจะไม่ถึงขึ้นมีอะไรกับโจโฉ แต่ก็เป็นการใช้สเน่ห์หลอกล่อผู้ชาย เล่นเอาโจโฉแพ้ศึกผาแดงไปเลย

ที่ผมหยิบยกแม่นางเสียวเกี้ยวขึ้นมา เพราะผมเห็นว่า ตลอดเวลาไม่ว่าโลกจะผ่านไปนานแค่ไหน สตรีคืออาวุธชีวภาพที่ร้ายแรง และถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองได้ผลเสมอ

ในโลกตะวันตก อย่างสงครามเมืองทรอย โลกก็ต้องจดจำ สาเหตุของสงครามที่เกิดจากโจทย์ข้ออ้างเรื่องผู้หญิง และการใช้อำนาจ การแสวงหาอำนาจของเพศชาย

ผู้หญิงดีที่ทำเพื่อบ้านเมือง ผู้หญิงที่เสียสละก็มีอีกมากมาย ผู้หญิงที่ยอมเอาตัวเข้าแลกก็เยอะเหมือนกัน ความจริงแล้วไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร มันก็มีทั้งคนดีคนเลวไม่ต่างกัน โสเภณีที่เร่ขายตัวไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เธอขายตัวเองเพื่อแลกเงิน มันก็อาจจะยังดีกว่าผู้หยิงบางคนที่เอาของที่ไม่ใช่ของตัวเองไปขาย

ตอนนี้เมืองไทยมีนายกเป็นผู้หญิง แถมเป็นนายกหญิงคนแรก ถ้าเธอมีพฤติกรรมเร่ขายชาติบ้านเมือง ซึ่งไม่ใช่ทรัพย์สมบัติส่วนตัวของเธอ การเปรียบเทียบ กะหรี่ขายตัว กับหญิงคนชั่วขายชาติ จึงลึกซึ้งมีนัยยะสำคัญโดนใจคนในประเทศนี้

การเป็นนายก ถูกจับตามองก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก การถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็ยิ่งเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับบุคคลสาธารณะ ดังนั้นแล้วหากคุณคิดจะทำเพื่อส่วนรวมจริงก็อย่าไปกลัวต่อคำวิจารณ์เหล่านี้

การที่นายกและลิ่วล้อร้อนตัวต่อคำพูดของคุณชัย ราชวัตร นั้น หากมองในมุมกลับกัน คำพูดของคุณชัยที่ไม่ได้ระบุชื่อใคร การร้อนตัว บางทีคือการยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริง ยิ่งร้อนตัวถึงขั้นให้ทีมกฏหมายไปฟ้อง ยิ่งดูเหมือนว่าคุณจะยอมรับไม่ได้จนสติแตก

พระพุทธเจ้าสอนว่า สติมาปัญญาเกิด วันนี้นายกประเทศนี้ สติแตก ปัญญาดับ ดับสนิทจริงๆครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น